ธารน้ำใจหลั่งไหลช่วยเหลือเจ้าอาวาสวัดดอนกุฏิป่วยเป็นมะเร็งกล่องเสียง

ชุมพร - คณะกรรมการวัดขอบคุณธารน้ำใจหลั่งไหลช่วยเจ้าอาวาสวัดดอนกุฏิ จ.ชุมพร ป่วยเป็นมะเร็งกล่องเสียง เนื้องอก ยอดบริจาคกว่า 4 แสนบาท

จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าว พระใบฎีกาสาธร สญฺญโม อายุ 67 พรรษา เจ้าอาวาสวัดดอนกุฏิ หมู่ที่ 5 ตำบลบางสน อ.ปะทิว จ ชุมพร และมีตำแหน่งเป็นเจ้าคณะตำบลบางสน ซึ่งเป็นพระสงฆ์เพียงรูปเดียวที่จำวัดดังกล่าว ได้อาพาธเป็นโรคมะเร็งกล่องเสียง และมีเนื้องอกก้อนโตกว่ากำปั้นบวมเปล่งออกมาที่บริเวณลำคอด้านขวา ต้องทรมานเจ็บปวด แต่ขาดปัจจัยค่าใช้จ่ายจำนวนมากในการเดินทางไปมาเพื่อรักษาตัวที่ จ.สุราษฎร์ธานี และที่กรุงเทพมหานคร อีกทั้งมีภาระต้องรับผิดชอบวัดในฐานะเจ้าอาวาสที่เป็นพระสงฆ์เพียงรูปเดียวของวัดและในฐานะตำแหน่งเจ้าคณะตำบล ตามข่าวที่เสนอแล้วนั้น

วันนี้ (17 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าหลังสื่อมวลชนนำเสนอข่าวกรณีดังกล่าว ได้มีชาวบ้านผู้มีจิตศรัทธาจากทั่วประเทศบริจาคเงินเข้าบัญชีวัดจำนวนมาก โดย นางสมศรี กาญจนี กรรมการวัดดอนกุฏิ กล่าวว่า ขอขอบคุณนักข่าวที่นำเสนอข่าว และคนไทยจากทั่วประเทศที่ช่วยเหลือพระใบฎีกาสาธร สญฺญโม ซึ่งอาพาธเป็นโรคมะเร็งกล่องเสียง และก้อนเนื้อบวมโตที่ลำคอ ขณะนี้มียอดเงินบริจาคเข้าบัญชีหมายเลข 020234271623 ธนาคารออมสิน สาขาปะทิว โดยมี นายจำนงค์ ไผ่ยา นางสมศรี กาญจณี คณะกรรมการผู้มีชื่อในบัญชี เป็นเงินทั้งสิ้น 286,769 บาท และบริจาคเข้าบัญชีส่วนตัวของพระใบฎีกาสาธร สญฺญโม อีกจำนวน 30,328 บาท รวม 2 ยอดบัญชีเป็นเงิน 317,097 บาท ซึ่งจะดูแลเงินทั้งหมดให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาคทุกคน

ขณะเดียวกัน พระเทพมงคลกวี เจ้าคณะจังหวัดชุมพร (ธ) และพระราชวิจิตรปฏิภาณ เจ้าคณะจังหวัดชุมพร พร้อมด้วยคณะสงฆ์จังหวัดชุมพร สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดชุมพร ได้เดินทางไปมอบปัจจัยร่วมสมทบทุนรักษาอาการอาพาธโรคมะเร็งให้อก่ พระใบฎีกาสาธร สญฺญโม เจ้าอาวาสวัดดอนกุฏิ รวมเป็นเงิน 106,250 บาท โดยเงินจำนวนนี้พระใบฎีกาสาธร สญฺญโม ได้นำไปฝากแยกเข้าบัญชีส่วนตัว ทำให้ขณะนี้มียอดเงินบริจาคจากทั่วประเทศเป็นเงินทั้งสิ้น 423,347 บาท

พระใบฎีกาสาธร สญฺญโม กล่าวว่า ขอขอบใจผู้มีจิตศรัทธาทั่วประเทศ สำหรับเงินที่บริจาคมานั้นได้แยกเป็น 2 บัญชี คือ บัญชีคณะกรรมการวัด และบัญชีส่วนตัวของอาตมาเองเพื่อสะดวกในการเบิกจ่ายในการรักษา ส่วนอาการอาพาธนั้นขณะนี้ได้รักษาด้วยยาสมุนไพรทั้งที่ซื้อเอง และที่ญาติโยมจัดหามาให้ และมีแพทย์ พยาบาลจากโรงพยาบาลปะทิว เข้ามาดูแลให้ยาและฉีดยาระงับอาการเจ็บปวดเป็นประจำ ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างปรึกษาหารือกับผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่ายเกี่ยวกับการรักษาเพื่อให้เงินทุกบาททุกสตางค์เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค และเตรียมความพร้อมในการเดินทางไปตรวจรักษาที่ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคมะเร็งสุราษฎร์ธานี ส่วนจะรักษาหายหรือไม่อาตมาสละหมดแล้ว และจะขอมรณภาพอยู่ที่วัดแห่งนี้