คณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) ฟื้นเส้นทางท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ด้วยการจัดกิจกรรม Walking Tour “วังบูรพา Rewind: ย้อนรอยความบันเทิงแห่งพระนคร”
โดยสืบเนื่องมาจากการร่วมงาน Bangkok Design Week 2025 (BKKDW 2025) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ภายใต้แนวคิด 'Design Up+Rising: ออกแบบพร้อมบวก+' อาจารย์ภควดี วรรณพฤกษ์ (อาจารย์ปีย์) อาจารย์ประจำหลักสูตรของคณะฯ ผู้ริเริ่มโครงการ Walking Tour ในครั้งนี้ ได้มาเล่าให้ฟังว่า จากความสำเร็จของทริป "ทรงวาด...ที่วาดไว้ในความทรงจำ" ในเทศกาล BKKDW 2024 ที่นำเสนอเรื่องราวผ่านมุมมองของ ดร.ยุวรี โชคสวนทรัพย์ (อาจารย์นวล) คณบดีคณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ นำมาสู่การต่อยอดเส้นทางท่องเที่ยววังบูรพาในปี 2025 โดยมีแรงบันดาลใจจากงานวิจัยที่ศึกษาประวัติศาสตร์เกี่ยวกับกิจการสถานบันเทิงในกรุงเทพฯ ของอาจารย์นวล ตั้งแต่ยุคสนธิสัญญาเบาว์ริง ผ่านการเปลี่ยนแปลงการปกครอง สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 จนถึงปัจจุบัน
จุดเริ่มต้นของเส้นทางทัวร์ เริ่มต้นที่ โรงแรมคชา เบด ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม MRT สามยอด อดีตเคยเป็นที่ประทับของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงพิชิตปรีชากร ต้นตระกูลคัคณางค์ อาคารนี้ถูกส่งต่อและเปลี่ยนผ่านการใช้งานหลากหลาย เคยเป็นทั้งโรงพยาบาลของหมอทาเคดะ เคยเป็นห้างศรีจันทร์ รวมถึงร้านวิทยุธานินทร์ ก่อนจะกลายเป็นโรงแรมกึ่งแกลเลอรี่ในปัจจุบัน
ประตูสามยอด จุดเริ่มต้นประวัติศาสตร์ความบันเทิงย่านเก่าแก่
ก่อนเริ่มเดินทัวร์ อาจารย์นวล ได้เล่าประวัติของประตูสามยอด ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 จากประตูไม้ธรรมดาสู่การพัฒนาเป็นประตูก่ออิฐถือปูน ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 4 มีการตัดถนนเจริญกรุงผ่านประตูนี้เพื่อให้ชาวต่างชาติได้ใช้นั่งรถม้าตากอากาศ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 มีการปรับปรุงประตูให้มี 3 ช่องทาง โดยช่องซ้ายสำหรับรถราง และอีกสองช่องสำหรับรถม้า รถลาก และคนเดิน ลักษณะยอดแหลมทั้งสามจึงเป็นที่มาของชื่อ "ประตูสามยอด"
พ.ศ. 2440 ประตูสามยอดถูกรื้อถอนเนื่องจากกีดขวางการจราจรและเกรงว่าจะถล่มเป็นอันตราย หลังจากนั้นพื้นที่ได้รับการพัฒนาและมีห้างร้านของชาวตะวันตกเปิดเพิ่มขึ้น ปัจจุบันบริเวณดังกล่าวอยู่ด้านหน้าสถานี MRT สามยอด (ทางออก 1)
นอกจากนี้ ย่านนี้ยังเคยเป็นที่ตั้งของโรงหวย ก ข ซึ่งรัฐได้เปิดให้มีการประมูลอากรหวยทุกปี และเงินประมูลก็เพิ่มสูงขึ้นในทุกๆ ปี ทำให้รายได้ของรัฐเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ กลยุทธ์ที่นิยมใช้เพื่อดึงให้มีลูกค้าเข้าโรงหวยเป็นประจำ คือการจัดให้มีละครหรืองิ้วแสดงเป็นประจำ จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการผสมผสานระหว่างการเสี่ยงโชคและความบันเทิงในย่านวังบูรพา
“วังบูรพา” จากพระราชวังสู่ศูนย์กลางความบันเทิง
