กระบี่ - คืบหน้าพ่อเลี้ยงวัย 67 ปี ข่มขืนลูกเลี้ยงนาน 5 ปี ตั้งแต่อายุ 10 ขวบ จนถึง 15 ปี เจ้าหน้าที่เตรียมประสานสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำ ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายเรียกผู้ต้องหามาทำการสอบสวน และต้องรอผลตรวจร่างกาย คาดใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ด้านประธานมูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติ แฉ พ่อเลี้ยงยังบังคับให้เด็กกินยาขับเลือดหลังทราบเหยื่อตั้งท้อง
จากกรณีที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติสาขากระบี่-ภูเก็ต และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดกระบี่ พร้อมญาติ ได้นำเด็กหญิงอายุ 15 ปี เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองกระบี่ เมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา หลังถูกพ่อเลี้ยงวัย 67 ปี ข่มขืนกระทำชำเราต่อเนื่องเป็นเวลานานาน 5 ปี เหตุเกิดตั้งแต่ปี 2556 จนถึงเดือนกันยายน ปี 2560 แต่ผู้เสียหายกลัวว่ามารดาจะเสียใจ ประกอบกับถูกพ่อเลี้ยงข่มขู่ จึงไม่กล้าบอกใคร เบื้องต้น เจ้าหน้าที่นำเด็กหญิงผู้เสียหายไปตรวจร่างกาย คาดว่าจะทราบผลภายในเวลา 1 เดือน และทำการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเตรียมออกหมายเรียกพ่อเลี้ยงมาสอบปากคำดำเนินคดีตามกฎหมาย
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (7 พ.ย.) ร.ต.อ.วิโชติ มีภพ พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกระบี่ ได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐาน และเตรียมประสานเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ นักจิตวิทยา และพนักงานอัยการ ร่วมสอบปากคำ ด.ญ.บี (นามสมมติ) ผู้เสียหายที่ถูกพ่อเลี้ยงข่มขืน เนื่องจากยังเป็นเยาวชน ภายหลังจากที่นำเด็กไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลกระบี่ อยู่ระหว่างรอผลตรวจ คาดว่าใช้เวลาประมาณ 1 เดือนจึงจะทราบผล ซึ่งหลังจากนี้จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายเรียกผู้ต้องหามาทำสอบสวนดำเนินคดี
ขณะที่ พ.ต.อ.สงบ จันทร์สิงห์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองกระบี่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ญาติของเยาวชนหญิงได้ร้องขอให้มีพนักงานสอบสวนในคดีที่เป็นผู้หญิงด้วย เพื่อความสบายใจ จึงได้แต่งตั้ง พ.ต.ท.อมรัตน์ สุทธิเกิด รอง สว.(กลุ่มงานสอบสวน ) ภ.จว.กระบี่ มาเป็นพนักงานสอบสวนในคดีนี้ แต่อย่างไรก็ตาม จะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ส่วนเยาวชนหญิงคนดังกล่าว ทางญาติได้พาไปอาศัยกับญาติที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อความปลอดภัย
ด้าน นายมนตรี ขาวขำ ประธานมูลนิธิมุสลิมเพื่อสันติ สาขากระบี่ เปิดเผยว่า กรณีที่เกิดขึ้นตนได้รับการร้องเรียนมานาน จึงได้ลงพื้นที่สืบหาข่าว ส่วนสาเหตุที่ทำให้ทางญาติทราบเรื่องที่เกิดขึ้น สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เด็กหญิงผู้เสียหายได้มีอาการตกเลือด ทางญาติจึงได้สอบเค้นเด็กหญิงผู้เสียหาย จนกระทั่งทราบว่า ถูกพ่อเลี้ยงบังคับให้กินยาขับเลือด เนื่องจากได้ตั้งท้อง แต่พ่อเลี้ยงต้องการปกปิดเรื่องนี้ จึงได้บังคับให้กินยาขับ
แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องรอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง เนื่องจากทางมูลนิธิมีหน้าที่ประสานความช่วยเหลือเท่านั้น ส่วนเรื่องการสอบสวนข้อเท็จจริงก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของพนักงานสอบสวนดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย