เครดิตการ์ดเปิดวอร์อี-วอลเล็ต

บัตรเครดิตเปิดศึกอี-วอลเล็ตที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ทั่วเอเชีย ด้วยการแจกรางวัล ลดค่าธรรมเนียม และปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้าผ่านอุปกรณ์ดิจิตอลและมือถือ อย่างไรก็ตาม การแข่งกันสร้างสรรค์นวัตกรรมจากทั้งสองฟากโดยมีเทคโนโลยีเป็นแรงขับ จะทำให้ศึกครั้งนี้มีผู้ชนะตัวจริงคือผู้บริโภคที่จะได้รับความสะดวกสบาย ความโปร่งใส รางวัล และความปลอดภัยในการทำธุรกรรมมากขึ้น

การต่อสู้ระหว่างบัตรเครดิตและอี-วอลเล็ตอาจวัดกันง่ายๆ ที่ความเร็วในการเข้าถึงระหว่างกระเป๋าสตางค์กับมือถือ อี-วอลเล็ตอยู่ในสมาร์ทโฟนและช่วยให้ผู้ใช้ทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์โดยหักจากเครดิตที่มาจากบัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิต หรือผ่านบัตรเครดิตโดยตรง

ตัวอย่างอี-วอลเล็ตหรือกระเป๋าเงินดิจิตอลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดมีอาทิ แอปเปิล เพย์, ซัมซุง เพย์, กูเกิล เพย์ ตลอดจนถึงผู้เล่นระดับภูมิภาคอย่างแกร็บ เพย์ และอาลีเพย์ในเอเชีย

อย่างไรก็ตาม บัตรเครดิตยังคงเป็นธุรกิจขนาดใหญ่และเป็นแหล่งเงินหรือเครดิตหลักสำหรับอี-วอลเล็ต การเติบโตของอี-วอลเล็ตจึงหมายความว่า บัตรเครดิตนับล้านใบถูกเชื่อมโยงกับอี-วอลเล็ตเหล่านั้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการเป็นแหล่งเงินหรือเครดิต ดังนั้น นี่จึงไม่ใช่เกมที่ต้องมีผู้แพ้-ผู้ชนะแบบที่บางคนพยายามทำให้คิดแบบนั้น เพราะการเติบโตของอี-วอลเล็ตไม่ได้หมายถึงความสูญเสียของบัตรเครดิต

จำนวนผู้ถือบัตรเครดิตในเอเชียยังถือว่าสูงมาก ผลศึกษาของบริษัทวิจัยตลาด ยูกอฟ พบว่า ผู้บริโภค 70% ในสิงคโปร์มีบัตรเครดิตอย่างน้อย 1 ใบ และอัตราการเป็นเจ้าของจะเพิ่มขึ้นตามระดับฐานะ โดยผู้บริโภคจำนวนมากยังนิยมจ่ายค่าสินค้าออนไลน์ด้วยบัตรเครดิต

ขณะเดียวกัน การเปิดรับอี-วอลเล็ตถูกกระตุ้นจากเทคโนโลยี พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค และการเข้าถึงสมาร์ทโฟน มีข้อมูลว่า 65% ของการทำธุรกรรมออนไลน์ในจีนใช้อี-วอลเล็ตของอาลีเพย์และวีแชต เพย์ ส่วนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ประชากรส่วนใหญ่ไม่มีบัญชีธนาคารและไม่สามารถสมัครบัตรเครดิตได้นั้น ดิจิตอลวอลเล็ตจึงเป็นข้อเสนอที่ตอบโจทย์อย่างมาก

แน่นอนว่าแบงก์เองก็ต้องมีวิธีการสร้างสรรค์ใหม่ๆ เพื่อให้ได้ไปต่อในตลาดบัตรเครดิต เช่น ด้วยการให้รางวัล ลดค่าธรรมเนียม และปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ผ่านอุปกรณ์ดิจิตอลและมือถือ

ตัวอย่างเช่นธนาคารแดนลอดช่องอย่างดีบีเอสและยูโอบีมาพร้อมบัตรเครดิตสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ ขณะที่แบงก์อื่นๆ โฆษณาว่า การใช้บัตรเครดิตจะช่วยชดเชยรอยเท้าคาร์บอน

เมื่อเร็วๆ นี้ สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดออกบัตรเครดิตดิจิตอลและสินเชื่อส่วนบุคคลที่อนุมัติและพร้อมใช้ทันที ลดเวลาในการรอคอยของลูกค้าจากนานหลายวันเป็นไม่กี่นาที

เดือนเมษายนที่ผ่านมา สำนักงานการขนส่งทางบกสิงคโปร์ (แอลทีเอ) คลอดซิมพลีโก (SymplyGo) เพื่อให้ผู้โดยสารจัดเก็บบัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ดในอี-วอลเล็ตสำหรับใช้ในการเดินทางประจำวันด้วยการแตะสมาร์ทโฟนเพียงไม่กี่ครั้ง

