xs
xsm
sm
md
lg

โผล่อีก! โกงเงินผู้ยากไร้ที่สตูล มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท ป.ป.ท.เร่งสรุปหาคนผิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 
สตูล - สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ลงพื้นที่ตรวจสอบการเบิกจ่ายงบประมาณช่วยเหลือผู้ยากไร้ของนิคมสร้างตนเองจังหวัดสตูล ปี 2560 พบพิรุธมีการเบิกเงินช่วยคนผู้ยากไร้ มูลค่ากว่า 10 ล้านบาท เตรียมกำหนดกรอบดำเนินคดีกับผู้กระทำในพื้นที่รับผิดชอบ

วันนี้ (19 มี.ค.) นายสัญชาติ อุปนันชัย ผอ.กอท. และ พ.ต.ท.สามารถ ไชยณรงค์ ผอ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. เขตพื้นที่ 9 นำเจ้าหน้าที่กองอำนวยการต่อต้านการทุกจริต ป.ป.ท.เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีใช้เงินงบประมาณช่วยเหลือผู้ยากไร้ปี 2560 ของนิคมสร้างตนเอง จังหวัดสตูล โดยลงตรวจสอบในพื้นที่ ต.เขาขาว อ.ละงู จ.สตูล

จากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเงินงบประมาณปี 2560 ที่นิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้จังหวัดสตูล จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติและสืบค้นจากแฟ้มเอกสารในรอบปีงบประมาณ 2560 ได้รับแจ้งว่า นิคมสร้างตนเองไม่ได้ขอรับงบประมาณไปยังส่วนกลางและไม่พบเอกสารแต่อย่างใด
 

 
แต่ปรากฏว่าได้รับการจัดสรรเงินงบประมาณประเภทเงินอุดหนุน จำนวน 10,851,000 บาท จากกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการโดยได้รับการจัดสรรจำนวน 5 ครั้ง ประกอบด้วย ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2559 จำนวน 5,150,000 บาท, ครั้งที่ 2 วันที่ 18 ต.ค.2559 จำนวน 500,000 บาท, ครั้งที่ 3 วันที่ 7 เม.ย.2560 จำนวน 200,000 บาท, ครั้งที่ 4 วันที่ 2 พ.ค.2560 จำนวน 5,000,000 บาท และครั้งสุดท้ายที่ 5 วันที่ 11 ก.ค.2560 จำนวน 1,000 บาท

โดยแบ่งเป็นเงินที่จัดสรรเพื่อสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย และผู้ไร้ที่พึ่ง จำนวน 10,350,000 บาท คือ ครั้งที่ 1 ครั้งที่ 3 และครั้งที่ 4 เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมในจังหวัดสตูล ส่วนครั้งที่ 2 เป็นโครงการแจกถุงยังชีพพระราชทาน และครั้งที่ 5 เป็นเงินทุนการศึกษาจำนวน 1 ทุน ผู้ที่มีอำนาจในการพิจารณาอนุมัติในการเบิกจ่ายเงินได้แก่ผู้ปกครองนิคมสร้างตนเองพัฒนาภาคใต้จังหวัดสตูล

ในปีงบประมาณ 2560 ได้มีรายการเบิกจ่ายเงินตามที่ได้รับการจัดสรร จำนวน 22 คำขอเบิก/ครั้ง เป็นเงินจำนวน 10,851,000 บาท จำนวนการอนุมัติให้การช่วยเหลือ จำนวน 5,526 ราย
 

 
เงินจัดสรรเพื่อสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่งจำนวน 10,350,000 บาท นั้นมีการจัดสรรมาจำนวน 3 ครั้ง โดยทางนิคมพัฒนาสร้างตนเอง ได้มีการแบ่งกลุ่มเบิกจ่ายเงินสด 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 รายละ 3,000 บาท กลุ่มที่ 2 รายละ 2,000 บาท

