พังงา - ชาวบ้านหินร่ม อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา กว่า 100 คน รวมตัวชูป้ายเรียกร้องจังหวัดสรุปผลสอบสวนข้อเท็จจริงการทุจริตของผู้นำชุมชนกรณีทุจริตโครงการ 9101 ขณะที่คนถูกร้องเรียนระบุเป็นการกลั้นแล้งทางการเมือง ทำให้ขาดความน่าเชื่อถือ
เมื่อเวลา 16.30 น.วันนี้ (24 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทางชาวบ้านหินร่ม หมู่ 2 ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา จำนวนกว่า 100 คน ร่วมชุมนุม ที่บริเวณสวนสมเด็จระศรีนครินทร์ฯ (สวนสมเด็จย่าฯ) เขตเทศบาลเมืองพังงา จ.พังงา พร้อมติดป้ายเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจ หรือ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ปรับเปลี่ยนผู้นำชุมชนในบ้านหินร่ม
นายสงัด จันทร์แก้ว อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ ¼ หมู่ 2 ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา แกนนำชาวบ้านในครั้งนี้ ระบุถึงสาเหตุที่ชาวบ้านหินร่มต้องมาร่วมตัวกันเรียกร้องว่า เนื่องจากผู้นำชุมชนในตำบลคลองเคียน มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับการเป็นผู้นำ กรณีทุจริตโครงการ 9101 โดยการนำมะพร้าวน้ำหอมจำนวน 1,012 ต้น มีการนับครั้งแรก ที่ปลูกได้จำนวน808 ต้น ขาดไป 204 ต้น โดยมีเจ้าหน้าที่จากทางจังหวัดเป็นกรรมการในการนับ
จ่ายเงินค่าแรงงานให้สมาชิกในโครงการไม่ครบตามสมควรที่ได้รับ บางรายได้ค่าแรงเกินอัตราที่กำหนด ปลูกในพื้นที่ไม่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงมหาดไทย การยึดอำนาจการบริหารน้ำประปาหมู่บ้านจากตัวแทนหมู่บ้าน โดยทาง อบต.คลองเคียน รับรองมาเป็นทีมงานของกำนันเอามาบริหารเองเป็นเวลา 7 ปี ทำให้ชาวบ้านขาดน้ำกินน้ำใช้เป็นระยะเวลานานซึ่งส่อไปในทางทุจริตเอื้อผลประโยชน์พวกพ้อง
มีพฤติกรรมข่มขู่ชาวบ้านให้ตกใจกลัว ทำลายทรัพย์สิน ข่มขู่เอาชีวิตลูกบ้านและบางครอบครัวต้องย้ายไปอาศัยที่อื่น สร้างความแตกแยกให้ชุมชน ปลุกระดมชาวบ้านให้เกิดการเข้าใจผิดกรณีเงินปันผลสาธารณประโยชน์ เป็นเงินประมาณ105,000 บาท จงใจแจ้งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงาและเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพังงา เพื่อให้ทำการรื้อถอนกลุ่มอนุรักษ์ชุมชนคนหินร่ม
ล่าสุดทางชาวบ้านหินร่ม เรียกร้องให้ทางจังหวัดหาข้อสรุปหลังจากรับปากกับชาวบ้านก่อนหน้านี้จะดำเนินการสอบสวนให้เสร็จภาย 15 วัน จะให้ผลสรุปเรื่องดังกล่าว ซึ่งขณะนี้จนครบ 15 วัน ตามที่ตกลงกันไว้ ทางชาวบ้านหินร่มจึงได้รวมตัวกันเพื่อขอคำตอบจากทางจังหวัด โดยพร้อมที่จะชุมนุมต่อเนื่องจนกว่าทางจังหวัดจะให้คำตอบเป็นที่น่าพอใจ และมีทีท่าว่าจะยืดเยื้อ ซึ่งผู้ชุมนุมเตรียมพร้อมปักหลักที่ศาลากลางจังหวัดพังงา โดยอาศัยค้างคืนและพร้อมยกระดับความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง
ทางนายสงัด กล่าวอีกว่า จากที่มีการร้องเรียนตรวจสอบพฤติกรรมของผู้นำชุมชนตำบลคลองเคียน ที่ทำลายกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ที่ชาวบ้านได้สร้างร่วมขึ้นมา ซึ่งได้ให้ทางจังหวัดพังงาตรวจสอบผู้นำชุมชนในเรื่องของ 1.สร้างอิทธิพล ข่มขู่ชาวบ้าน 2. สร้างความแตกแยกขณะที่เป็นผู้นำชุมชน 3.ทุจริตคอรัปชั่นโครงการ 9101 4.ทุจริตเรื่องน้ำประปาหมู่บ้านจนชาวบ้านเดือดร้อนมานาน
