xs
xsm
sm
md
lg

ตลาดค้าส่งทุเรียนเบตงคึกคัก พ่อค้าแม้ค้าจากมาเลย์-สิงคโปร์ต้องการผลผลิตเพียบแบบไม่อั้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 
ยะลา - บรรยากาศรับซื้อขายส่งทุเรียนที่ด่านพรมแดนและตลาดค้าส่ง ใน อ.เบตง จ.ยะลา ค่อนข้างคึกคักเป็นพิเศษ เนื่องจากมีพ่อค้าแม่ค้าจากมาเลเซียและสิงคโปร์ ต้องการทุเรียนในประเทศไทยจำนวนมาก หลังปีนี้ผลผลิตออกมาน้อยเพราะฝนชุม

วันนี้ (26 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการค้าขายส่งทุเรียน ที่บริเวณด่านพรมแดน อ.เบตง จ.ยะลา ติดกับ อ.ปึงกาลันฮูลู รัฐเปรัก ประเทศมาเลเซีย และตลาดค้าส่งทุเรียนค่อนข้างคึกคักมากเป็นพิเศษ เนื่องจากบรรดาพ่อค้าแม่ค้าจากประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ ต่างมีความต้องการซื้อทุเรียนในประเทศไทย หลังปีนี้ผลผลิตออกมาน้อย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากฝนตกต่อเนื่องในช่วงออกผลผลิต แม้จะไม่ถึงในช่วงทุเรียนพื้นบ้านของ อ.เบตง ออกผลผลิตก็ตาม

แต่ทางพ่อค้าแม่ค้ามีความต้องการทุเรียนพันธุ์พวงมณีและชะนี รวมถึงทุเรียนพื้นบ้านของ อ.เบตง และผลไม้ชนิดอื่นๆ ซึ่งนักบริโภคทุเรียนชาวมาเลเซียและสิงคโปร์ต่างชื่นชอบรสชาติของผลไม้ไทย โดยเฉพาะทุเรียนพันธุ์พวงมณี ชะนี และทุเรียนพื้นบ้านของ อ.เบตง ซึ่งมีรสชาติคล้ายกันแต่ของไทยจะมีรสชาติดีกว่า จึงกลายเป็นผลไม้ที่นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียและสิงคโปร์ให้ความนิยมชื่นชอบเป็นอย่างมาก
 

 
นางพรรณี วิทยสิริไพบูลย์ แม่ค้าขายส่งทุเรียน กล่าวว่า ทุเรียนนอกฤดูส่วนใหญ่จะเป็นการปลูกเพื่อตอบสนองความต้องการตลาดต่างประเทศ ราคาซื้อในช่วงนี้จะค่อนข้างแพง ถ้าราคาถูกจะเป็นทุเรียนประเภทตกไซส์ คือ ทุเรียนที่มีรูปร่างไม่สวย แต่เนื้อข้างในเหมือนกัน แต่ถ้าต้องการทุเรียนคุณภาพดีจะแข่งขันกันที่ราคา พ่อค้าแม่ค้าจำเป็นต้องซื้อของด้วยต้นทุนที่สูง แต่ถ้าสู้ราคาไม่ได้ก็ต้องซื้อทุเรียนประเภทตกไซส์มาขายแทน

โดยทุเรียนที่ขายในประเทศไทยต้องเป็นทุเรียนคุณภาพ มีเปอร์เซ็นต์สูง 90-100 เปอร์เซ็นต์ ทุเรียนต้องแก่เท่านั้นถึงจะขายได้ แต่ถ้าส่งออกแม้ว่าจะเป็นทุเรียนที่เปอร์เซ็นต์ต่ำประมาณ 70-80 เปอร์เซ็นต์ ก็สามารถขายได้ เพราะผู้บริโภคต่างประเทศนิยมบริโภคทุเรียนอ่อนกรอบๆ ปัจจุบันทุเรียนที่ขายตามท้องตลาดโดยเฉพาะตลาดค้าส่งจะหาได้เฉพาะทุเรียน 80-90 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

จากการที่ผลผลิตทุเรียนในปีนี้ค่อนข้างน้อย ปัจจัยสำคัญมาจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ดอกทุเรียนที่ออกเป็นจำนวนมากร่วง ส่งผลให้ปีนี้ทุเรียนออกล่าช้ากว่าปีอื่นๆ คาดว่าผลผลิตจะเข้าสู่ตลาดไม่มากนัก แต่ในช่วงเดือนกรกฎาคม ทุเรียนจะเริ่มทยอยเข้ามาในตลาดเพิ่มมากขึ้น ส่วนที่ทุเรียนที่รับมาในขณะนี้สั่งมาจากจันทบุรี เพื่อส่งออกจะมีอยู่ 2 พันธุ์ คือ พันธุ์พวงมณี และพันธุ์ชะนี
 

 
ซึ่งราคาขายทุเรียนในช่วงนี้ ทุเรียนพันธุ์พวงมณี มี 3 เกรด คือ เกรดเบอร์ 1 ราคาขายส่ง กิโลกรัมละ 120-125 บาท นำมาขายส่งออก กิโลกรัมละ 135- 140 บาท เกรดเบอร์ 2 ราคาขายส่ง กิโลกรัมละ 75-80 บาทขายส่งออก กิโลกรัมละ 95-120 บาท และเกรดเบอร์ 3 ราคาขายส่ง กิโลกรัมละ 40-50 บาท ขายส่งออก กิโลกรัมละ 55-60 บาท

ส่วนทุเรียนพันธุ์ชะนี มี 2 เกรด คือ เกรด A รับมาจากพ่อค้าคนกลางที่ตลาดจันทบุรี เกรด A รับมา กิโลกรัมละ 50-55 ขายส่ง กิโลกรัมละ 55-70 บาท เกรด B ราคาขายส่งจากพ่อค้าคนกลาง กิโลกรัมละ 35-40บาท ขายส่ง กิโลกรัมละ 55-60 บาท ซึ่งผู้บริโภคชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ จะเลือกซื้อทุเรียนที่มีน้ำหนักไม่เกิน 4 กิโลกรัม เนื่องจากจะมีรสชาติกำลังพอดีไม่หวานจนเกินไปและเนื้อทุเรียนจะอ่อนกรอบๆ

ส่วนทุเรียนพันธุ์เหมา ซาน หว่อง ขณะนี้ยังไม่ออกผลผลิต ซึ่งขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 400-500 บาท ซึ่งเป็นที่นิยมบริโภคของชาวมาเลเซีย และสิงคโปร์ และในช่วงเดือนกรกฏาคมผลผลิตทุเรียนพื้นบ้านของ อ.เบตง จะออกผลผลิต และทุเรียนพันธุ์เหมา ซาน หว่อง ออกผลผลิต จะมีคณะนักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ เหมารถตู้ รถบัสมาซื้อกินถึงสวนทุเรียนของเกษตรกรถึงสวนเลยทีเดียว ซึ่งสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรชาวสวนทุเรียนในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา ได้เป็นอย่างดี
 



กำลังโหลดความคิดเห็น