ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รวบหนุ่มพังงาก่อเหตุโชกโชน ตระเวนงัดตู้หยอดเหรียญเครื่องซักผ้าในพื้นที่ อ.เมืองภูเก็ต เผยทำมาแล้วประมาณ 9 ครั้ง นำมาใช้ในชีวิตประจำวัน
จากกรณีเมื่อวันที่ 7 พ.ค.60 โลกโซเชียลในเฟชบุ๊กใช้ชื่อว่า ศรุต โรงสกรีน บางเหนียว ได้มีการโพสต์ภาพคนร้ายที่ตระเวนงัดตู้เครื่องซักผ้าภาพหยอดเหรียญทั่วจังหวัดภูเก็ต และใครพบสามารถโทร.แจ้งพิกัด มีรางวัลให้ หลังจากนั้น มีการแสดงความคิดเห็น และแชร์ภาพกันเป็นจำนวนมาก หลังจากเกิดเหตุดังกล่าว พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.กมล โอศิริ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต ให้ดำเนินการตรวจสอบ และสั่งให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.เมืองภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านที่เกิดเหตุทันที และให้มีการไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทางที่คนร้ายขับรถจักรยานยนต์ใช้ก่อเหตุ และเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี
จนกระทั่งเมื่อเวลา 01.15 น. วันนี้ (11 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุ สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับจากชาวบ้านว่า มีเหตุต้องสงสัยพยายามงัดตู้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ใกล้กับร้านแดรี่ฮัท หลัง รพ.กรุงเทพ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังจากรับแจ้ง ร.ต.ท.อภิชาติ มุสิกสังข์ รองสวป.สภ.เมืองภูเก็ต ปฎิบัติหน้าที่ร้อยเวร 20 จึงรายงานให้ พ.ต.อ.กมล โอศิริ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.เชาว์ ผอมนะ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.ฉัตรชัย ชูหนู รอง สวป.สภ. เมืองภูเก็ต ปฏิบัติหน้าที่สารวัตรเวรทราบ ก่อนประสานเจ้าหน้าที่สายตรวจรถจักรยานยนต์ไปตรวจสอบ แต่ระหว่างนั้นชายต้องสงสัยได้ขับรถจักรยายนต์ออกไปแล้ว จึงได้มีวิทยุสกัด จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสายทวีสมาน จึงได้สกัดจับชายต้องสงสัยไว้ได้ที่บริเวณหน้าซุปเปอร์ชีพ สาขาใหญ่ ถนนเทพกระษัตรี ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังจากนั้น ควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองภูเก็ต จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบชื่อ คือ นายศุภโชค สุดิน อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48/6 ม.2 ต.ทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา
ต่อมา เวลาประมาณ 11.00 น.วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต นำโดย พ.ต.ท.นฤบดินทร์ ปังหลีเส็น สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ได้คุมตัว นายศุภโชค สุดิน มาสอบสวนและขยายเพิ่มเติม พร้อมนำตัวไปตรวจยึดอุปกรณ์ที่ใช้ก่อเหตุ ประกอบด้วย ไขควง คีมล็อก คีม มีด ประแจ หมวกกันน็อก และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน กบก 764 ภูเก็ต
จากการสอบสวนในเบื้องต้น นายศุภโชค สุดิน อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นช่างซ่อมเรือ โดยได้ค่าจ้างเป็นรายวัน แต่เงินไม่พอใช้จ่าย จึงได้ก่อเหตุลักทรัพย์โดยการงัดเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญในพื้นที่ สภ.เมืองภูเก็ต ประมาณ 6 ครั้ง ประกอบด้วย 1.เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 22 เม.ย.60 ที่บ้านเช่าเลขที่ 33 ม.7 ซอยแหลมหิน ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว แต่งกายสวมเสื้อแขนสั้นลายปีกนก สวมกางเกงยีนส์ สวมหมวกกันน็อกสีขาวครึ่งใบ เข้าไปงัดตู้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ จำนวน 2 ตู้ ได้เงิน 300 บาท
