ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตรวจสอบพยานหลักฐานเหตุเรือฟินิกซ์ล่มคืบ รออีก 7 วัน ทีมวิศวกรส่งผลวิเคราะห์ ชี้ชัดสาเหตุ ผู้ร่วมรับผิดชอบ มุ่งแท่งซีเมนต์-จากุซซีบนดาดฟ้าทำเรือเสียสมดุลจนล่ม สอบมัดคนเซ็นผ่านพิมพ์เขียวฟินิกซ์มรณะ
ความคืบหน้าการติดตามตรวจสอบหาสาเหตุเรือฟินิกซ์ล่ม เมื่อวันที่ 5 ก.ค.2561 ที่ผ่านมา บริเวณห่างจากเกาะเฮ จ.ภูเก็ต 2 ไมล์ทะเล จนเป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวจีนเสียชีวิต 47 รายนั้น ล่าสุด เมื่อเวลา 16.30 น.วันนี้ (21 พ.ย.) พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีเรือฟินิกซ์ล่ม พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบ.สตม. พร้อมด้วย นายหลี ชุ่น ฝู รองกงสุลใหญ่จีนประจำสงขลา และผู้อำนวยการสำนักงานกงสุลจีนประจำภูเก็ต ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าการทำงานของพนักงานสอบสวน เจ้าพนักงานพิสูจน์หลักฐาน และผู้เชี่ยวชาญ รวมไปถึงวิศวกรด้านการต่อเรือ ณ รัตนชัยคานเรือ ซึ่งเป็นคานเรือที่นำเรือฟินิกซ์มาขึ้นคานเมื่อวันที่ 20 พ.ย. ภายหลังจากกู้ได้สำเร็จเมื่อวันที่ 18 พ.ย.ที่ผ่านมา ด้วยเครนขนาดใหญ่ 1,200 ตัน จากประเทศสิงคโปร์ ด้วยงบประมาณการกู้ทั้งหมด 35 ล้านบาท
โดยทาง พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีเรือฟินิกซ์ล่ม พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบ.สตม.พร้อมด้วย รองกงสุลใหญ่จีนประจำสงขลา และคณะ ได้ขึ้นไปตรวจสอบสภาเรือฟินิกซ์บนคานเรือ ก่อนที่จะลงมาประชุมร่วมกันถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบหาสาเหตุเรือฟินิกซ์ล่มเมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รอง ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีเรือฟินิกซ์ล่ม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเก็บพยานหลักฐาน ว่า มีความคืบหน้าไปมากแล้ว ทางพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เก็บพยานหลักฐานต่างๆ ตั้งแต่วันที่กู้เรือขึ้นมาพ้นน้ำ ตลอดมาจนถึงช่วงที่ลากเรือเข้าฝั่งและนำเรือมาขึ้นคาน โดยได้เก็บหลักฐานทางด้านกายภาพ และโครงสร้างของเรือ ซึ่งจากการตรวจสอบด้วยสายตา ภายในเรือพบแท่งซีเมนต์ที่อยู่บริเวณใต้ท้องเรือจำนวนหนึ่งด้วย รวมไปถึงพบในส่วนของกระเป๋า หนังสือเดินทาง และโทรศัพท์ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เก็บหลักฐานในส่วนของโครงสร้างทางกายภาพแล้ว ในวันพรุ่งนี้ (22 พ.ย.) เป็นต้นไป ทางวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อเรือจะเข้าไปตรวจสอบและวิเคราะห์พยานหลักฐานในเชิงลึกและทางวิทยาศาสตร์ เพื่อวิเคราะห์ว่าเรือฟินิกซ์ต่อได้มาตรฐานหรือไม่ ทั้งในส่วนของแท่งซีเมนต์ที่พบใต้ท้องเรือ ว่ามีน้ำหนักเท่าใด เป็นสาเหตุทำให้เรือล่มหรือไม่ รวมไปถึงประเด็นจุดถ่วงดุลของเรือ ซึ่งทางวิศวกรจะใช้เวลาประมาณ 7 วัน ในการวิเคราะห์ถึงสาเหตุของเรือฟินิกซ์ล่ม และใครจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ในครั้งนี้จนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 47 ราย
