แอร์เอเชียปักหมุดบิ๊กเพย์“ชาเลนเจอร์แบงก์”

หลังจากที่สร้างปรากฏการณ์ในอุตสาหกรรมสายการบินในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาแล้ว วันนี้บิ๊กบอสแอร์เอเชียเชื่อมั่นว่า บริการโมบายวอลเล็ต “บิ๊กเพย์” สามารถไปต่อได้ไกลถึงบทบาทชาเลนเจอร์ แบงก์ โดยเตรียมต่อยอดการนำเสนอและเพิ่มฐานลูกค้าด้วยการนำเอไอมาใช้ในโซลูชันสินเชื่อ และลงทุนด้านเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงานร่วมกันของระบบต่างๆ

โทนี่ เฟอร์นันเดซ ประธานบริหารแอร์เอเชีย เชื่อมั่นว่า บิ๊กเพย์จะได้รับการยอมรับภายในเอเชียอาคเนย์มากขึ้นเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งเนื่องจากบทบาทความเป็นผู้นำในตลาดการเดินทางภายในภูมิภาคของแอร์เอเชียที่ปีที่แล้วให้บริการนักเดินทางถึง 44 ล้านคน

เฟอร์นันเดซให้สัมภาษณ์เมื่อเร็วๆ นี้ในงานมันนี่ 20/20 ที่จัดขึ้นที่สิงคโปร์ว่า บิ๊กเพย์คือแอร์ เอเชียเวอร์ชันชาเลนเจอร์ แบงก์ หรือธนาคารทางเลือกใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีเป็นอาวุธ เพื่อนำเสนอบริการฟินเทคต้นทุนต่ำ โปร่งใส และคุ้มค่าให้แก่ผู้บริโภคทั้งที่มีและไม่มีบัญชีธนาคาร

บิ๊กเพย์ในฐานะส่วนหนึ่งของระบบนิเวศของแอร์เอเชีย มีเป้าหมายลดต้นทุนการเดินทางสำหรับทุกคน ซึ่งรวมถึงต้นทุนการแลกเงินขณะเดินทาง ดังนั้น บริษัทจึงไม่บวกค่าธรรมเนียมการแลกเงิน รวมถึงค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมอีกหลายอย่างที่บัตรเดบิตและบัตรเครดิตทั่วไปมักเรียกเก็บ

บิ๊กเพย์ที่เปิดตัวแอปพลิเคชันในมาเลเซียตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว วางตำแหน่งตัวเองเป็นตัวเลือกดิจิตอลสำหรับบัญชีธนาคารในชีวิตประจำวัน โดยผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดแอปได้ทางสมาร์ทโฟน จากนั้นบริษัทจะออกบัตรมาสเตอร์การ์ดให้ ซึ่งสามารถนำไปรูดจ่ายค่าสินค้าและบริการ รวมทั้งกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มทั่วโลก โดยมีค่าธรรมเนียมการประมวลผลธุรกรรมต่ำกว่าบัตรเครดิตของธนาคารทั่วไป

เฟอร์นันเดซสำทับว่า ในสายตาแอร์เอเชีย ฟินเทคกับสายการบินต้นทุนต่ำมีหลายอย่างคล้ายกัน และว่า ลูกค้าของแอร์เอเชียส่วนใหญ่ต้องแลกเงินและมักเจอปัญหาระหว่างทำธุรกรรม แต่ด้วยบิ๊กเพย์ ค่าธรรมเนียมการโอนเงินระหว่างประเทศจะลดลงและการเดินทางราบรื่นสะดวกสบายมากขึ้น

ปัจจุบันบิ๊กเพย์ได้รับใบอนุญาตทำธุรกิจบัตรเงินอิเล็กทรอนิกส์เต็มตัว และมีมาสเตอร์การ์ดเป็นพันธมิตร ผู้ใช้สามารถแลกเงินตามอัตราแลกเปลี่ยนที่แท้จริงโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

นอกจากนั้นผู้ใช้ยังได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษจากแอร์เอเชียเมื่อใช้บิ๊กเพย์การ์ด เช่น ยกเว้นค่าธรรมเนียมการประมวลผลการชำระเงิน รวมทั้งได้ส่วนลดสำหรับอาหารบนเครื่องและน้ำหนักกระเป๋าที่จองตั๋วและเช็คอินล่วงหน้า

แม้บิ๊กเพย์อาจไม่ได้เปิดระดมทุนเป็นพันล้านดอลลาร์แบบคู่แข่งในภูมิภาคเดียวกันบางราย แต่เฟอร์นันเดซเชื่อว่า ธุรกิจนี้จะสามารถประสบความสำเร็จได้โดยอาศัยแนวทางและบทเรียนจากอุตสาหกรรมสายการบินโลว์คอสต์

ในทางกลับกัน เขาไม่เชื่อว่า ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับเงิน แต่ฝากความหวังกับผลิตภัณฑ์ การตลาด และการยอมรับของลูกค้าเป็นลมใต้ปีกบิ๊กเพย์

ปัจจุบัน บิ๊กเพย์มีผู้ใช้ 300,000 ราย และติดอันดับ 5 แอปพลิเคชันที่มีการดาวน์โหลดมากที่สุดในมาเลเซีย

เฟอร์นันเดซบอกว่า ยอดใช้จ่าย 90% ของบิ๊กเพย์ไม่เกี่ยวข้องกับสายการบิน ซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของบริการนี้

แอร์เอเชียยังเล็งเพิ่มคุณค่าการนำเสนอให้แก่ลูกค้า รวมทั้งเพิ่มจำนวนผู้ใช้บิ๊กเพย์ด้วยการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) มาใช้ในโซลูชันสินเชื่อ และลงทุนด้านเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงานร่วมกันของระบบต่างๆ

ทั้งนี้ บิ๊กเพย์เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ เพื่อเพิ่มรายได้ให้แก่แอร์เอเชีย ขณะที่ตลาดสายการบินโลว์คอสต์เริ่มอยู่ยากขึ้น โดยนอกจากบิ๊กเพย์แล้ว แอร์เอเชียยังมีโครงการอื่นๆ ซึ่งรวมถึงการพัฒนาแพล็ตฟอร์มอี-ลอจิสติกส์ชื่อว่า เรดคาร์โก เป็นต้น