ล่าสุดทางจังหวัดพังงาได้นัดให้ชาวบ้านหินร่มมารับฟังผลการพิจารณา และทางจังหวัดได้มีการสอบสวนผู้เรียกร้องและผู้ถูกร้องกันแล้วในแต่ละฝ่าย แต่ผลจะมีมูลหรือไม่นั้นทางชาวบ้านจึงได้รวมกลุ่มกันมารับฟัง ซึ่งชาวบ้านคาดว่าที่เรียกร้องไปนั้นผลสรุปไม่น่าจะออกมาเป็นที่พอใจจึงได้เข้ามารวมตัวกันเพื่อให้ทางจังหวัดพิจารณาจนกว่าเป็นที่พอใจ และจะต่อสู้จนกว่าผลออกมาเป็นที่พอใจของชาวบ้านหินร่ม
ด้านนางมยุรี วาหะรักษ์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/10 หมู่ 2 ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา กล่าวว่า มีชาวบ้านที่ถูกผู้นำชุมชนไม่พอใจที่ไม่ซื้อขายสัตว์น้ำให้แก่ผู้นำชุมชน จนถูกคุกคามโดยการปาไข่เน่าและขี้ใส่หลังคาบ้าน ต่อมาถูกทำลายสะพานเพื่อห้ามไม่ให้เข้าบ้านของชาวบ้านที่อาศัยมาตั้งแต่ ปู่ ย่า ตา ยาย จนชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน กระทั่งจำเป็นต้องขายบ้านให้ตนเอง หลังจากตนเองเข้าอยู่ก็ถูกคุกคามต่ออีก
ซึ่งตนเองมองว่าการกระทำของผู้นำชุมชนดังกล่าวไม่ถูกต้อง ตนเองได้เข้าแจ้งความหลายครั้ง แต่ทางเจ้าหน้าที่มองเป็นเรื่องทะเลาะวิวาทกันในหมู่บ้านธรรมดา แต่เมื่อหลายๆครั้งเข้าทางเจ้าหน้าที่จึงต้องรับแจ้งความพร้อมดำเนินคดีกับกลุ่มคนของผู้นำชุมชน ซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่เพียงแต่บ้านของตนเองมีชาวบ้านอีกจำนวนกว่า 10 หลังคาเรือน ที่โดนลักษณะตนเอง
ส่วนทาง นายอำหรอน เสล่ราษฎร์ กำนันตำบลคลองเคียน กล่าวว่า ที่ชาวบ้านไม่พอใจนั้นตนเองมองเป็นเรื่องการเมือง โดยเฉพาะตำแหน่ง นายก อบต.คลองเคียน เนื่องจากการกระทำของชาวบ้านเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของตนเองในหมู่บ้านและตำบลเนื่องจากเกรงว่าตนเองจะมีบทบาทกว่า นายก อบต.คลองเคียน
เมื่อเวลา 16.30 น.วันนี้ (24 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าทางชาวบ้านหินร่ม หมู่ 2 ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา จำนวนกว่า 100 คน ร่วมชุมนุม ที่บริเวณสวนสมเด็จระศรีนครินทร์ฯ (สวนสมเด็จย่าฯ) เขตเทศบาลเมืองพังงา จ.พังงา พร้อมติดป้ายเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจ หรือ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา ปรับเปลี่ยนผู้นำชุมชนในบ้านหินร่ม
นายสงัด จันทร์แก้ว อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ ¼ หมู่ 2 ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา แกนนำชาวบ้านในครั้งนี้ ระบุถึงสาเหตุที่ชาวบ้านหินร่มต้องมาร่วมตัวกันเรียกร้องว่า เนื่องจากผู้นำชุมชนในตำบลคลองเคียน มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับการเป็นผู้นำ กรณีทุจริตโครงการ 9101 โดยการนำมะพร้าวน้ำหอมจำนวน 1,012 ต้น มีการนับครั้งแรก ที่ปลูกได้จำนวน808 ต้น ขาดไป 204 ต้น โดยมีเจ้าหน้าที่จากทางจังหวัดเป็นกรรมการในการนับ
จ่ายเงินค่าแรงงานให้สมาชิกในโครงการไม่ครบตามสมควรที่ได้รับ บางรายได้ค่าแรงเกินอัตราที่กำหนด ปลูกในพื้นที่ไม่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงมหาดไทย การยึดอำนาจการบริหารน้ำประปาหมู่บ้านจากตัวแทนหมู่บ้าน โดยทาง อบต.คลองเคียน รับรองมาเป็นทีมงานของกำนันเอามาบริหารเองเป็นเวลา 7 ปี ทำให้ชาวบ้านขาดน้ำกินน้ำใช้เป็นระยะเวลานานซึ่งส่อไปในทางทุจริตเอื้อผลประโยชน์พวกพ้อง
