xs
xsm
sm
md
lg

กอ.รมน.โต้เครือข่ายเฉพาะกิจฯ ระบุเป็น “แถลงการณ์ลวงโลก” จี้หยุดหลอกลวงประชาชน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 
ปัตตานี - โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 โต้เครือข่ายเฉพาะกิจเพื่อปกป้องพลเรือน และเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ยุติการคุกคาม และปิดปากประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ว่าเป็น “แถลงการณ์ลวงโลก” พร้อมเรียกให้องค์กรดังกล่าวยุติหลอกลวงประชาชน

วันนี้ (3 มี.ค.) ที่กองทัพภาคที่ 4 และหน่วยงานความมั่นคงภาค 4 ส่วนหน้า ภายหลังที่ทางองค์กรเครือข่ายภาคประชาสังคมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ร่วมการออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ทางกองทัพภาคที่ 4 ทบทวนการปฏิบัติการณ์ทางทหารในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในห้วงที่ผ่านมา พบมีการกระทำที่เข้าข่ายการล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อมิให้เกิดการตรวจสอบ และถ่วงดุลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ หรือที่เรียกว่า SLAPPs (Strategic Lawsuit against Public Participations) จึงเสนอข้อเรียกร้อง ดังต่อไปนี้

1. ขอเรียกร้องให้ กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า และหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง ยุติการคุกคามประชาชนทุกกลุ่มชาติพันธุ์ ศาสนา ด้วยการบังคับใช้กฎหมายพิเศษที่ไม่เป็นธรรม

2. ขอเรียกร้องให้กลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ หรือขบวนการต่อสู้ปาตานี ยุติการคุกคาม และโจมตีพลเรือนทุกกลุ่มชาติพันธุ์ ศาสนาโดยเด็ดขาด

3. ขอเรียกร้องให้ กอ.รมน. ภาค 4 ส่วนหน้า ยุติการคุกคามทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการแจ้งความดำเนินคดี (SLAPPs) ต่อประชาชน สื่อมวลชน และนักปกป้องสิทธิมนุษยชน

4. ขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทย ดำเนินการทบทวน และตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่างตรงไปตรงมา รวมถึงการดำเนินการชดเชยเยียวยาอย่างเหมาะสม และเป็นธรรม

5. ขอเรียกร้องให้ “หุ้นส่วนสันติภาพ” ทั้งรัฐบาลไทย กลุ่มผู้เห็นต่างจากรัฐ หรือขบวนการต่อสู้ปาตานีทุกกลุ่ม กลุ่มประชาสังคมทั้งในพื้นที่ และนอกพื้นที่ ตลอดจนองค์กรระหว่างประเทศ ได้ร่วมกันติดตาม และตรวจสอบกรณีการคุกคามข้างต้นอย่างใกล้ชิด ตลอดจนให้ข้อเสนอแนะในการคลี่คลายปัญหาอย่างสร้างสรรค์ต่อรัฐบาลไทย และขบวนการต่อสู้ปาตานี

และ 6. ขอเรียกร้องให้เพื่อนมิตรกลุ่มประชาสังคมในพื้นที่ทุกกลุ่มชาติพันธุ์ ศาสนา ผนึกกำลังกันเพื่อป้องกัน สกัด ขัดขวางไม่ให้ทุกฝ่ายละเมิดสิทธิมนุษยชน และปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ทั้งนี้ ก็เพื่อตอกย้ำหลักคิดที่ว่า สันติภาพนั้นไม่อาจปรากฏขึ้นได้ หากไร้ซึ่งความเป็นธรรม
 

 
ล่าสุด พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า เป็นการแถลงการณ์ลวงโลก พร้อมเรียกให้องค์กรดังกล่าว “ยุติหลอกลวงประชาชน” โดยมีถ้อยคำแถลง ดังนี้

ตามที่ได้ปรากฏข่าวกลุ่มเครือข่ายเฉพาะกิจ เพื่อปกป้องพลเรือน และเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ยุติการคุกคาม และปิดปากประชาชน ที่ได้เผยแพร่เมื่อ 2 มีนาคม 2561 ที่ผ่านมานั้น กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ทำการตรวจสอบประเด็นดังกล่าวแล้ว พบว่าเป็นการจงใจบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของระบบอำนาจรัฐ ดังนั้น จึงขอชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจ ดังนี้

