xs
xsm
sm
md
lg

ฟังอีกด้าน! ลูกชายปู่ 106 ปี สุดช้ำถูกตราหน้าเนรคุณ ยันส่งเสียทุกเดือนไม่ขาด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
นครศรีธรรมราช - ลูกชายปู่ 106 ปี สุดช้ำถูกตราหน้าเนรคุณ ร้องขอความเป็นธรรม ยันส่งเสียทุกเดือนเก็บหลักฐานฝากเงินทุกชิ้น เตรียมนำส่งหลักฐานให้ศาลเพิกถอนการบังคับคดี รับไม่รู้ขั้นตอนพิจารณาของศาล

วันนี้ (28 ธ.ค.) ภายหลังจากเรื่องราวของพ่อเฒ่าปลอด รักษาสัตย์ อายุ 106 ปี ร้องต่อศาลเพิกถอนการให้ที่ดินแก่ลูกชาย และหลานชายกลับคืนมาจนกลายเป็นข่าวโด่งดัง ส่งผลให้ นายปลอบ รักการกิจภาคิน (รักษาสัตย์) อายุ 65 ปี และลูกชาย คือ นายพิชิตศักดิ์ รักวรกิจภาคิน อายุ 32 ปี กลายเป็นจำเลยทางสังคม ถูกตราหน้าว่าเป็นลูก และหลานเนรคุณ ในการฟ้องร้องเพิกถอนการให้ของนายปลอด ผู้เป็นพ่อ และปู่

จนกระทั่งศาลจังหวัดทุ่งสง สั่งให้สำนักงานบังคับคดีจังหวัดนครศรีธรรมราช ทำการบังคับคดียึดที่ดินโฉนด เลขที่ 39775 เลขที่ดิน 16 หน้าสำรวจ 2730 ของ นายพิชิตศักดิ์ หรือนายศุภณิช ลูกชาย และโฉนดเลขที่ 39776 เลขที่ดิน 12 หน้าสำรวจ 2733 ของนายปลอบ และให้ส่งเอกสารสิทธิ์ที่ดิน และนายพิชิตศักดิ์ ต่อมา เปลี่ยนชื่อเป็นนายศูภณิช ลูกชายตนเองคืนที่ดิน จำนวน 20 กว่าไร่กว่าภายใน 15 วัน จากหนังสือสั่งการลงวันที่ 21, 22 ธ.ค.2560
 
 

 
ขณะที่ นายปลอบ กล่าวว่า จากกรณีเรื่องที่นายปลอด ผู้เป็นพ่อฟ้องร้องตนเองมาจากกรณีที่ดินที่มอบให้ นายพิชิตศักดิ์ หรือนายศุภณิช บุตรชายตนเอง จำนวน 2 ไร่กว่า ทำให้นายประเสริฐ น้องชายต่างมารดาไม่พอใจ จึงได้มีปัญหามาตลอดถึงขั้นไล่ฆ่ากัน นายประเสริฐ ได้ใช้อาวุธปืนขนาด.38 ออกมายิงนายพิชิตศักดิ์ อาการสาหัสเมื่อปี 55 และได้รักษาตัวจนหาย โดยขณะเกิดเหตุนายประเสริฐ พร้อมลูกชายของเขาคือ นายจักรพันธ์ เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี แต่ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวได้จนเรื่องถึงชั้นศาล ทั้งคู่ถูกจำคุก 12 ปี ปัจจุบันยังอยู่ในเรือนจำ

เรื่องนี้ทำให้ นายปลอด ผู้เป็นพ่อเสียใจมากพยายามขอร้องไม่ให้มีการดำเนินคดี แต่นายพิชิตศักดิ์ ถูกยิงปางตายกระสุนถูกท้ายทอยทะลุปากโชคดีรอดชีวิตหวุดหวิด ซึ่งเป็นคดีที่ไม่สามารถยอมความได้อยู่แล้ว แต่หลังจากนั้น ได้มีการฟ้องร้องเพิกถอนการให้ซึ่งศาลได้พิจารณาไกล่เกลี่ยตกลงกันได้โดยที่ส่วนตัวเองจะต้องจ่ายเดือนละ 5,000 บาท นายพิชิตศักดิ์ หลานจ่ายเดือนละ 3,000 บาท และมีการบันทึกแนบท้ายหากนายปลอด ผู้เป็นพ่อเสียชีวิตตนเองต้องจ่ายอีก 150,000 บาท จึงได้มีการบันทึกเป็นหลักฐาน โดยหากผิดข้อตกจะทำให้สามารถบังคับคดีได้
 

 
“ผมยืนยันว่าผม และลูกซึ่งเป็นหลานปู่ของพ่อผมคือ นายปลอด ไปจ่ายเงินเข้าบัญชีผ่านธนาคาร ธ.ก.ส.สาขาทุ่งสง ทุกเดือน มีหลักฐานการนำเงินเข้าบัญชี แต่ยอมรับว่าผมไม่รู้เรื่องขั้นตอนศาลไม่ได้นำเอาหลักฐานการเข้าบัญชีไปส่งให้ศาล จนมาทราบเรื่องว่า มีเอกสารจากศาลแจ้งการบังคับคดียึดที่ดินคืน โดยวันนี้ได้นำเอาเอกสารการนำเข้าบัญชีไปส่งให้ศาลแล้ว และไม่ทราบว่าที่นำเงินเข้าบัญชีไปนั้นมีการเบิกจ่ายโดยใครหรือไม่ ส่วนตัวเองนั้นได้ส่งไปทุกเดือน” นายปลอบ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ช่วงเย็นที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายสมพร ชอบทำกิจ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ต.ถ้ำใหญ่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ได้แจ้งว่าหลังจากที่นายปลอบ ได้นำเอาเอกสารหลักฐานทางการเงินที่ส่งเข้าบัญชีทุกเดือนไปยื่นต่อศาล ศาลได้รับเข้าสู่ระบบเพื่อแจ้งต่อสำนักงานบังคับคดีเพิกถอนคำสั่งการบังคับคดี เนื่องจากการโอนเงินนั้นยังอยู่ในข้อตกลงแนบท้ายสำนวนการไกล่เกลี่ยเมื่อปี 2559 แล้ว
 
กำลังโหลดความคิดเห็น