คณะทัวร์ออกเดินย้อนรอยประวัติศาสตร์ตามเรียบถนนมหาไชย ผ่านห้างทองลายกนก (อดีตที่ตั้งห้างเซ็นทรัลแห่งแรกในประเทศไทย) ไปจนถึงห้างเมก้า พลาซ่า สะพานเหล็ก ที่ตั้งตระหง่าน ณ สี่แยกวังบูรพา
ที่จุดนี้ อาจารย์นวล ได้เล่าประวัติวังบูรพา "วังแห่งความรื่นรมย์" ซึ่งเป็นพระราชวังสถาปัตยกรรมตะวันตกสร้างในปี พ.ศ. 2419 เป็นที่ประทับของสมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช พระอนุชาในรัชกาลที่ 5 และต้นราชสกุลภาณุพันธุ์
วังบูรพาในอดีตเป็นศูนย์กลางดนตรีและศิลปะ มีทั้งดนตรีไทยและตะวันตกบรรเลงยามค่ำคืน โดยมีหลวงประดิษฐ์ไพเราะ (ศร ศิลปบรรเลง) เป็นนักดนตรีประจำวัง ซึ่งต่อมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างภาพยนตร์เรื่อง "โหมโรง"
หลังการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จฯ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช เจ้าของวัง ในปี พ.ศ. 2471 วังบูรพาถูกใช้เป็นสถานศึกษา ทั้งโรงเรียนสตรีภานุทัตช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และโรงเรียนพณิชยการพระนคร จนกระทั่งปี พ.ศ. 2495 ทายาทราชสกุลภาณุพันธุ์ได้ขายวังให้แก่นายโอสถ โกศิน
การเปลี่ยนผ่านจากวังสู่ศูนย์การค้า จุดเริ่มต้นความบันเทิงสมัยใหม่
หลังจากการขายพื้นที่ให้กับนักธุรกิจ ประมาณปี พ.ศ. 2497 วังได้ถูกรื้อทิ้ง เพื่อสร้างศูนย์การค้าและโรงภาพยนตร์สามแห่ง ได้แก่ โรงภาพยนตร์ คิงส์ ควีนส์ และแกรนด์ เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2497 เมื่อรวมกับตลาดมิ่งเมือง (ปัจจุบัน คือ ดิโอลด์สยามพลาซ่า) และศาลาเฉลิมกรุง ทำให้ย่านนี้กลายเป็นศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในยุคนั้น จากนั้นในปี 2499 มีการสร้างห้างเซ็นทรัลเทรดดิ้ง ซึ่งเป็นศูนย์การค้าเซ็นทรัล สาขาแรกของเมืองไทย
ในช่วงปี พ.ศ. 2499-2500 วังบูรพากลายเป็นแหล่งรวมตัวของวัยรุ่นสมัยใหม่ที่เรียกว่า "โก๋หลังวัง" และเป็นที่ตั้งของไนท์คลับหรูในโรงแรม ที่เปิดให้แขกผู้มีเกียรติได้เต้นลีลาศ นับเป็นความบันเทิงระดับสูงที่มีเฉพาะชนชั้นนำในสมัยนั้น
หลังจากย้อนรอยประวัติศาสตร์มาถึงจุดนี้ อาจารย์นวล ได้นำคณะทัวร์เดินชมบริเวณรอบรั้ววังบูรพา ก่อนจะแวะพักดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ คลายร้อน พร้อมลิ้มรส ขนมจีบกุ้งสูตรกวางตุ้ง จากร้านในตำนาน "จีจ้งหว่อ" ตั้งอยู่ตรงข้ามโรงภาพยนตร์ ควีนส์
ยุคทองของโรงภาพยนตร์ คิงส์- ควีนส์ -แกรนด์
ระหว่างเดินชมโรงภาพยนตร์ควีนส์ โรงหนังแขกชื่อดังในตำนาน อาจารย์นวลได้บรรยายให้ฟังเกี่ยวกับยุคทองของโรงหนังทั้ง 3 ว่า โรงภาพยนตร์ 3 แห่ง สร้างบนพื้นที่เดิมของวัง โดยโรงภาพยนตร์คิงส์สร้างขึ้นก่อนในปี 2496 ตามด้วยควีนส์ในปี 2497 และแกรนด์เป็นโรงสุดท้ายในปี 2498 โรงหนังทั้งสามแห่งมีเอกลักษณ์ในการฉายภาพยนตร์ที่แตกต่างกัน โรงหนังคิงส์ฉายหนังจีน โรงหนังแกรนด์ฉายหนังไทย ส่วนโรงหนังควีนส์ฉายหนังอินเดีย โดยเฉพาะโรงหนังควีนส์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในการฉายหนังอินเดีย ซึ่งคนไทยในสมัยนั้นชื่นชอบ เพราะมีจุดขายพิเศษคือการใส่น้ำหอมลงในระบบปรับอากาศเพื่อสร้างบรรยากาศที่หอมหวนภายในโรง ปัจจุบันโรงหนังทั้ง 3 ปิดกิจการไปแล้ว โดยคิงส์ และแกรนด์ ได้ถูกรีโนเวทให้เชื่อมต่อกันเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของห้างสรรพสินค้าเมอร์รี่คิงส์ วังบูรพา ปัจจุบันเป็นห้างเมก้า พลาซ่า สะพานเหล็ก
