สุราษฎร์ธานี - ผู้การสุราษฎร์ฯ สั่งพักงานอาสาสมัครตำรวจขับรถตราโล่ชนรถวัยรุ่นจนได้รับบาดเจ็บ พร้อมสั่งล้อมคอกทุกโรงพักให้คุมเข้มการปฏิบัติหน้าที่ของอาสา และตั้งกรรมการหลายฝ่ายเข้าตรวจสอบเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน ด้านแม่ของผู้บาดเจ็บยันเอาเรื่องถึงที่สุด พร้อมระบุลูกไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ผิดแค่ไม่ได้สวมหมวกกันน็อก
จากกรณีอาสาตำรวจบ้านขับรถตราโล่ ซึ่งเป็นรถสายตรวจป้อมบางกุ้ง สังกัด สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ไล่ติดตาม และชนรถจักรยานยนต์ทะเบียน คทก 516 สุราษฎร์ธานี จนเป็นเหตุให้มีวัยรุ่นได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 คน และบาดเจ็บเล็กน้อย 1 คน นอกจากนั้น ยังมีรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ริมถนนบริเวณหน้าร้านเดิมหมูกระทะ ถนนโฉลกรัฐ ม.1 ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับความเสียหายอีก จำนวน 6 คัน โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ (16 ต.ค.) พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนได้รายงานเรื่องดังกล่าวต่อ นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมขอให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองมาเป็นกรรมการร่วมกับทางตำรวจ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้ความเป็นธรรมต่อทั้ง 2 ฝ่าย โดยตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.วิชอบ เกิดเกลี้ยง รองผู้บังคับการฝ่ายกฎหมายลงมาควบคุมดูแลการสอบสวนด้วยตัวเอง เพื่อให้ทุกฝ่ายมีความมั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ภาพวงจรปิด และพยานบุคคลผู้ที่เห็นเหตุการณ์
ในส่วนของผู้เสียหายได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ศิริชัย ทรงวศิน ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ไปเยี่ยมทำความเข้าใจต่อญาติของผู้ได้รับบาดเจ็บ และทางฝ่ายเจ้าหน้าที่จะให้ความเป็นธรรม ไม่ต้องกังวลต่อเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมจะดำเนินการตามที่ผู้เสียหายต้องการทุกประการ พร้อมกล่าวย้ำว่า ในส่วนการปฏิบัติหน้าที่ของอาสาสมัครตำรวจบ้าน จะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีกฎหมายรองรับที่ชัดเจน
ตนเองกำชับทุกโรงพักให้อาสาสมัครปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด หากมีการฝ่าฝืนก็จะต้องพิจารณาไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับทางตำรวจ หรือเปลี่ยนหน้าที่ของอาสาเหล่านั้น แต่ก็ต้องเข้าใจว่า อาสาส่วนหนึ่งก็มีความตั้งใจทำงาน แต่ในส่วนที่บกพร่องก็จะต้องมีการพิจารณาข้อบกพร่องอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้กระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน และภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
กรณีของ นายบุตรนา พุทธเสน อายุ 21 ปี อาสาสมัครตำรวจบ้าน ที่ไล่ชนรถของวัยรุ่นตามที่เป็นข่าว ขณะนี้ตนได้สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันนี้ (16 ต.ค.) เป็นต้นไป พร้อมสั่งให้ ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ทบทวนบทบาทหน้าที่ของอาสาสมัครที่ปฏิหน้าที่ร่วมกับตำรวจอย่างเคร่งครัด ส่วนการดำเนินคดีทราบว่าขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนยังไม่ตั้งข้อหาแก่ผู้ใด เนื่องจากกำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนคนที่เห็นเหตุการณ์สามารถมาเป็นพยานให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้ตลอดเวลา และที่สำคัญอยากบอกประชาชนว่า อย่าหลงเชื่อผู้ชักจูงมาประท้วงปิดโรงพักตามที่มีการโพสต์ข้อความชักชวนมารวมตัวกันที่ สภ.เมือง ในเวลา 18.00 น.วันนี้