สิทธิพิเศษหลักจากบัตรเครดิตคือ ข้อเสนอสำหรับสมาชิกใหม่ การคืนเงิน โปรแกรมสะสมไมล์ ซึ่งโดยรวมแล้วถือว่า มีให้ลูกค้าจุใจกว่าอี-วอลเล็ต ธนาคารที่มีไอเดียสร้างสรรค์ยังนำเสนออี-วอลเล็ตของตัวเอง เช่น เพย์ลาของดีบีเอส ที่อำนวยความสะดวกในการส่งและรับเงินจากผู้ถือบัญชีธนาคารที่อยู่ในเครือข่ายโดยใช้แค่เบอร์มือถือเท่านั้น

รายการสิ่งที่ต้องการทำสำหรับแต่ละบุคคลได้รับการจัดการเกือบทั้งหมดเมื่อแอปเปิลร่วมกับโกลด์แมน แซคส์ เปิดตัวแอปเปิล การ์ด ซึ่งมีดีเอ็นเอของแอปเปิลเช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของค่ายผลไม้นี้ ได้แก่ ความเรียบง่าย ความโปร่งใส ความเป็นส่วนตัว ความสะดวก และความปลอดภัย

แอปเปิล การ์ดเสนอคืนเงินสดเช่นเดียวกับบัตรเครดิตของหลายบริษัท แถมคืนให้ทันทีที่ใช้จ่ายโดยโอนเข้าบัญชีของลูกค้าโดยตรง แทนที่จะคืนตอนสิ้นเดือนแบบบัตรเครดิตทั่วไป

แอปเปิลยังปฏิวัติวงการบัตรเครดิตด้วยการยกเลิกค่าธรรมเนียมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นค่าธรรมเนียมรายปี ค่าธรรมเนียมการเบิกเงินสดล่วงหน้า ค่าธรรมเนียมการโอนเงินข้ามประเทศ และค่าปรับการจ่ายล่าช้า นอกจากนั้นทุกครั้งที่มีการใช้จ่ายหรือกิจกรรมผิดปกติ ผู้ใช้จะได้รับการแจ้งเตือนทันทีจากแอปเปิล ในทางกลับกัน ถ้าพบค่าใช้จ่ายที่ไม่ชอบมาพากล ผู้ใช้สามารถแตะเพื่อแจ้งแอปเปิลโดยตรง ไม่ต้องโทรและถือสายรอเจ้าหน้าที่เป็นนานสองนาน

บัตรไทเทเนียมของแอปเปิลยังไม่แสดงหมายเลข ดังนั้น ถ้าลูกค้าทำหายหรือถูกขโมย คนอื่นจะไม่สามารถนำไปใช้ต่อได้ และลูกค้าสามารถปิดใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนได้ทันที ซึ่งถือเป็นการอัพเกรดระบบรักษาความปลอดภัยอย่างฉลาดและสมควรได้รับคำชม

ข้อดีสุดท้ายคือเมื่อสมัครใช้แอปเปิล การ์ด ลูกค้าจะได้บัตรเสมือนทันที ไม่ต้องรอเป็นวันหรือหลายสัปดาห์เพื่อรับหมายเลขบัตรและเปิดใช้งาน

ในมุมมองของธุรกิจ บัตรเครดิตยังถูกเข้าใจผิดจากคนจำนวนมาก แต่ถ้าจะพูดถึงในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับอี-วอลเล็ต สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจว่า จริงๆ แล้วบัตรเครดิตประกอบด้วยสองธุรกิจ

ธุรกิจแรกคือการออกบัตร หรือการมอบเครดิตให้แก่ลูกค้า การนำเสนอรางวัลและสิทธิประโยชน์เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตร การจัดการบัญชีและการประมวลผลการใช้จ่ายของลูกค้า ส่วนธุรกิจที่สองคือการเปิดรับผู้ค้า หรือการเปิดโอกาสให้ผู้ค้ารับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตและขอรับเงินคืน

อุตสาหกรรมบัตรชำระเงินสมัยใหม่เป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์อย่างยิ่ง คุณสามารถเดินทางไปยังทุกมุมโลกโดยพกแค่บัตรพลาสติกที่มีโลโก้วีซ่าหรือมาสเตอร์การ์ด และมั่นใจได้ว่า บัตรของคุณจะเป็นที่ยอมรับ รวมทั้งรู้กลไกการทำงานของบัตร และมีกระบวนการที่เข้าใจได้อย่างง่ายดายเมื่อมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น

ปี 2019 จะเป็นช่วงเวลาที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับบัตรเครดิตและอี-วอลเล็ต โดยเฉพาะในเอเชีย รายงานของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า นี่คือปีที่โมบายเพย์เมนต์จะแทนที่บัตรเครดิตในฐานะวิธีการชำระเงินสำหรับอี-คอมเมิร์ซ แต่ดูรูปการณ์แล้วเป็นไปได้ยาก เพราะอี-วอลเล็ตยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นยังไม่ควรประเมินศักยภาพในการโจมตีกลับของบัตรเครดิตต่ำเกินไป

ไม่ว่าจะอย่างไร เราจะได้เห็นการแข่งกันสร้างสรรค์นวัตกรรมจากทั้งสองฟากโดยมีเทคโนโลยีเป็นแรงขับ ซึ่งสุดท้ายแล้วผู้ชนะก็คือผู้บริโภคในยุคดิจิตอลที่จะได้รับความสะดวกสบาย ความโปร่งใส รางวัล และความปลอดภัยในการทำธุรกรรมมากขึ้น