xs
xsm
sm
md
lg

เลื่อนสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่-เทพา 3 ปี ความเก๋าเกมส์กู้รัฐนาวา คสช.ที่ใกล้อับปาง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 
ศูนย์ข่าวภาคใต้ - “หมอสุภัทร” โพสเฟซบุ๊กวิเคราะห์ “ทำไม รมต.ศิริ ยอมสั่งเลื่อนการตัดสินใจสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่เทพาไป 3 ปี” เชื่อเป็นความเก๋าเกมส์เพื่อกู้รัฐนาวา คสช.ที่ใกล้อับปาง

จากหน้าเฟซบุ๊กส่วนตัวของ “นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ” ที่ได้เขียนเป็นบทวิเคราะห์ “ทำไม รมต.ศิริ ยอมสั่งเลื่อนการตัดสินใจสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่เทพาไป 3 ปี” โดยระบุว่า

บทวิเคราะห์ “ทำไม รมต.ศิริ ยอมสั่งเลื่อนการตัดสินใจสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่เทพาไป 3 ปี” ความเก๋าเกมส์เพื่อกู้รัฐนาวา คสช.ที่ใกล้อับปาง

การคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินทั้งที่เทพา และกระบี่อย่างหนัก ทำให้เกิดสิ่งที่ รมต.ศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมต.กระทรวงพลังงาน แถลงในวันนี้ (2 ก.พ.61) ซึ่งมี 3 ประเด็นคือ

1. รมต.ตัดสินใจเลื่อนโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ และเทพาออกไปอีก 3 ปี (ซึ่งเป็นการชะลอแบบหนึ่งตามที่นายกตู่บัญชา)
2. ในระหว่างการเลื่อนให้มีการศึกษา EHIA ต่อไปได้ (แปลว่า ศึกษาจน EHIA ได้จนเสร็จสมบูรณ์)
3. ไฟฟ้ายังพอ โดยจะสร้างสายส่งจากภาคกลางมาเพิ่ม และส่งเสริมโรงไฟฟ้าชีวมวลเพื่อผลิตไฟเข้าระบบ
สามประการที่ รมต.ศิริแถลงนี้ เป็นการถอยหนึ่งก้าวทางยุทธศาสตร์ที่เก๋าเกมส์ ทำไมจึงว่า “เก๋าเกมส์”

ต้องยอมรับว่ารัฐบาลประยุทธ์ ในช่วงสองสามเดือนนี้เป็นช่วงขาลงที่ดิ่งลงรุนแรงมาก มวลชนหาย ความหวังความเชื่อมั่นที่เคยมีหายไปหมดสิ้น ทั้งจากกรณีนาฬิกาหรู การเลื่อนเลือกตั้ง การปิดกั้นเสรีภาพยาวนาน การสลายการเดินเทใจให้เทพาด้วยความรุนแรงที่สงขลา การแพ้ทางกลุ่ม we walk ที่ศาลปกครองให้เดินได้ห้ามปิดกั้น รวมทั้งความน่าเบื่อสิ้นหวังกับรายการทีวีทุกคืนวันศุกร์ การจะกู้ศรัทธาให้กลับมา ไม่ให้รัฐนาวา คสช.ต้องล่มก่อนจะได้เลือกตั้งสานต่ออำนาจจึงเป็นภารกิจต้นๆ และการลดเงื่อนไขที่บ่อนเซาะรัฐบาลเรื่องโรงไฟฟ้าถ่านหินเป็นเรื่องที่ง่ายที่สุด ง่ายกว่าการตัดเนื้อร้ายนาฬิกาหรูหลายร้อยเท่า

ประกอบกับข้อเท็จจริงที่ว่า “ปัจจุบันประเทศไทยผลิตไฟฟ้าได้เกินความต้องการนับหมื่นเมกะวัตต์ ปริมาณสำรองไฟฟ้าวันนี้สูงถึง 30-40% และจะมีปริมาณสำรองเกิน 15% ไปถึงราวปี 2572 หรืออีกเป็นสิบปี จึงไม่มีเหตุให้ต้องรีบสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินอยู่แล้ว สามารถชะลอได้จริง โดยไม่มีความเสียหายใดๆ ต่อประเทศชาติ ทำให้สาย กฟผ.เถียงไม่ขึ้น ต้องยอมรับสภาพชะลอไปก่อน 3 ปี ตามที่ รมต.ศิริประกาศ”

