ยะลา - คณะทำงานวาระผู้หญิงชายแดนใต้ เดินหน้าจัดโครงการวิถีไทย วิถีชุมชน ร่วมกันสร้างชุมชนปลอดภัย ครั้งที่ 3 เผยที่ผ่านมาคนในชุมชนต้องการดูแลตนเอง และมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้
วันนี้ (5 ก.พ.) ที่โรงเรียนบ้านหน้าถ้ำ หมู่ 1 ต.หน้าถ้ำ อ.เมืองยะลา จ.ยะลา คณะทำงานวาระผู้หญิงชายแดนใต้ พร้อมด้วยสมาคมผู้หญิงเพื่อสันติภาพ และ 23 องค์กรที่ทำงานเพื่อผู้หญิงจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ร่วมกันจัดกิจกรรม “โครงการวิถีไทย วิถีชุมชน ร่วมกันสร้างชุมชนปลอดภัย ครั้งที่ 3” โดยมีผู้นำชุมชนทั้งพี่น้องไทยพุทธ และมุสลิมเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว ซึ่งมีการจัดเสวนาพูดคุยถึงประวัติศาสตร์การเป็นมาของพื้นที่ การนำศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นมาร่วมแสดง และการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของคนในชุมชนของพี่น้องทั้ง 2 ศาสนา เพื่อหาข้อเสนอแนะแนวทางการสร้างชุมชนปลอดภัย
น.ส.ปาตีเมาะ เปาะอีแตดาโอะ นายกสมาคมผู้หญิงเพื่อสันติภาพ เปิดเผยว่า กิจกรรมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 โดยเลือกชุมชนนำร่องในแต่ละจังหวัด โดยที่จังหวัดปัตตานี ได้จัดที่วัดช้างไห้ตก อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี จังหวัดนราธิวาส ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ซึ่งที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับ และข้อเสนอแนะจากผู้คนในชุมชน ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวนี้เพื่อสร้างความเป็นเจ้าของร่วมในข้อเสนอของชุมชนในการสร้างพื้นที่สาธารณะปลอดภัย และพัฒนาศักยภาพเรื่องกระบวนสันติภาพและการจัดการความขัดแย้ง รวมถึงสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องข้อเสนอในการขับเคลื่อนประเด็นพื้นที่สาธารณะปลอดภัยของคณะทำงานวาระผู้หญิง (PAOW) รวมถึงพัฒนาข้อเสนอเรื่องพื้นที่สาธารณะปลอดภัยในระดับชุมชน
“โดยที่ผ่านมา มีข้อเสนอจากการพูดคุยในชุมชน และเป็นความต้องการของคนในชุมชนเรื่องของการร่วมกันแก้ไขปัญหา และจัดพื้นที่ปลอดภัย เช่น 1.จัดตลาดให้เป็นระเบียบเพื่อความปลอดภัย และตรวจสอบได้ถ้ามีคนแปลกหน้าเข้ามาก่อเหตุในตลาด 2.ช่วยกันเป็นหูเป็นตาดูแลภายในตลาด โดยการแบ่งเวรรักษาความปลอดภัยชุมชน ซึ่งเป็นการรับสมัครจากคนในชุมชนทุกกลุ่ม ทั้งเด็ก เยาวชน ผู้นำ ผู้ชาย ผู้หญิง 3.จัดวางแผงขายของให้เป็นระเบียบเพื่อสะดวกต่อการดูแลความปลอดภัย 4.จัดระเบียบในการจอดรถของพ่อค้า และประชาชน เผื่อมีของแปลกปลอมบรรจุในรถ 5.ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ เพื่อสะดวกต่อการสัญจร และดูแลความปลอดภัย 6.เพิ่มความหลากหลายของสินค้าไทยพุทธ และมุสลิม เพื่อเป็นจุดดึงดูดของคนในชุมชนในการจับจ่ายซื้อของ และเป็นจุดแลกเปลี่ยน สร้างความสัมพันธ์ของผู้คนร่วมกันทั้งพุทธ-มุสลิม 7.จัดให้มีพื้นที่ประกอบอาชีพอย่างปลอดภัยเพื่อเป็นการเสริมรายได้ของคนในชุมชน และส่งเสริมสินค้าในชุมชน 8.อยากให้ไทยพุทธ และมุสลิมกลับมารักกัน โดยผ่านกิจกรรมตลาดนัดปลอดภัย ใส่ใจชุมชน 9.จัดให้ตลาดเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน 10.ให้ทุกคนเป็นตาสับปะรดในการดูแลตลาดให้ปลอดภัย” นายกสมาคมผู้หญิงเพื่อสันติภาพ กล่าว
อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดระเบิดขึ้นในตลาดสดพิมลชัย อ.เมืองยะลา จ.ยะลา เมื่อเดือนที่ผ่านมานั้น นายกสมาคมผู้หญิงเพื่อสันติภาพ ระบุว่า ยอมรับไม่ได้ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดสดพิมลชัย ซึ่งถือว่าเป็นพื้นสาธารณะที่ไม่ควรจะเกิดเหตุรุนแรงต่อผู้บริสุทธิ์ และเมื่อเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่สาธารณะ ก็ทำให้สูญเสียต่อกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพ แม้ว่าทางเจ้าหน้าที่ภาครัฐจะพยายามสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพูดคุย ในทางกลับกันกลับทำให้เสียต่อกระบวนการพูดคุย เพราะฉะนั้น หากจะมีการพูดคุยเพื่อสันติภาพ พื้นที่สาธารณะเหล่านี้ต้องมีความปลอดภัย และสร้างความเชื่อมั่นให้แก่คนในพื้นที่อย่างชัดเจน และมีส่วนร่วมในขบวนการสันติภาพมากขึ้น