ด้าน นายภูวริญ เมืองขำ อายุ 20 ปี ซึ่งนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่ถูกชนได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้ยังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี โดยมี นางสุกัญญา ยันเสน อายุ 40 ปี มารดาผู้บาดเจ็บเฝ้าดูอาการ พร้อมกับกล่าวว่า ลูกชายยังไม่ค่อยรู้สึกตัว ยังไม่สามารถถามตอบ แต่จากการสอบถามเพื่อนที่ไปด้วยกันบอก ได้ชักชวนกับขับรถจักรยายนต์ออกจากบ้านในซอยบ่อนไก่ ใกล้กับสถานที่เกิดเหตุ เพื่อไปหาซื้อขนมกินที่ถนนโฉลกรัฐ ได้พบกับอาสาตำรวจบ้านขับรถสายตรวจเรียกให้จอด แต่ไม่กล้าจอดเพราะไม่ได้สวมหมวกนิรภัย และกลัวถูกยัดของผิดกฎหมายให้จึงขับหนี
ประกอบกับอาสาผู้นี้มีพฤติกรรมในทางไม่ดี มีกลุ่มเด็กวัยรุ่นในบริเวณนี้โดนไปหลายรายจึงหวาดกลัว ในส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นตนไม่ยอมความ จะเอาเรื่องถึงที่สุด เนื่องจากเขาทำเกินกว่าเหตุ แค่ไม่สวมหมวกถึงกับขับรถไล่ชน หากไปเกิดเหตุในที่เปลี่ยว หรือไม่กล้องวงจรปิดลูกของตนอาจตกเป็นผู้ต้องหา เจ็บฟรีตายฟรี พร้อมยืนยันลูกตนไม่ได้ไปที่ท่าเรือพีเค และไม่มียาเสพติด ผลการตรวจไม่พบสีม่วง ประกอบกับทางครอบครัวฐานะไม่ดี ลูกชายตนเป็นลูกชายตนโตทำงานเป็นช่างสีอยู่ที่อู่ศรีชดา ได้เงินเดือนๆ ละ 12,000 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้ได้จุนเจือครอบครัวเมื่อมาได้รับบาดเจ็บทำงานไม่ได้ และไม่รู่ว่าจะหายกลับมาเป็นปกติ
ด้าน นายแพทย์สุพจน์ ภูเก้าล้วน ผอ.โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยแพทย์หญิงกุลิสรา วังสราวุธ แพทย์เจ้าของไข้เปิดเผยว่า ผู้บาดเจ็บมีบาดแผลที่ศีรษะ กรามซ้ายหัก และมีบาดแผลที่บริเวณสะโพกด้านซ้าย ขณะนี้อาการโดยรวมดีขึ้น พ้นขีดอันตรายแล้ว
จากกรณีอาสาตำรวจบ้านขับรถตราโล่ ซึ่งเป็นรถสายตรวจป้อมบางกุ้ง สังกัด สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ไล่ติดตาม และชนรถจักรยานยนต์ทะเบียน คทก 516 สุราษฎร์ธานี จนเป็นเหตุให้มีวัยรุ่นได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 คน และบาดเจ็บเล็กน้อย 1 คน นอกจากนั้น ยังมีรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ริมถนนบริเวณหน้าร้านเดิมหมูกระทะ ถนนโฉลกรัฐ ม.1 ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับความเสียหายอีก จำนวน 6 คัน โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ (16 ต.ค.) พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนได้รายงานเรื่องดังกล่าวต่อ นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมขอให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองมาเป็นกรรมการร่วมกับทางตำรวจ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อให้ความเป็นธรรมต่อทั้ง 2 ฝ่าย โดยตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.วิชอบ เกิดเกลี้ยง รองผู้บังคับการฝ่ายกฎหมายลงมาควบคุมดูแลการสอบสวนด้วยตัวเอง เพื่อให้ทุกฝ่ายมีความมั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ ภาพวงจรปิด และพยานบุคคลผู้ที่เห็นเหตุการณ์