และข้อเท็จจริงประการสำคัญคือ ถึง ครม.จะอนุมัติให้สร้างได้ในวันนี้พรุ่งนี้ ก็ไม่สามารถนำเครื่องจักรเข้าสู่พื้นที่ได้ เพราะการรื้อถอนบ้านเรือนเรือกสวนไร่นาพี่น้องในพื้นที่ 3,000 ไร่ ย่อมจะมีการคัดค้านต่อต้านอย่างหนัก เสี่ยงต่อการเกิดภาพการกระทำรุนแรงต่อพี่น้องประชาชน เสียคะแนนนิยมที่ต่ำติดดินอยู่แล้วจนกลายเป็นติดลบ หมดโอกาสในการต่ออายุสานต่ออำนาจของพรรคทหารไปเปล่าๆ

แต่การประกาศชะลอครั้งนี้ ก็ยังทิ้งเชื้อไฟอย่างดีไว้ในพื้นที่ เพราะยังเปิดเงื่อนไขว่าในระหว่าง 3 ปีนี้ ให้ศึกษา EHIA ไปพลางได้ (EHIA กระบี่เพิ่งเริ่มใหม่ ส่วนของเทพานั้นเสร็จสิ้นกระบวนการศึกษาแล้ว) ซึ่งเวลา 3 ปีสำหรับให้ศึกษา EHIA นั้น ย่อมศึกษาเสร็จอย่างแน่นอน เมื่อครบ 3 ปี จึงสามารถนำเข้าสู่กระบวนการตัดสินใจสร้าง หรือไม่สร้างได้ทันที ซึ่งการตัดสินใจเช่นนี้ ก็ยังมีเยื่อใย และความหวังให้กับ กฟผ. และกลุ่มทุนถ่านหิน ไม่ได้ตัดสินใจประกาศยกเลิกการสร้าง ดั่งที่ภาคประชาชนเรียกร้อง

ระยะเวลา 3 ปีข้างหน้านี้ เพียงพอสำหรับ กฟผ. ในการจัดกระบวนจัดทัพการทำงานมวลชนใหม่ทั้งหมด เพื่อสร้างการยอมรับของชุมชนอย่างแท้จริง ไม่ใช่การซื้อแจกเงินมวลชนเช่นในปัจจุบัน โดยหวังว่าจะให้มีการคัดค้านต่อต้านที่น้อยที่สุดในอนาคต นี่คือสิ่งท้าทายยิ่งของ กฟผ. และเป็นสิ่งที่ท้าทายยิ่งของกลุ่มชาวบ้านที่คัดค้านด้วย

การประกาศเลื่อนไป 3 ปี ซึ่งเหนือความคาดหมายของทุกฝ่ายในครั้งนี้ จึงเป็นความเก๋าเกมส์อย่างยิ่ง สามารถลดเงื่อนไขที่บ่อนเซาะรัฐบาลได้ สามารถต่ออายุให้ กฟผ. และทุนถ่านหินได้มีหวังลมๆ แล้งๆ ไปอีก 3 ปีได้ ทั้งนี้ เพราะอนุมัติไปก็สร้างไม่ได้ และขึ้นกับความสามารถเรื่องการทำงานมวลชนใหม่ใน 3 ปีนี้ ส่วนพี่น้องเทพาที่คัดค้านอย่างหนักก็ได้กลับบ้าน และไปตั้งรับศึกในพื้นที่ต่อไป หมดเหตุผลที่จะปักหลักอยู่หน้าทำเนียบต่อไป

อย่างไรก็ตาม EHIA โรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา อุดมไปด้วยข้อมูลที่ต้องสงสัยว่าเท็จ หรือต้องการการพิสูจน์ว่าจริง จึงควรยกเลิก EHIA โรงไฟฟ้าถ่านหินเทพานั้นเสียด้วย อันนี้คือหน้าที่ของกระทรวงทรัพย์ฯ และคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่จะมีการประชุมในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2561 โดยมี รมต.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ผู้มากมีนาฬิกาหรู และเพื่อนตายไปเกือบหมดแล้วนั่งหัวโต๊ะ นี่จึงเป็นเงื่อนไขสำคัญที่พี่น้องเทพายังยืนยันจะชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาลต่อไป

ไม่ใช่การได้คืบจะเอาศอก แต่นี่คือการยืนหยัดบนหลักการว่า “รัฐต้องยืนบนความถูกต้อง และเป็นธรรม หากรัฐยืนบนผลประโยชน์เฉพาะพรรคพวก และรังแกประชาชน ก็ต้องสู้จนกว่าความถูกต้องเป็นธรรมจะกลับคืนมา”

นายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ
2 กุมภาพันธ์ 2561
 



กำลังโหลดความคิดเห็น