มีพฤติกรรมข่มขู่ชาวบ้านให้ตกใจกลัว ทำลายทรัพย์สิน ข่มขู่เอาชีวิตลูกบ้านและบางครอบครัวต้องย้ายไปอาศัยที่อื่น สร้างความแตกแยกให้ชุมชน ปลุกระดมชาวบ้านให้เกิดการเข้าใจผิดกรณีเงินปันผลสาธารณประโยชน์ เป็นเงินประมาณ105,000 บาท จงใจแจ้งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติอ่าวพังงาและเจ้าท่าภูมิภาคสาขาพังงา เพื่อให้ทำการรื้อถอนกลุ่มอนุรักษ์ชุมชนคนหินร่ม
ล่าสุดทางชาวบ้านหินร่ม เรียกร้องให้ทางจังหวัดหาข้อสรุปหลังจากรับปากกับชาวบ้านก่อนหน้านี้จะดำเนินการสอบสวนให้เสร็จภาย 15 วัน จะให้ผลสรุปเรื่องดังกล่าว ซึ่งขณะนี้จนครบ 15 วัน ตามที่ตกลงกันไว้ ทางชาวบ้านหินร่มจึงได้รวมตัวกันเพื่อขอคำตอบจากทางจังหวัด โดยพร้อมที่จะชุมนุมต่อเนื่องจนกว่าทางจังหวัดจะให้คำตอบเป็นที่น่าพอใจ และมีทีท่าว่าจะยืดเยื้อ ซึ่งผู้ชุมนุมเตรียมพร้อมปักหลักที่ศาลากลางจังหวัดพังงา โดยอาศัยค้างคืนและพร้อมยกระดับความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง
ทางนายสงัด กล่าวอีกว่า จากที่มีการร้องเรียนตรวจสอบพฤติกรรมของผู้นำชุมชนตำบลคลองเคียน ที่ทำลายกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ที่ชาวบ้านได้สร้างร่วมขึ้นมา ซึ่งได้ให้ทางจังหวัดพังงาตรวจสอบผู้นำชุมชนในเรื่องของ 1.สร้างอิทธิพล ข่มขู่ชาวบ้าน 2. สร้างความแตกแยกขณะที่เป็นผู้นำชุมชน 3.ทุจริตคอรัปชั่นโครงการ 9101 4.ทุจริตเรื่องน้ำประปาหมู่บ้านจนชาวบ้านเดือดร้อนมานาน
ล่าสุดทางจังหวัดพังงาได้นัดให้ชาวบ้านหินร่มมารับฟังผลการพิจารณา และทางจังหวัดได้มีการสอบสวนผู้เรียกร้องและผู้ถูกร้องกันแล้วในแต่ละฝ่าย แต่ผลจะมีมูลหรือไม่นั้นทางชาวบ้านจึงได้รวมกลุ่มกันมารับฟัง ซึ่งชาวบ้านคาดว่าที่เรียกร้องไปนั้นผลสรุปไม่น่าจะออกมาเป็นที่พอใจจึงได้เข้ามารวมตัวกันเพื่อให้ทางจังหวัดพิจารณาจนกว่าเป็นที่พอใจ และจะต่อสู้จนกว่าผลออกมาเป็นที่พอใจของชาวบ้านหินร่ม
ด้านนางมยุรี วาหะรักษ์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/10 หมู่ 2 ต.คลองเคียน อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา กล่าวว่า มีชาวบ้านที่ถูกผู้นำชุมชนไม่พอใจที่ไม่ซื้อขายสัตว์น้ำให้แก่ผู้นำชุมชน จนถูกคุกคามโดยการปาไข่เน่าและขี้ใส่หลังคาบ้าน ต่อมาถูกทำลายสะพานเพื่อห้ามไม่ให้เข้าบ้านของชาวบ้านที่อาศัยมาตั้งแต่ ปู่ ย่า ตา ยาย จนชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน กระทั่งจำเป็นต้องขายบ้านให้ตนเอง หลังจากตนเองเข้าอยู่ก็ถูกคุกคามต่ออีก
ซึ่งตนเองมองว่าการกระทำของผู้นำชุมชนดังกล่าวไม่ถูกต้อง ตนเองได้เข้าแจ้งความหลายครั้ง แต่ทางเจ้าหน้าที่มองเป็นเรื่องทะเลาะวิวาทกันในหมู่บ้านธรรมดา แต่เมื่อหลายๆครั้งเข้าทางเจ้าหน้าที่จึงต้องรับแจ้งความพร้อมดำเนินคดีกับกลุ่มคนของผู้นำชุมชน ซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่เพียงแต่บ้านของตนเองมีชาวบ้านอีกจำนวนกว่า 10 หลังคาเรือน ที่โดนลักษณะตนเอง
ส่วนทาง นายอำหรอน เสล่ราษฎร์ กำนันตำบลคลองเคียน กล่าวว่า ที่ชาวบ้านไม่พอใจนั้นตนเองมองเป็นเรื่องการเมือง โดยเฉพาะตำแหน่ง นายก อบต.คลองเคียน เนื่องจากการกระทำของชาวบ้านเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของตนเองในหมู่บ้านและตำบลเนื่องจากเกรงว่าตนเองจะมีบทบาทกว่า นายก อบต.คลองเคียน
