นราธิวาส - มวลน้ำทะลักท่วม จ.นราธิวาส กระทบพ่อค้าแม่ค้าในตลาดนัดชายแดนตากใบ ต้องปิดร้านจนตลาดร้าง งดซื้อขายสินค้าตามแนวชายแดนประเทศมาเลเซียเป็นการชั่วคราว
มีรายงานข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาวะน้ำท่วมจากพื้นที่ จ.นราธิวาส แจ้งว่า ล่าสุด ฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก และต่อเนื่องได้หยุดตกลงแล้ว ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำในแม่สุไหงโก-ลก ที่ล้นตลิ่งเป็นเวลา 1 สัปดาห์ และได้ไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนที่อาศัยอยู่ที่ราบลุ่มริมตลิ่งของชุมชนท่าประปา เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จำนวน 15 ครัวเรือน ได้ลดระดับลงจนเข้าสู่สภาวะปกติ ประชาชนจึงได้ต่างพากันทำความสะอาดเก็บกวาดคราบดินโคลนที่มากับกระแสน้ำ เพื่อขนข้าวของสัมภาระที่จำเป็นที่หนีน้ำไปอาศัยอยู่ชั้น 2 มาจัดเรียงเพื่อใช้ชีวิตกันตามปกติ
นอกจากนี้ มวลน้ำในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก เพื่อระบายลงสู่ทะเลด้านปากอ่าวของ อ.ตากใบ ซึ่งมวลน้ำก้อนนี้ได้ไหลผ่านบ้านกัวลอต๊ะ หมู่ 4 ต.นานาค ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำได้ล้นตลิ่ง และได้ไหลเข้าท่วมร้านค้าในตลาดนัด ซึ่งมีปริมาณน้ำท่วมขังในภาพรวมโดยเฉลี่ย 40 เซนติเมตร จนพ่อค้าแม่ค้าต่างพากันปิดร้าน จนตลาดนัดบ้านกัวลอต๊ะ มีสภาพเป็นตลาดร้าง ต้องงดการซื้อขายสินค้าตามแนวชายแดนกับประเทศมาเลเซียเป็นการชั่วคราว
อย่างไรก็ตาม จากมวลน้ำก้อนนี้ ยังส่งผลทำให้พื้นที่ทางการเกษตรของชาวบ้านที่อยู่ในที่ราบลุ่ม ช่วงบริเวณบ้านแฆแบ๊ะ หมู่ 1 และบ้านท่า หมู่ 2 ต.นานาค ซึ่งเป็นเขตรอยต่อกับบ้านกัวลอต๊ะ หมู่ 4 ได้รับผลกระทบจากมวลน้ำก้อนนี้ไหลบ่าเข้าท่วมสวนปาล์มของประชาชนเป็นวงกว้าง จน นายปิ่น หล่ำ อายุ 60 ปี เจ้าของสวนปาล์มกว่า 20 ไร่ ต้องลุยน้ำเก็บเกี่ยวผลปาล์มที่สุกเพื่อออกจำหน่าย เนื่องจากหากทิ้งไว้นานอาจจะได้รับความเสียหายจากสภาวะน้ำท่วมขังได้
ส่วนด้านการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะน้ำท่วมของมวลน้ำก้อนนี้ ทางเจ้าหน้าที่ อบต.นานาค ได้นำเต็นท์มากางไว้บนถนน เพื่อให้ประชาชนที่บ้านถูกน้ำท่วมขังมาอพยพอยู่เป็นการชั่วคราว พร้อมทั้งได้นำข้าวสารอาหารแห้งแจกจ่ายให้จำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ในส่วนของสัตว์เลี้ยงจำพวกวัว ควาย ของประชาชนก็ได้พาหนีระดับน้ำท่วมขังมาอาศัยอยู่ตามท้องถนนเป็นการชั่วคราวแล้ว
