xs
xsm
sm
md
lg

อดีตผู้สมัครนายก อบจ.จี้คดีใบแดงนายก อบจ.นครศรีฯ หลังมีความล่าช้าอย่างผิดปกติกว่า 2 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
นครศรีธรรมราช - อดีตผู้สมัครนายก อบจ.เข้าติดตามการทำสำนวนคดีอาญาทุจริตเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช ต่อผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 หลังจากก่อนหน้านี้ ได้ร้องเรียนการทำสำนวนของตำรวจมีความล่าช้าอย่างผิดปกติกว่า 2 ปี

วันนี้ (15 มี.ค.) คดีใบแดงฐานทุจริตการเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช เมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งศาลอุทธรณ์ภาค 8 ได้พิพากษาเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของ นายมาโนช เสนพงศ์ นายก อบจ.นครศรีธรรมราช เมื่อปี 2558 และทำให้ นายมาโนช เสนพงศ์ ต้องพ้นจากตำแหน่งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช หลังจากนั้น คณะกรรมการการเลือกตั้งได้นำคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 8 พร้อมด้วยคำวินิจฉัยของ กกต.เข้าแจ้งความดำเนินคดี

โดยมีผู้ต้องหาในคดีนี้คือ นายมาโนช เสนพงศ์ และนายเทพไท เสนพงศ์ รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งปรากฏว่า การสอบสวนมีความล่าช้านับตั้งแต่ปี 2558 จนถึงขณะนี้ โดย นายพิชัย บุณยเกียรติ อดีตผู้สมัครในฐานะผู้เสียหายร่วมในคดีนี้ได้ทยอยเข้าร้องเรียนความล่าช้าของคดีอย่างผิดสังเกตต่อหลายหน่วยงาน โดยพบว่า ในชั้นพนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนในขณะนี้และมีความเห็นควรเสนอสั่งฟ้องแล้วถึง 3 ครั้ง แต่กลับมีการสอบสวนใหม่ และเพิ่มเติมพยาน รวมทั้งการสั่งให้มีการเปลี่ยนพนักงานสอบสวน ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบ 30 ปีที่ผ่านมาในการทำคดีของ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นท้องที่ที่ กกต.ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ในการดำเนินคดีอาญาหลังจากการดำเนินคดีผิด พ.ร.บ.เลือกตั้ง ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว
 

 
โดย นายพิชัย บุณยเกียรติ อดีตผู้สมัครนายก อบจ.ซึ่งเป็นน้องชายของ นายชิณวรณ์ บุณยเกียรติ กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ได้เข้าร้องเรียน และติดตามการทำสำนวนคดีต่อ พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ซึ่งเดินทางมาประชุมข้าราชการตำรวจที่กองบังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช โดยระบุถึงข้อสังเกตในการทำสำนวนที่มีความล่าช้ามาตั้งแต่ปี 2558 จนถึงปัจจุบัน โดยคดีในกลุ่มเดียวกันได้ถูกส่งฟ้อง และอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลไปหมดแล้ว แต่คดีนี้หลับยังไม่ผ่านชั้นสอบสวนไปสู่การพิจารณาสำนวนของพนักงานอัยการ รวมทั้งมีการขอให้เพิ่มพยานอย่างต่อเนื่อง มีการขอให้เปลี่ยนพนักงานสอบสวน และแม้ว่าพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบสำนวนจะสรุปสำนวน และมีความเห็นเสนอท้ายสำนวนเห็นควรสั่งฟ้องแล้วก็ตาม แต่กลับติดขัดไม่ผ่านการพิจารณาของผู้มีอำนาจต่อ

พล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ระบุว่า มีการชี้แจงเบื้องต้นว่าได้มีการร้องเรียนขอความเป็นธรรมทั้งจากฝ่ายผู้ต้องหา และฝ่ายผู้เสียหาย โดยมีการขอให้เพิ่มพยาน ซึ่งอยู่ในอำนาจการพิจารณาของพนักงานสอบสวน แต่อย่างไรก็ตาม ได้มีการติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด

ขณะที่ พล.ต.ท.เทศา ศิริวาโท ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 กล่าวยืนยันว่า หลังจากทราบเรื่องนี้แล้วคดีนี้จะต้องเสร็จภายใน 7 วัน และได้ให้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงทราบและแจ้งให้ผู้ร้องทราบด้วย ซึ่งการทำคดีจะต้องโปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้
 

กำลังโหลดความคิดเห็น