1. สถานการณ์ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ตลอด 14 ปีที่ผ่านมา นอกจากความสูญเสียของพี่น้องประชาชนที่ต้องตกเป็นเหยื่อของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่มีพฤติกรรมแบบสุดโต่งแล้ว ยังพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มที่แอบอ้างว่าเป็นนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ที่คอยเคลื่อนไหวบิดเบือนข้อเท็จจริง และทำลายความน่าเชื่อถือของเจ้าหน้าที่รัฐ ดังปรากฏให้เห็นมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นการละเมิดสิทธิ และการซ้อมทรมาน ทั้งเรื่องการทำหนังสือร้องเรียนไปยังองค์กรต่างๆ การทำรายงานกล่าวหาเจ้าหน้าที่ละเมิดสิทธิ และย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ โดยไม่ยินยอมให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง และต่อมาภายหลัง เมื่อทำการตรวจสอบแล้วพบว่าไม่เป็นจริงตามที่กล่าวอ้างแต่อย่างใด ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวถือเป็นความจงใจทำลายความน่าเชื่อถือ และทำลายภาพลักษณ์ของประเทศในเวทีสากล

2. กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ให้ความสำคัญ และยึดมั่นในหลักการบังคับใช้กฎหมายด้วยความเสมอภาค และเป็นธรรม เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย และความสงบสุขของประชาชนภายใต้หลักนิติรัฐ เป็นการปฏิบัติภายใต้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายต่อผู้กระทำความผิดทุกคน โดยไม่เลือกปฏิบัติ และไม่สามารถละเว้นการปฏิบัติได้ ทั้งนี้ ได้ให้ความสำคัญกับหลักสิทธิมนุษยชนในทุกขั้นตอนของการบังคับใช้กฎหมาย ด้วยความโปร่งใส และเปิดโอกาสให้มีการตรวจสอบได้ทุกกรณี แต่ทุกครั้งที่มีการบังคับใช้กฎหมาย กลับถูกต่อต้านและบิดเบือนใส่ร้ายเจ้าหน้าที่ ซ้อมทรมานจากกลุ่มที่แอบอ้างว่าเป็นนักปกป้องสิทธิ ทั้งๆ ที่ตลอดเวลาที่ผ่านมา กลุ่มคนเหล่านี้ไม่เคยออกมาปกป้องสิทธิให้พี่น้องประชาชนที่ต้องตกเป็นเหยื่อของกลุ่มคนร้ายที่ใช้ความรุนแรง ทำให้สังคมเข้าใจว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง และสนับสนุนให้มีการใช้ความรุนแรง

3. การแจ้งความดำเนินคดีกับ บก.ผู้จัดการออนไลน์ และนายอิสมาแอ เตะ เป็นการใช้สิทธิตามกฎหมาย เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่ละเมิดกฎหมายด้วยการจงใจเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ ใส่ร้ายป้ายสีหน่วยงานของรัฐ โดยไม่ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทำให้เจ้าหน้าที่และหน่วยงานภาครัฐได้รับความเสียหาย ดังนั้น การขอพึ่งอำนาจของกระบวนการยุติธรรม จึงเป็นสิทธิอันชอบธรรมตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งไม่เกี่ยวกับการคุกคาม หรือปิดปากประชาชนตามที่กล่าวอ้าง และบิดเบือนแต่อย่างใด

4. กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ให้การเคารพในสิทธิและเสรีภาพของพี่น้องประชาชน ที่สามารถแสดงออกโดยไม่ละเมิดต่อกฎหมาย ดังนั้น จึงขอให้กลุ่มที่กำลังเคลื่อนไหว อย่านำปัญหาความมั่นคงในพื้นที่มาบิดเบือนเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่ม หรือผลประโยชน์ทางการเมือง และให้ยุติหลอกลวงประชาชน ด้วยการบิดเบือนข้อเท็จจริงที่อาจทำให้สังคมเกิดความสับสน วุ่นวาย เพราะเป็นพฤติกรรมที่ล่อแหลม และสุ่มเสี่ยงต่อการละเมิดกฎหมาย

สำหรับองค์กรต่างๆ ที่มาร่วมเป็นเครือข่ายเฉพาะกิจ และสื่อมวลชนขอให้ใช้ดุลยพินิจในการแสดงออก และนำเสนอข้อมูลข่าวสารบนพื้นฐานของความจริง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มที่มีนัยยะแอบแฝง ที่เข้ามาฉวยโอกาสสร้างสถานการณ์ความขัดแย้งให้ขยายวงกว้าง ที่ทำให้เกิดความยุ่งยากในการแก้ปัญหามากยิ่งขึ้น
 


กำลังโหลดความคิดเห็น