ยอดส่งออกสับปะรดพัทลุงลดฮวบรับหน้าแล้ง

พัทลุง – เกษตรกรพัทลุง เดือดร้อนหนัก สับปะรดประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ ราคาตกต่ำ ทำให้เหี่ยวตายคาต้น หากฝนยังไม่ตกมาช่วยบรรเทา ขณะที่ราคาก็ตกต่ำกว่าปีก่อนๆ หวั่นอีก 2 ปีเป็นเช่นนี้พัทลุงอาจจะไม่ใช่พื้นที่หลักในการส่งออกสับปะรดไปมาเลย์ สิงคโปร์ ก็เป็นได้

ผู้สื่อข่าวงายงานจากจังหวัดพัทลุง ว่า เนื่องจากสภาวะอากาศแล้งและร้อนยาวนาน ประกอบกับปีที่ผ่านในพื้นที่จังหวัดพัทลุง มีฝนตกน้อยกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา สร้างความเสียหายให้กับพืชสวน และผลผลิตทางการเกษตรเป็นจำนวนมาก อย่างที่ ต.ทุ่งนารี ต.หนองธง ต.วังใหม่ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นเขตที่ปลูกสับปะรดแหล่งใหญ่ในพัทลุง และส่งออกขายยังประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ ต้องเผชิญกับความแห้งแล้ง ส่งผลให้สับปะรดแห้งเหี่ยวตายคาต้นหลายร้อยไร่ ผลผลิตที่ได้ลดลง แม้ว่าช่วงนี้ สับปะรดจะมีราคาสูงก็ตาม แต่ก็ทำให้เกษตรกรมีรายได้ลดลง บางรายต้องประสบกับภาวะขาดทุน

จากเดิมเคยส่งขายได้ถึง 1,500 – 2,000 กิโลกรัม ต่อวัน แต่พอโดนสภาวะภัยแล้งเข้า ทำให้ยอดผลผลิตที่ได้และส่งขายลดลงเหลือ แค่ 900-1,000กิโลกรัม ต่อวันเท่านั้น แม้ราคาขายส่งจะสูงอยู่ที่ 5-6 บาท ต่อ 1 กิโลกรัม และราคา 6-7 บาทต่อ 1 กิโลกรัมซึ่งแล้วแต่เกรดของสับปะรด ส่วนราคาหน้าแผงอยู่ที่กิโลกรัมละ 9-10 บาท

นายสมพร พรหมคง อายุ 43 ปี พ่อค้าส่งออก ม.5 ต.ทุ่งนารี อ.ป่าบ่อน จ.พัทลุง เปิดเผยว่า อีก 2 ปีข้างหน้าอาจจะไม่มีสับปะรดส่งออก เพราะเนื่องจากปีที่ผ่านมาราคาถูกมากเหลือแค่กิโลกรัมละ 2 บาทเท่านั้น ทำให้ชาวเกษตรต้องไถ่ทิ้งหันไปปลูกพืชอย่างอื่นแทน นอกจากนั้นยังมีภัยแล้งที่สงผลให้สับปะรดได้รับความเสียหายหลายอย่างเช่น ตาแตก เชื้อรา แห้งเหี่ยว

อย่างไรก็ตาม อีกประมาณ 20 วันข้างหน้าหากมีฝนลงมาบ้าง สภาพสับปะรดที่กำลังได้รับความเสียหายก็จะกลับสภาพปกติได้ แต่หากยังคงแห้งแล้งต่อไป แน่นอนเกษตรกรบางรายต้องประสบกับปัญหาการขาดทุนเพราะผลผลิตที่ได้น้อยกว่าที่เสียหายไป