สุราษฎร์ธานี - พลิกวิกฤตเป็นโอกาส ชาวสวนยางในอำเภอบ้านนาเดิม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลูกข้าวไร่ในร่องต้นยางแปรรูปเป็นสินค้า OTOP สร้างรายได้ให้ชาวบ้าน
นายจักรกฤษณ์ ฝั่งชลจิตร์ นายอำเภอบ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยนายมนตรี เพชรขุ้ม อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมเปิดโครงการขับเคลื่อนศาสตร์พระราชา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หรือในหลวงรัชกาลที่ 9 และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ยึดถือเป็นแนวทางในการประพฤติตน ปฏิบัติงาน ร่วมแรงร่วมใจกันปฏิบัติตามศาสตร์พระราชา และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อีกทั้งยังได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชน วิธีการปลูกข้าวไร่ จากผู้มีประสบการณ์ เพื่อให้แต่ละคนได้นำกลับไปประยุกต์ใช้ให้เข้ากับความเป็นอยู่ของตนเอง
พร้อมกันนี้ นายอำเภอ ยังได้ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่กว่า 200 คน ลงแขกเกี่ยวข้าวไร่ที่ปลูกแซมในสวนยางพารา ในพื้นที่ ม.2 ต.ท่าเรือ อ.บ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อเป็นกรณีตัวอย่างของการยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ส่งเสริมการสร้างงานสร้างรายได้ ด้วยการปลูกข้าวไร่ไว้กินเอง เป็นการลดรายจ่ายในยุคที่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างหนัก ที่เหลือขายสร้างรายได้
นายจักรกฤษณ์ ฝั่งชลจิตร์ นายอำเภอบ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การปลูกข้าวไร่ของชาวบ้านโดยใช้พื้นที่ร่องต้นยางพารา และร่องปาล์มน้ำมันให้เป็นประโยชน์ โดยมีทางเจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญให้การส่งเสริมนำเมล็ดพันธุ์ข้าวประเภทต่างๆ ที่เหมาะกับสภาพพื้นที่ให้ชาวบ้านปลูก เมื่อเก็บเกี่ยวและเหลือจากกินในครัวเรือนแล้วสามารถนำไปขายสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง
โดยทางอำเภอเป็นผู้รับซื้อจากชาวบ้านจัดทำบรรจุภัณฑ์อย่างดีสวยงามใช้ชื่อว่า ข้าวไร่บ้านนา.และขายให้เองในราคากิโลกรัมละ 70 บาท กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมากเนื่องจากข้าวที่เกษตรกรผลิดเป็นข้าวปลอดสารพิษ และมีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย ต่อต้านโรคร้ายได้หลายโรคภัยไข้เจ็บ
นายจักรกฤษณ์ ฝั่งชลจิตร์ นายอำเภอบ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยนายมนตรี เพชรขุ้ม อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมเปิดโครงการขับเคลื่อนศาสตร์พระราชา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หรือในหลวงรัชกาลที่ 9 และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
เพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ยึดถือเป็นแนวทางในการประพฤติตน ปฏิบัติงาน ร่วมแรงร่วมใจกันปฏิบัติตามศาสตร์พระราชา และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อีกทั้งยังได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชน วิธีการปลูกข้าวไร่ จากผู้มีประสบการณ์ เพื่อให้แต่ละคนได้นำกลับไปประยุกต์ใช้ให้เข้ากับความเป็นอยู่ของตนเอง
พร้อมกันนี้ นายอำเภอ ยังได้ร่วมกับชาวบ้านในพื้นที่กว่า 200 คน ลงแขกเกี่ยวข้าวไร่ที่ปลูกแซมในสวนยางพารา ในพื้นที่ ม.2 ต.ท่าเรือ อ.บ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อเป็นกรณีตัวอย่างของการยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ส่งเสริมการสร้างงานสร้างรายได้ ด้วยการปลูกข้าวไร่ไว้กินเอง เป็นการลดรายจ่ายในยุคที่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างหนัก ที่เหลือขายสร้างรายได้
นายจักรกฤษณ์ ฝั่งชลจิตร์ นายอำเภอบ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การปลูกข้าวไร่ของชาวบ้านโดยใช้พื้นที่ร่องต้นยางพารา และร่องปาล์มน้ำมันให้เป็นประโยชน์ โดยมีทางเจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญให้การส่งเสริมนำเมล็ดพันธุ์ข้าวประเภทต่างๆ ที่เหมาะกับสภาพพื้นที่ให้ชาวบ้านปลูก เมื่อเก็บเกี่ยวและเหลือจากกินในครัวเรือนแล้วสามารถนำไปขายสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง
โดยทางอำเภอเป็นผู้รับซื้อจากชาวบ้านจัดทำบรรจุภัณฑ์อย่างดีสวยงามใช้ชื่อว่า ข้าวไร่บ้านนา.และขายให้เองในราคากิโลกรัมละ 70 บาท กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมากเนื่องจากข้าวที่เกษตรกรผลิดเป็นข้าวปลอดสารพิษ และมีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย ต่อต้านโรคร้ายได้หลายโรคภัยไข้เจ็บ