การเสื่อมถอยของย่านวังบูรพา
ย่านวังบูรพาเริ่มซบเซาลงในปี 2511 เพราะเมื่อสยามสแควร์เริ่มเกิดขึ้นพร้อมกับโรงภาพยนตร์ 3 โรงในคอนเซ็ปต์เดียวกัน ได้แก่ สยาม ลิโด้ และสกาล่า ผู้ประกอบการหลายรายจากย่านวังบูรพาได้ย้ายไปค้าขายที่ย่านสยามสแควร์ ซึ่งมีทำเลที่ดีกว่าและอยู่ใกล้สถาบันการศึกษาหลายแห่ง ย่านวังบูรพาจึงเริ่มเงียบเหงาลง ในขณะที่สยามสแควร์เติบโตขึ้นเป็นแหล่งรวมตัวของวัยรุ่นยุคถัดไป
มรดกแห่งการเวลาที่ยังคงอยู่
"จีจ้งหว่อ" ภัตตาคารกวางตุ้งอายุกว่า 70 ปี ในอดีตใช้ลิฟต์ชักรอกส่งอาหารจากครัวชั้นบน และมีบะหมี่สูตรทำเองที่เก็บในลิ้นชักไม้แบบคลาสสิก ร้านนี้เคยเป็นจุดนัดพบของผู้ชมภาพยนตร์ที่โรงหนังควีนส์ เมนูเด็ดที่ขึ้นชื่อได้แก่ ก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋น และขนมจีบกวางตุ้งแบบดั้งเดิม นับเป็นร้านโปรดของบุคคลในตำนานอย่าง “แดง ไบเล่” ที่มักเลือกนั่งโต๊ะหลังสุดของร้านเป็นประจำ (ร้านปิดทุกวันจันทร์)
"ออน ล๊อก หยุ่น" ร้านเบรคฟาสต์ในตำนานแห่งนี้ตั้งอยู่ย่านศาลาเฉลิมกรุง ติดกับ ดิ โอลด์ สยาม พลาซ่า เปิดมาตั้งแต่ปี 2476 (กว่า 90 ปี) ยังคงรักษาบรรยากาศดั้งเดิมด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้เก่าแก่ ขึ้นชื่อเรื่องกาแฟเข้ม ไข่ลวก และขนมปังสังขยา เปิดบริการเวลา 06.00-14.30 น.
"คลังวิทยา-รวมสาส์น-โอเดียน สโตร์" ร้านหนังสือชื่อดังแห่งย่านวังบูรพานี้เคยเป็นจุดหมายสำคัญของผู้ชมภาพยนตร์ โดดเด่นด้วยคอลเลกชันหนังสือหลากหลาย เสน่ห์พิเศษ คือ เจ้าของร้านให้บริการเองและเป็นคนที่อ่านหนังสือทุกเล่ม จึงสามารถแนะนำเนื้อหาแก่ลูกค้าได้อย่างละเอียด แม้ไม่ได้ทำการตลาดแบบสมัยใหม่ แต่ยังคงมีลูกค้าประจำ เพราะให้บริการด้วยความเชี่ยวชาญและใส่ใจ
“ศาลาเฉลิมกรุง” โรงหนังติดแอร์แห่งแรกของกรุงเทพฯ เปิดปี 2476 เคยฉายภาพยนตร์ "มหาภัยใต้ทะเล" เป็นปฐมฤกษ์ ปัจจุบันเป็นเวทีสำหรับการแสดงโขนหลวงและศิลปะการแสดงไทย
วังบูรพาเป็นพื้นที่ที่แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของพระนครได้อย่างชัดเจน จากอดีตที่เคยเป็นศูนย์กลางความบันเทิงรุ่งเรือง ก่อนที่ความนิยมจะย้ายไปสู่ย่านสยามสแควร์ แม้ความรุ่งโรจน์จะเลือนหายไปตามกาลเวลา แต่ร่องรอยประวัติศาสตร์และกลิ่นอายความคลาสสิกยังคงหลงเหลือให้ผู้มาเยือนได้สัมผัส
การจัด Walking Tour ในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการนำเสนอเรื่องราวทางประวัติศาสตร์แก่ผู้ร่วมทริปแล้ว ยังเป็นโอกาสให้นักศึกษาชั้นปีที่ 1 ของคณะฯ ได้เรียนรู้จากประสบการณ์และการปฏิบัติจริงของกระบวนการทำงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแบบครบวงจร ตั้งแต่การวางแผน การประสานงาน ไปจนถึงการดูแลนักท่องเที่ยว ติดตามกิจกรรมอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://www.dpu.ac.th/th/faculty-of-tourism-and-hospitality