ด้าน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รรท.ผบ.สตม.กล่าวว่า สำหรับข้อมูลที่สื่อมวลชนให้ความสนใจว่าเรือที่ล่มที่จังหวัดภูเก็ตมีความเกี่ยวพันกับเรือที่ล่มในแม่น้ำเจ้าพระยา และเป็นการรับรองของวิศวกรคนเดียวกัน ของกรมเจ้าท่าหรือไม่นั้น ข้อมูลส่วนนี้ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน อย่างไรก็ตาม เมื่อเรือฟินิกซ์กู้ขึ้นมาได้แล้วขอให้ทุกภาคส่วนไม่ต้องกังวลใจ ในส่วนของ พล.ต.อ รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หัวหน้าพนักงานสอบสวน และตนเองในฐานะชุดสอบสวนสืบสวน จะให้เจ้าหน้าที่เร่งหาข้อมูลหลักฐานเพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้
เนื่องจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งกำชับให้ทุกภาคส่วนดำเนินคดีและทำความจริงให้ปรากฏ หากเจ้าหน้าที่รัฐคนไหนที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือตรวจรับรองต่างๆ ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานของระเบียบข้อบังคับ รองนายกรัฐมนตรีสั่งให้ดำเนินคดีในส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นอู่ต่อเรือ เจ้าหน้าที่รับรองการต่อเรือลำนี้ โดยหลังจากนี้ไม่เกินสัปดาห์หน้า จะได้เตรียมสรุปข้อมูลพร้อมกันและจะแถลงข่าวเพื่อปิดคดีในส่วนนี้ เพื่อทำให้ประชาชนชาวจีน ญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต คลายความข้องใจว่าสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ญาติพี่น้องเสียชีวิตเกิดจากสาเหตุใด
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ทีมวิศวกรเป็นผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ กระบวนการทำงานขณะนี้ไม่ยุ่งยากเนื่องจากว่าการตรวจแบบแปลนเรือ การสอบปากคำผู้ต่อเรือลำนี้ เจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจเอกสารแปลนเรือมาก่อน พร้อมทั้งมีการสอบปากคำมาก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้น ในวันนี้เมื่อดูจากวัตถุพยานคือเรือจริงๆ ก็จะตรงกับแปลนพิมพ์เขียวทั้งหมด ที่ได้ดำเนินการสอบสวนไว้แล้ว ในเรื่องความไม่สมบูรณ์ต่างๆ เรื่องการถ่วงโดยปูน หรือการเอาเครื่องยนต์รถบรรทุกมาใส่ ก็จะตรงทั้งหมด หรือมีจากุซซีที่อยู่ข้างบน ซึ่งตามแบบจะต้องไม่มีจากุซซีตามที่วิศวกรได้ระบุ และได้มีการมาต่อเติมทำเพิ่มภายหลัง โดยการต่อเติมในลักษณะนี้ ทำให้เรือไม่สมดุล
“จะต้องให้เวลาเพื่อให้ทีมวิศวกรได้ทำงาน รวมถึงผู้เชี่ยวชาญทางเรือในการที่จะนำหลักฐานต่างๆ มาประกอบสำนวนสอบสวน และขอยืนยันว่าในสัปดาห์หน้าจะสรุปความจริงได้ทั้งหมด ว่าจะมีการดำเนินคดีเพิ่มเติมกับใครบ้าง และรายละเอียดสาเหตุของเรือล่มเกิดจากอะไร” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าว
บทเรียนที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ จะเป็นบทเรียนที่สำคัญสำหรับประเทศไทยและจะต้องไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว และประเทศไทยจะต้องสร้างมาตรฐานความปลอดภัย ทั้งทางรถทางเรือ เพื่อสร้างมาตรฐานด้านการท่องเที่ยว และในสัปดาห์หน้าจะมีการสรุปข้อมูลทั้งหมดร่วมกับรัฐบาลจีน เพื่อให้สังคมได้เข้าใจ ให้ญาติผู้เสียชีวิตได้หายสงสัย โดยจะทำความจริงให้ปรากฏ เพื่อแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยรับผิดชอบต่อสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุเป็นการแสดงความจริงใจในการนำเรือขึ้นมาในการดำเนินคดีต่อผู้ที่เกี่ยวข้อง ในการค้นหาหลักฐานทั้งหมด
“สำหรับงบประมาณในการดำเนินการกู้เรือฟินิกซ์ครั้งนี้ ใช้งบประมาณของรัฐบาล จำนวน 35 ล้านบาท โดยรัฐบาลมีความตั้งใจที่จะกู้เรือฟินิกซ์ให้ได้ จึงได้นำตัวเครนขนาด 1,200 ตัน จากประเทศสิงคโปร์มาดำเนินการ” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวในที่สุด
