ศูนย์ข่าวภูเก็ต - นักศึกษาหนุ่มเปิดใจนาทีเฉียดตาย หลังหนุ่มที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญ ขับรถพุ่งชนกลางไฟแดง ระบุยังผวา ขณะที่อีก 2 ราย กลับไปพักรักษาตัวที่บ้านต่างจังหวัด
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต และ สภ.เชิงทะเล ร่วมกันวิสามัญนายชิษณุพงษ์ เครือจันทร์ อายุ 29 ปี เสียชีวิต เมื่อเวลาประมาณ 01.30 น.ของวันที่ 18 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา หลังจากที่ผู้ตายได้ขับรถแหกด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจในตัวเมืองภูเก็ต และหลบหนีไปทางพื้นที่ สภ.เชิงทะเล ซึ่งระหว่างที่หลบหนีนั้น นายชิษณุพงษ์ ผู้ตายได้ขับรถยนต์กระบะพุ่งชนรถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน ที่จอดติดไฟแดงบริเวณสามแยกไฟแดงหน้าโรงไฟฟ้า ถนนเทพกระษัตรีฝั่งขาออก ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย
วันนี้ (24ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พูดคุยกับผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ใน 3 รายดังกล่าว คือ นายซำซูรีย์ (ขอสงวนนามสกุล) นักศึกษาของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้รับบาดเจ็บที่บริเวณเอว และสะโพก จากการถูกกระแทก เนื่องจากเหตุการณ์ถูกรถกระบะพุ่งชน
นายซำซูรีย์ กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุตนเอง และเพื่อนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์กลับจากธุระ และกำลังกลับบ้านพักในพื้นที่ ต.เกาะเก้ว ขณะที่กำลังจอดติดไฟแดงอยู่ข้างๆ กับรถจักรยานยนต์ของผู้ได้รับบาดเจ็บอีกคันนั้น ได้ยินเสียงเครื่องยนต์รถดังมาจากด้านหลัง จึงพยายามหันกลับไปดู แต่ยังไม่ทันมองเห็นก็ถูกชนกระแทกจากด้านหลังอย่างจังจนทั้งตนเอง และรถ รวมถึงผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย กระเด็นไปตกที่กลางถนน ก่อนที่รถคันดังกล่าวหักหลบเข้าซ้าย และขับออกไปอย่างรวดเร็ว ขณะนั้นเพื่อนที่ซ้อนท้ายมาด้วยกระโดดหลบออกไปด้านข้างได้อย่างหวุดหวิด ทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บกับเหตุการณ์ในครั้งนี้
โดยหลังเกิดเหตุพบว่า รถจักรยานยนต์ของตนพังเสียหาย และตนเองได้รับบาดเจ็บที่เอว และสะโพก แต่ไม่ได้ไปหาหมอที่โรงพยาบาล โดยขณะนั้นตนเองไม่ทราบว่าเป็นการขับรถแหกด่านเจ้าหน้าที่ แต่คิดว่ารถคันดังกล่าวอาจจะมีปัญหาเรื่องระบบเบรกทำให้พุ่งชน ซึ่งมาทราบภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่เชิญตัวไปสอบปากคำแล้ว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนเองยังรู้สึกผวาเมื่อขับขี่รถจักรยานยนต์ และ จะคอยมองกระจกมองข้าง และฟังเสียงที่ดังผิดสังเกตอยู่ตลอดเวลา
ขณะนี้ผู้บาดเจ็บซึ่งถูก นายชิษณุพงษ์ ขับรถพุ่งชนอีก 2 รายนั้น ขณะนี้ออกจากโรงพยาบาล และไปพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน คือ นายนภดล บรรเลง อายุ 22 ปี และ และ น.ส.ศิริพร แก้วรากมุข อายุ 21 ปี ซึ่งนายนภดล ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะแตกเย็บ 6 เข็ม ส่วน น.ส.ศิริพร ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ แขน ขา ต้องเย็บแผลประมาณ 16 เข็ม
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต และ สภ.เชิงทะเล ร่วมกันวิสามัญนายชิษณุพงษ์ เครือจันทร์ อายุ 29 ปี เสียชีวิต เมื่อเวลาประมาณ 01.30 น.ของวันที่ 18 กันยายน 2561 ที่ผ่านมา หลังจากที่ผู้ตายได้ขับรถแหกด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ตำรวจในตัวเมืองภูเก็ต และหลบหนีไปทางพื้นที่ สภ.เชิงทะเล ซึ่งระหว่างที่หลบหนีนั้น นายชิษณุพงษ์ ผู้ตายได้ขับรถยนต์กระบะพุ่งชนรถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน ที่จอดติดไฟแดงบริเวณสามแยกไฟแดงหน้าโรงไฟฟ้า ถนนเทพกระษัตรีฝั่งขาออก ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย
วันนี้ (24ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่พูดคุยกับผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ใน 3 รายดังกล่าว คือ นายซำซูรีย์ (ขอสงวนนามสกุล) นักศึกษาของมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้รับบาดเจ็บที่บริเวณเอว และสะโพก จากการถูกกระแทก เนื่องจากเหตุการณ์ถูกรถกระบะพุ่งชน
นายซำซูรีย์ กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุตนเอง และเพื่อนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์กลับจากธุระ และกำลังกลับบ้านพักในพื้นที่ ต.เกาะเก้ว ขณะที่กำลังจอดติดไฟแดงอยู่ข้างๆ กับรถจักรยานยนต์ของผู้ได้รับบาดเจ็บอีกคันนั้น ได้ยินเสียงเครื่องยนต์รถดังมาจากด้านหลัง จึงพยายามหันกลับไปดู แต่ยังไม่ทันมองเห็นก็ถูกชนกระแทกจากด้านหลังอย่างจังจนทั้งตนเอง และรถ รวมถึงผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย กระเด็นไปตกที่กลางถนน ก่อนที่รถคันดังกล่าวหักหลบเข้าซ้าย และขับออกไปอย่างรวดเร็ว ขณะนั้นเพื่อนที่ซ้อนท้ายมาด้วยกระโดดหลบออกไปด้านข้างได้อย่างหวุดหวิด ทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บกับเหตุการณ์ในครั้งนี้
โดยหลังเกิดเหตุพบว่า รถจักรยานยนต์ของตนพังเสียหาย และตนเองได้รับบาดเจ็บที่เอว และสะโพก แต่ไม่ได้ไปหาหมอที่โรงพยาบาล โดยขณะนั้นตนเองไม่ทราบว่าเป็นการขับรถแหกด่านเจ้าหน้าที่ แต่คิดว่ารถคันดังกล่าวอาจจะมีปัญหาเรื่องระบบเบรกทำให้พุ่งชน ซึ่งมาทราบภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่เชิญตัวไปสอบปากคำแล้ว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตนเองยังรู้สึกผวาเมื่อขับขี่รถจักรยานยนต์ และ จะคอยมองกระจกมองข้าง และฟังเสียงที่ดังผิดสังเกตอยู่ตลอดเวลา
ขณะนี้ผู้บาดเจ็บซึ่งถูก นายชิษณุพงษ์ ขับรถพุ่งชนอีก 2 รายนั้น ขณะนี้ออกจากโรงพยาบาล และไปพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน คือ นายนภดล บรรเลง อายุ 22 ปี และ และ น.ส.ศิริพร แก้วรากมุข อายุ 21 ปี ซึ่งนายนภดล ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะแตกเย็บ 6 เข็ม ส่วน น.ส.ศิริพร ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ แขน ขา ต้องเย็บแผลประมาณ 16 เข็ม