จากการที่ได้นำเอาแบบใบสำคัญรับเงิน (แบบ 5) มาตรวจสอบบางส่วนและลงพื้นที่ไปสอบถามผู้ที่มีรายชื่อเป็นผู้รับเงินตามแบบบางส่วนแล้ว สามารถแยกรายละเอียดที่ตรวจพบความผิดปกติได้คือ กรณีเบิกจ่ายเงินสด จำนวน 3,000 บาท เพื่อนำไปแจกชาวบ้าน มีการเบิกจ่ายจริง แต่นำไปจ่ายเพียง 2,000 บาท โดยจะให้ชาวบ้านลงลายมือชื่อในใบสำคัญรับเงินที่ยังไม่ได้กรอกข้อความ (แบบเปล่า) เป็นผู้รับเงินพร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านที่รับรองสำเนาถูกต้องแล้ว ไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯ ต่อมาเจ้าหน้าที่ของศูนย์จะนำเอาเงินใส่ซองแจกให้กับชาวบ้าน ต่อมาปรากฏว่าได้มีการกรอกข้อมูลและจำนวนเงินลงไปในใบสำคัญรับเงินที่มีลายชื่อดังกล่าวว่ารับเงินไปจำนวน 3,000 บาท
 

 
กรณีเบิกจ่ายเงินสด จำนวน 2,000 บาท เพื่อนำไปแจกชาวบ้าน ปรากฏว่ามีการเบิกจ่ายจริงแต่ไม่นำเอาเงินสดที่ได้รับการอนุมัติแล้วไปจ่ายให้กับชาวบ้าน โดยได้มีการซื้อสิ่งของกินของใช้ บรรจุใส่กล่องลังพลาสติก เช่น ข้าวสาร น้ำตาลทราบ น้ำมันพืช ปลากระป๋อง ฯลฯ แล้วนำไปมอบให้ชาวบ้าน ลงลายมือชื่อในใบสำคัญรับเงินที่ยังไม่ได้กรอกข้อความ (แบบเปล่า) เป็นผู้รับเงิน พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านที่รับรองสำเนาถูกต้องแล้วไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ของศูนย์ กรอกข้อมูลและจำนวนเงินลงไปในใบสำคัญรับเงินที่มีลายมือช่อดังกล่าว่ารับเงินไป จำนวน 2,000 บาท

การสืบสวนยังพบว่าได้มีการซื้อต้นกาแฟ แล้วนำไปมอบให้กับชาวบ้านคนละ 70 ต้น โดยให้ชาวบ้านลงลายมือชื่อในใบสำคัญเงินที่ยังไม่ได้กรอกข้อความ (แบบเปล่า) เป็นผู้รับเงิน พร้อมแนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านที่รับรองสำเนาถูกต้องแล้ว ไปมอบให้เจ้าหน้าที่ของศูนย์ ต่อมาปรากฏว่าได้มีการกรอกข้อมูลและจำนวน เงินลงไปในใบสำคัญรับเงินที่ลายมือ ชื่อดังกล่าวว่ารับเงินจำนวน 2,000 บาท
 

 
ได้มีการจัดหาแว่นตาเพื่อนำมามอบให้กับผู้มีปัญหาทางสายตา แล้วนำไปมอบให้กับชาวบ้าน มีการจัดร้านมาวัดสายตาจริง บางรายแว่นไม่ตรงกับสายตา แต่ให้มีการลงรายมือชื่อในกระดาษแบบฟอร์มรับเงินเปล่า ซึ่งมีการกรอกภายหลังจำนวน 2,000 บาทเช่นกัน บางส่วนยังพบว่าชาวบ้านที่รับความเดือดร้อนไม่ได้เดือดร้อนจริง ตามคุณสมบัติที่กำหนดไว้

พ.ต.ท.สามารถ ไชยณรงค์ ผอ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. เขตพื้นที่ 9 กล่าวว่า หลังจากนี้จะนำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์และลงติดตามสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิด ซึ่งขอให้ประชาชนอย่าได้ตกใจหรือกังวลหากสิ่งใดคือสิทธิ์ที่พึ่งจะได้รับก็ให้ยืนยันตามความจริง อย่าไปกลัวว่าครั้งต่อไปจะไม่ได้รับสิทธิ์เหล่านี้ ขอให้ข้อมูลที่เป็นจริงกับเจ้าหน้าที่
 


กำลังโหลดความคิดเห็น