ในส่วนของผู้เสียหายได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ศิริชัย ทรงวศิน ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ไปเยี่ยมทำความเข้าใจต่อญาติของผู้ได้รับบาดเจ็บ และทางฝ่ายเจ้าหน้าที่จะให้ความเป็นธรรม ไม่ต้องกังวลต่อเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมจะดำเนินการตามที่ผู้เสียหายต้องการทุกประการ พร้อมกล่าวย้ำว่า ในส่วนการปฏิบัติหน้าที่ของอาสาสมัครตำรวจบ้าน จะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีกฎหมายรองรับที่ชัดเจน
ตนเองกำชับทุกโรงพักให้อาสาสมัครปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด หากมีการฝ่าฝืนก็จะต้องพิจารณาไม่ให้ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับทางตำรวจ หรือเปลี่ยนหน้าที่ของอาสาเหล่านั้น แต่ก็ต้องเข้าใจว่า อาสาส่วนหนึ่งก็มีความตั้งใจทำงาน แต่ในส่วนที่บกพร่องก็จะต้องมีการพิจารณาข้อบกพร่องอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้กระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชน และภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
กรณีของ นายบุตรนา พุทธเสน อายุ 21 ปี อาสาสมัครตำรวจบ้าน ที่ไล่ชนรถของวัยรุ่นตามที่เป็นข่าว ขณะนี้ตนได้สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันนี้ (16 ต.ค.) เป็นต้นไป พร้อมสั่งให้ ผกก.สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ทบทวนบทบาทหน้าที่ของอาสาสมัครที่ปฏิหน้าที่ร่วมกับตำรวจอย่างเคร่งครัด ส่วนการดำเนินคดีทราบว่าขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนยังไม่ตั้งข้อหาแก่ผู้ใด เนื่องจากกำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนคนที่เห็นเหตุการณ์สามารถมาเป็นพยานให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้ตลอดเวลา และที่สำคัญอยากบอกประชาชนว่า อย่าหลงเชื่อผู้ชักจูงมาประท้วงปิดโรงพักตามที่มีการโพสต์ข้อความชักชวนมารวมตัวกันที่ สภ.เมือง ในเวลา 18.00 น.วันนี้
ด้าน นายภูวริญ เมืองขำ อายุ 20 ปี ซึ่งนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่ถูกชนได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้ยังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี โดยมี นางสุกัญญา ยันเสน อายุ 40 ปี มารดาผู้บาดเจ็บเฝ้าดูอาการ พร้อมกับกล่าวว่า ลูกชายยังไม่ค่อยรู้สึกตัว ยังไม่สามารถถามตอบ แต่จากการสอบถามเพื่อนที่ไปด้วยกันบอก ได้ชักชวนกับขับรถจักรยายนต์ออกจากบ้านในซอยบ่อนไก่ ใกล้กับสถานที่เกิดเหตุ เพื่อไปหาซื้อขนมกินที่ถนนโฉลกรัฐ ได้พบกับอาสาตำรวจบ้านขับรถสายตรวจเรียกให้จอด แต่ไม่กล้าจอดเพราะไม่ได้สวมหมวกนิรภัย และกลัวถูกยัดของผิดกฎหมายให้จึงขับหนี
ประกอบกับอาสาผู้นี้มีพฤติกรรมในทางไม่ดี มีกลุ่มเด็กวัยรุ่นในบริเวณนี้โดนไปหลายรายจึงหวาดกลัว ในส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นตนไม่ยอมความ จะเอาเรื่องถึงที่สุด เนื่องจากเขาทำเกินกว่าเหตุ แค่ไม่สวมหมวกถึงกับขับรถไล่ชน หากไปเกิดเหตุในที่เปลี่ยว หรือไม่กล้องวงจรปิดลูกของตนอาจตกเป็นผู้ต้องหา เจ็บฟรีตายฟรี พร้อมยืนยันลูกตนไม่ได้ไปที่ท่าเรือพีเค และไม่มียาเสพติด ผลการตรวจไม่พบสีม่วง ประกอบกับทางครอบครัวฐานะไม่ดี ลูกชายตนเป็นลูกชายตนโตทำงานเป็นช่างสีอยู่ที่อู่ศรีชดา ได้เงินเดือนๆ ละ 12,000 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้ได้จุนเจือครอบครัวเมื่อมาได้รับบาดเจ็บทำงานไม่ได้ และไม่รู่ว่าจะหายกลับมาเป็นปกติ
ด้าน นายแพทย์สุพจน์ ภูเก้าล้วน ผอ.โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยแพทย์หญิงกุลิสรา วังสราวุธ แพทย์เจ้าของไข้เปิดเผยว่า ผู้บาดเจ็บมีบาดแผลที่ศีรษะ กรามซ้ายหัก และมีบาดแผลที่บริเวณสะโพกด้านซ้าย ขณะนี้อาการโดยรวมดีขึ้น พ้นขีดอันตรายแล้ว
