xs
xsm
sm
md
lg

ชาวนาโยงใต้เดือดร้อนถูกปิดถนนเหลือ 1 เมตร ทั้งที่เคยยกให้เป็นทางสาธารณประโยชน์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ตรัง - ชาวนาโยงใต้ อ.เมืองตรัง ราว 20 ครัวเรือนเดือดร้อนหนัก หลังถูกเพื่อนบ้านนำลวดหนามมาขึงปิดถนนจนเหลือแค่ 1 เมตร ทั้งที่เจ้าของที่ดินเดิมเคยยกให้ อบต.เป็นทางสาธารณประโยชน์ไปแล้ว

วันนี้ (10 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังพื้นที่หมู่ที่ 3 ต.นาโยงใต้ อ.เมืองตรัง หลังจากได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านกลุ่มหนึ่ง ว่า กำลังเดือดร้อน และได้รับผลกระทบอย่างหนัก เนื่องจากถนนซึ่งเดิมใช้เป็นเส้นทางสัญจรไปมาในหมู่บ้านมาอย่างยาวนานแล้ว ได้ถูกปิดกั้นจากเจ้าของที่ดินรายใหม่ ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านเดียวกันที่อ้างถือครองกรรมสิทธิ์ ทั้งที่เจ้าของที่ดินรายเดิมแจ้งว่า เคยยกที่ดินพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นของ อบต.นาโยงใต้ เพื่อเป็นทางสาธารณประโยชน์ไปแล้ว

ซึ่งหลังจากตรวจสอบพบว่า พื้นที่ที่ถูกปิดกั้นซึ่งเดิมเป็นถนนภายในหมู่บ้านนั้น มีความกว้างประมาณ 5 เมตร แต่ได้มีผู้นำลวดหนามมาขึงล้ำเข้ามาบนถนนเกือบ 4 เมตร จึงเหลือเพียงช่องเล็กๆ ราว 1 เมตร พอให้รถจักรยานยนต์ผ่านไปมาได้เท่านั้น โดยที่รถยนต์ หรือรถพ่วงข้างไม่สามารถใช้ได้เหมือนเมื่อก่อน กลุ่มชาวบ้านที่อาศัยอยู่ด้านในจึงทำได้แค่เดินเท้าเข้าออกยังบ้านของตนเองเท่านั้น
 

 
นางประมูณ พรมราช อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45 หมู่ที่ 4 ต.นาโยงใต้ กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากการปิดถนนเส้นนี้มีประมาณ 20 ครอบครัว ก่อนหน้านี้ พวกตนเคยติดต่อไปยัง อบต.นาโยงใต้ และมีการทำหนังสือร้องขอความเป็นธรรมไปยังศูนย์ดำรงธรรมอำเภอเมืองตรัง แต่เรื่องก็ยังเงียบไม่มีความคืบหน้า โดยครอบครัวของตนได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะต้องใช้รถพ่วงข้างไปขนน้ำกินน้ำใช้จากข้างนอกเข้ามายังบ้านซึ่งอยู่ข้างใน

“อีกทั้งตนยังต้องใช้เส้นทางนี้เป็นประจำทุกวัน ทั้งส่งหลานไปโรงเรียน ออกไปทำมาหากิน หรือกรีดยางพารา อีกทั้งตนเอง และสามีก็พิการ เนื่องจากประสบอุบัติเหตุขาหัก ทำให้เดินไม่สะดวก เมื่อมาถูกปิดถนนอีกจึงถือเป็นเคราะห์ซ้ำกรรมซัด และเมื่อนำเรื่องไปแจ้งยังส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ต่างก็ส่ายหน้าหนี ไม่มีผู้ใดสนใจมาแก้ปัญหาให้ จึงต้องวอนขอความเห็นใจผ่านสื่อไปยังหน่วยงานต่างๆ ให้มาดูแลช่วยเหลือโดยด่วน” นางประมูณ พรมราช กล่าว

ด้าน นางชอบ ชำเกลี้ยง อายุ 65 ปี ชาวหมู่ที่ 4 ต.นาโยงใต้ อีกรายก็กล่าวว่า เนื่องจากเมื่อปี 2553 ตนในฐานะเจ้าของที่ดินเดิมได้มีภาระหนี้สินกับเพื่อนบ้านรายหนึ่งซึ่งเป็นญาติกัน จึงแก้ปัญหาโดยการยกที่ดินซึ่งมีพื้นที่อยู่ติดกับถนนสายนี้ให้เป็นการตอบแทน และได้แจ้งให้ทราบแล้วว่า ตนเองได้ยกที่ดินขนาดกว้างประมาณ 4 เมตร ให้ตัดถนนเป็นทางสาธารณประโยชน์ ตามที่ทาง อบต.นาโยงใต้ ร้องขอ เพื่อให้ชาวบ้านได้ใช้อย่างสะดวก ซึ่งเพื่อนบ้านรายนี้ก็ไม่ได้คัดค้านใดๆ และได้รับปากตนเองว่าจะไม่ปิดทาง โดยไม่ได้มีการทำเอกสารใดๆ เป็นหลักฐาน
 

 
“กระทั่งต่อมา อบต.นาโยงใต้ ก็มีการนำเสาไฟฟ้ามาปักเพื่อแสดงเป็นแนวเขตทางสาธารณะเรียบร้อย แต่เมื่อตนเองได้มีการโอนกรรมสิทธิ์ให้เป็นของเพื่อนบ้านรายดังกล่าวเมื่อปีที่แล้ว กลับมีการกั้นลวดหนามปิดทางเข้าออก และไม่ยอมพูดคุยเจรจาด้วย จนทำให้ตน และชาวบ้านหลายคนได้รับความเดือดร้อน” นางชอบ ชำเกลี้ยง กล่าว

ขณะที่ นายทวี คงบัน นายก อบต.นาโยงใต้ กล่าวว่า ทาง อบต.ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ได้มีการทำหนังสือไปยังอำเภอเมืองตรัง ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตรัง และสำนักงานอัยการจังหวัดตรัง เพื่อแจ้งข้อมูลข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ทั้งการสอบพยานบุคคล หรือหลักฐานต่างๆ ถึงที่มาที่ไปของที่ดินแปลงนี้แล้วทุกอย่าง ตอนนี้อยู่ระหว่างรอว่าทางส่วนที่เกี่ยวข้องจะสั่งให้ดำเนินการอย่างไร 

ซึ่งทาง อบต.เองก็ไม่ได้มีอำนาจที่จะไปดำเนินการโดยพลการ เพราะทุกฝ่ายต่างไม่ยอมกัน และเจรจาพูดคุยกันไม่ได้ ทั้งที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันแท้ๆ แม้กระทั่งตนเองก็ยังถูกร้องเรียนว่า ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 จนต้องไปสู้กันตามกระบวนการของกฎหมาย อย่างไรก็ตาม หากการเจรจาไม่เป็นผล ก็จำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการของกฎหมายเพื่อให้ศาลพิจารณา
 


กำลังโหลดความคิดเห็น