2.เมื่อเวลา 02.18 น. วันที่ 30 เม.ย.60 ก่อเหตุที่บ้านเลขที่ 33/7 ม.1 ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว แต่งกายเสื้อแขนสั้นสีดำ สวมกางเกงยีนส์ สวมหมวกกันน็อกสีขาวครึ่งใบ เข้าไปงัดตู้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ จำนวน 2 ตู้ ได้เงิน 200 บาท 3.เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 4 พ.ค.60 ที่ร้านขอบสามไปรษณีย์ ถ.ศรีสุทัศน์ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว แต่งกายสวมเสื้อแขนสั้นสายหัวกะโหลกสีดำ สวมกางเกงยีนส์ สวมหมวกกันน็อกสีขาวครึ่งใบ เข้าไปงัดตู้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ จำนวน 1 ตู้ ได้เงิน 60 บาท
4.เมื่อเวลา 01.45 น. วันที่ 6 พ.ค.60 ที่บ้านเฟื่องฟ้าอพาร์ตเมนต์ 1 อยู่ที่ 3/133 ม.3 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว แต่งกายสวมเสื้อแจ็กเกตสีเทา กางเกงยีนส์ สวมหมวกกันน็อกสีขาวครึ่งใบ เข้าไปงัดตู้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ จำนวน 2 ตู้ ได้เงิน 100 บาท 5.เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 6 พ.ค.60 ที่บ้านเลขที่ 17/61 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว แต่งกายสวมเสื้อแจ็กเกตสีเทา กางเกงยีนส์ สวมหมวกกันน็อกสีขาวครึ่งใบเ ข้าไปงัดตู้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ จำนวน 3 ตู้ ได้เงิน 500 บาท
6.เมื่อเวลา 02.45 น. วันที่ 6 พ.ค.60 ที่บ้านเลขที่ 6.1 ม.3 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว แต่งกายสวมเสื้อแจ็กเก็ตสีเทา กางเกงยีนส์ สวมหมวกกันน็อกสีขาวครึ่งใบ เข้าไปงัดตู้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ จำนวน 1 ตู้ ได้เงิน 100 บาท นอกจากนั้นผู้ต้องหายังได้ก่อเหตุในพื้นที่ ต.วิชิต ประมาณ 3 ครั้ง โดยเงินที่ได้มาจะนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน หลังจากเงินหมดก็จะตระเวนก่อเหตุ แต่มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ในที่สุด อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีการแจ้งข้อหาผู้ต้องหา เนื่องจากต้องมีการสอบปากคำขยายผล และนำตัวไปชี้จุดเกิดเหตุ ก่อนที่จะให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต แจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
จากกรณีเมื่อวันที่ 7 พ.ค.60 โลกโซเชียลในเฟชบุ๊กใช้ชื่อว่า ศรุต โรงสกรีน บางเหนียว ได้มีการโพสต์ภาพคนร้ายที่ตระเวนงัดตู้เครื่องซักผ้าภาพหยอดเหรียญทั่วจังหวัดภูเก็ต และใครพบสามารถโทร.แจ้งพิกัด มีรางวัลให้ หลังจากนั้น มีการแสดงความคิดเห็น และแชร์ภาพกันเป็นจำนวนมาก หลังจากเกิดเหตุดังกล่าว พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.กมล โอศิริ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต ให้ดำเนินการตรวจสอบ และสั่งให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.เมืองภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านที่เกิดเหตุทันที และให้มีการไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทางที่คนร้ายขับรถจักรยานยนต์ใช้ก่อเหตุ และเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี
จนกระทั่งเมื่อเวลา 01.15 น. วันนี้ (11 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุ สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับจากชาวบ้านว่า มีเหตุต้องสงสัยพยายามงัดตู้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ใกล้กับร้านแดรี่ฮัท หลัง รพ.กรุงเทพ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังจากรับแจ้ง ร.ต.ท.อภิชาติ มุสิกสังข์ รองสวป.สภ.เมืองภูเก็ต ปฎิบัติหน้าที่ร้อยเวร 20 จึงรายงานให้ พ.ต.อ.กมล โอศิริ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.เชาว์ ผอมนะ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.ฉัตรชัย ชูหนู รอง สวป.สภ. เมืองภูเก็ต ปฏิบัติหน้าที่สารวัตรเวรทราบ ก่อนประสานเจ้าหน้าที่สายตรวจรถจักรยานยนต์ไปตรวจสอบ แต่ระหว่างนั้นชายต้องสงสัยได้ขับรถจักรยายนต์ออกไปแล้ว จึงได้มีวิทยุสกัด จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสายทวีสมาน จึงได้สกัดจับชายต้องสงสัยไว้ได้ที่บริเวณหน้าซุปเปอร์ชีพ สาขาใหญ่ ถนนเทพกระษัตรี ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังจากนั้น ควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.เมืองภูเก็ต จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบชื่อ คือ นายศุภโชค สุดิน อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48/6 ม.2 ต.ทุ่งมะพร้าว อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา
ต่อมา เวลาประมาณ 11.00 น.วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต นำโดย พ.ต.ท.นฤบดินทร์ ปังหลีเส็น สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ได้คุมตัว นายศุภโชค สุดิน มาสอบสวนและขยายเพิ่มเติม พร้อมนำตัวไปตรวจยึดอุปกรณ์ที่ใช้ก่อเหตุ ประกอบด้วย ไขควง คีมล็อก คีม มีด ประแจ หมวกกันน็อก และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน กบก 764 ภูเก็ต
จากการสอบสวนในเบื้องต้น นายศุภโชค สุดิน อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นช่างซ่อมเรือ โดยได้ค่าจ้างเป็นรายวัน แต่เงินไม่พอใช้จ่าย จึงได้ก่อเหตุลักทรัพย์โดยการงัดเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญในพื้นที่ สภ.เมืองภูเก็ต ประมาณ 6 ครั้ง ประกอบด้วย 1.เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 22 เม.ย.60 ที่บ้านเช่าเลขที่ 33 ม.7 ซอยแหลมหิน ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว แต่งกายสวมเสื้อแขนสั้นลายปีกนก สวมกางเกงยีนส์ สวมหมวกกันน็อกสีขาวครึ่งใบ เข้าไปงัดตู้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ จำนวน 2 ตู้ ได้เงิน 300 บาท
2.เมื่อเวลา 02.18 น. วันที่ 30 เม.ย.60 ก่อเหตุที่บ้านเลขที่ 33/7 ม.1 ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว แต่งกายเสื้อแขนสั้นสีดำ สวมกางเกงยีนส์ สวมหมวกกันน็อกสีขาวครึ่งใบ เข้าไปงัดตู้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ จำนวน 2 ตู้ ได้เงิน 200 บาท 3.เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 4 พ.ค.60 ที่ร้านขอบสามไปรษณีย์ ถ.ศรีสุทัศน์ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว แต่งกายสวมเสื้อแขนสั้นสายหัวกะโหลกสีดำ สวมกางเกงยีนส์ สวมหมวกกันน็อกสีขาวครึ่งใบ เข้าไปงัดตู้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ จำนวน 1 ตู้ ได้เงิน 60 บาท
4.เมื่อเวลา 01.45 น. วันที่ 6 พ.ค.60 ที่บ้านเฟื่องฟ้าอพาร์ตเมนต์ 1 อยู่ที่ 3/133 ม.3 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว แต่งกายสวมเสื้อแจ็กเกตสีเทา กางเกงยีนส์ สวมหมวกกันน็อกสีขาวครึ่งใบ เข้าไปงัดตู้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ จำนวน 2 ตู้ ได้เงิน 100 บาท 5.เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 6 พ.ค.60 ที่บ้านเลขที่ 17/61 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว แต่งกายสวมเสื้อแจ็กเกตสีเทา กางเกงยีนส์ สวมหมวกกันน็อกสีขาวครึ่งใบเ ข้าไปงัดตู้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ จำนวน 3 ตู้ ได้เงิน 500 บาท
6.เมื่อเวลา 02.45 น. วันที่ 6 พ.ค.60 ที่บ้านเลขที่ 6.1 ม.3 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว แต่งกายสวมเสื้อแจ็กเก็ตสีเทา กางเกงยีนส์ สวมหมวกกันน็อกสีขาวครึ่งใบ เข้าไปงัดตู้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ จำนวน 1 ตู้ ได้เงิน 100 บาท นอกจากนั้นผู้ต้องหายังได้ก่อเหตุในพื้นที่ ต.วิชิต ประมาณ 3 ครั้ง โดยเงินที่ได้มาจะนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน หลังจากเงินหมดก็จะตระเวนก่อเหตุ แต่มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ในที่สุด อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่มีการแจ้งข้อหาผู้ต้องหา เนื่องจากต้องมีการสอบปากคำขยายผล และนำตัวไปชี้จุดเกิดเหตุ ก่อนที่จะให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต แจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป