ยะลา - ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ลงพื้นที่ดูแลลูกน้อง หลังหน่วยปฏิบัติการพิเศษยะลา ขออนุเคราะห์ปรับปรุงเส้นทางเข้าหน่วยที่เป็นหลุมเป็นบ่อ ต่อ ผกก.เมืองยะลา แต่ถูกตอบปฏิเสธว่าไม่ใช่เจ้าของโรงผลิตหินคลุก
วันนี้ (13 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีกรณีที่โลกโซเชียลได้โพสต์แชร์หนังสือคำร้อง จากหน่วยปฏิบัติการพิเศษ มว.ฉก.นปพ.ยะลา 21 ถึง ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา เพื่อขออนุเคราะห์หินคลุกมาถมเส้นทางเข้าฐานปฏิบัติการ เนื่องจากสภาพถนน และเส้นทางภายในฐานปฏิบัติการพิเศษเป็นหลุมเป็นบ่อ มีน้ำขัง ซึ่งทางผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา เซ็นตอบกลับว่า “ผมไม่มีโรงงานผลิตหินคลุก” จนหนังสือดังกล่าวได้ถูกแชร์ในสังคมออนไลน์เป็นวงกว้าง รู้ถึงหู ผบ.ตร.และนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในพื้นที่
ความคืบหน้าของกรณีดังกล่าว ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปดูสภาพของฐานปฏิบัติการ มว.ฉก.นปพ.ยะลา 21 ซึ่งตั้งอยู่ภายขอบเขตรั้วของในสถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา อ.เมืองยะลา ก็พบสภาพตามคำร้องขอในหนังสือดังกล่าว โดยถนนทางเข้าฐานปฏิบัติการเป็นหลุม มีน้ำขังตลอดเส้นทางความยาวเกือบ 100 เมตร ขณะที่ภายในฐานปฏิบัติการซึ่งมีอาคารที่เพิ่งสร้างใหม่ เพื่อเป็นที่สำหรับอำนวยการปฏิบัติงาน และรับรอง รอบๆ ฐานก็มีอาคารน็อกดาวน์ที่พักของเจ้าหน้าที่จำนวนทั้งหมด 46 นาย ซึ่งมีสภาพที่ไม่ต่างกัน คือ เป็นหลุมเป็นบ่อ มีน้ำขังหลายจุด
จากการสอบถาม ร.ต.อ.ฮาลีม หลีเยาว์ รักษาราชการแทนตำแหน่งหัวหน้าชุด มว.ฉก.นปพ.ยะลา 21 ก็ทราบว่า ฐานปฏิบัติการแห่งนี้ย้ายมาจาก อ.ยะหา จ.ยะลา เพื่อมาช่วยดูแลความปลอดภัยในเขต อ.เมืองยะลา เป็นเวลา 3 ปีแล้ว แต่สภาพความเป็นอยู่ของฐานปฏิบัติการก็เป็นตามที่ได้เห็น ซึ่งภายหลังมีการทำหนังสือขอความอนุเคราะห์ไปยังผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา และหนังสือดังกล่าวได้ไปโผล่ในสื่อสังคมออนไลน์ ก็ทำให้เรื่องดังกล่าวทราบถึง พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา และได้เดินทางลงมาตรวจสอบพื้นที่ด้วยตนเองเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (13 ก.ค.) พร้อมได้อนุมัติคำสั่งให้สนับสนุนตามคำร้องขอให้มีการนำหินคลุก จำนวน 2 คันรถ 10 ล้อ มาเทถมในพื้นที่ เพื่อปรับปรุงให้เส้นทางเข้าออกให้สะดวกขึ้น
ทางด้าน พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าวนั้น หลังจากได้ทราบเรื่องก็ได้เดินทางลงพื้นที่ไปตรวจสอบสภาพพื้นที่ ก็ได้เห็นข้อเท็จจริง ซึ่งก็ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาในระดับสูงได้ทราบ พร้อมทั้งสั่งการให้ฝ่ายอำนวยการ 4 ซึ่งดูแลความเป็นอยู่ของกำลังพล อนุมัติคำสั่งตามคำร้องขอ จัดหาหินคลุกมาถมพื้นที่ที่เป็นหลุมเป็นบ่อ เพื่อสะดวกแก่กำลังผลในการเข้าออกหน่วยเพื่อปฏิบัติหน้าที่
“ที่ตั้งของหน่วยปฏิบัติการพิเศษยะลา ไมได้มีพื้นแต่เป็นพื้นดิน และรถยนต์ที่ใช้ในหน่วยก็เป็นรถหุ้มเกราะซึ่งมีน้ำหนักมาก เมื่อเข้าออกประจำก็ทำให้เกิดดินทรุดเป็นหลุมเป็นบ่อ ประกอบด้วยช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝนจึงทำให้มีน้ำขัง ซึ่งหลังจากดูพื้นที่แล้วก็สมควรที่จะได้รับการปรับปรุงอย่างเร่งด่วนที่สุด ซึ่งภายหลังเรื่องดังกล่าวถูกเผยแพร่ไป ก็ทำให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ให้ความห่วงใยต่อกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ จึงสั่งการให้ฝ่ายอำนวยการ 4 ดำเนินการจัดหาหินคลุกมาถ่มพื้นที่ให้ตามคำร้องขอของกำลังพล เพื่อให้สะดวกต่อการปฏิบัติหน้าที่” ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา กล่าว
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ยังกล่าวถึงในส่วนของผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา โดยได้อธิบายให้เข้าใจถึงสภาพพื้นที่ และเข้าใจถึงกำลังใจของกำลังพลที่ปฏิบัติงาน การใช้คำพูด หรือข้อสั่งการให้เป็นไปตามระเบียบ ต้องคำนึงถึงความเชื่อมั่น ทั้งส่วนของกำลังพล และประชาชน ที่จะให้ความเชื่อมั่นต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจะก่อให้เกิดความรัก และสามัคคีต่อกัน เนื่องจากในพื้นที่ชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่ที่ทุกหน่วยจะต้องแสวงหาความร่วมมือร่วมกันในการปฏิบัติหน้าที่ให้บรรลุเป้าหมาย
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา เตรียมที่จะดำเนินการแจ้งความเอาผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ต่อผู้ที่แสดงความคิดเห็นในสื่อสังคมออนไลน์ ที่มีการใช้คำพูดหรือ แสดงความคิดเห็นที่กระทำให้เกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียง และตำแหน่งการงาน
