xs
xsm
sm
md
lg

“อินโนสเปซ” ผนึกพลัง 3 พันธมิตรฮ่องกง ติดปีกสตาร์ทอัพไทยสู่สากล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


อินโนสเปซ (ประเทศไทย) เตรียมลงนามผนึกกำลัง 3 พันธมิตรจากฮ่องกง ในวันที่ 28 ก.พ.นี้ ดันประเทศไทยขึ้นแท่นศูนย์กลางปั้นสตาร์ทอัพไทยเทียบชั้นสากลเต็มรูปแบบ

ดร.สันติ กีระนันทน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึง “บริษัท อินโนสเปซ (ประเทศไทย) จำกัด” หรือ InnoSpace (Thailand) Co., Ltd. โดยกระทรวงอุตสาหกรรม ว่า “อินโนสเปซ” (InnoSpace) จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นแพลตฟอร์มนำมาพัฒนาธุรกิจ สตาร์ทอัพให้เติบโตอย่างครบวงจร โดยเชื่อมต่อสภาพแวดล้อมสากล ผลักดันสตาร์ทอัพไทยเติบโตได้ในตลาดต่างประเทศ โดย อินโนสเปซจะเป็นศูนย์รวมสิ่งอำนวยความสะดวก เติมเต็มให้สิ่งแวดล้อมต่างๆ มีความสมบูรณ์แข็งแรงขึ้น โดยมุ่งเป้าไปที่อุตสาหกรรมเป้าหมายหลัก คือ เกษตรอุตสาหกรรมซึ่งเป็นพื้นฐานขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นประเทศเศรษฐกิจที่เติบโตด้วยนวัตกรรม หลุดพ้นกับดักรายได้ปานกลางอย่างถาวร

ทั้งนี้ อินโนสเปซ (ประเทศไทย) มุ่งค้นหานวัตกรรมที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและเป็นประโยชน์กับประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะกลุ่มสตาร์ทอัพที่สนับสนุนกลุ่มเทคโนโลยีการเกษตร (Agritech) รวมถึงสตาร์ทอัพที่มีแนวโน้มเติบโตในอนาคต เนื่องจากฐานรายได้ประชากรส่วนใหญ่มาจากภาคเศรษฐกิจจริง (Real Sector) คิดเป็น 50% ของ GDP และอยู่ในภาคอุตสาหกรรมเกือบ 35% ของ GDP ฉะนั้น 2 กลุ่มนี้จึงมีสัดส่วนถึง 85% ของ GDP ขณะที่ตัวเลขประชากรไทยปัจจุบันมีถึง 67-69 ล้านคน อยู่ในภาคเกษตรถึง 40% ทว่า ภาคเกษตร กลับมีสัดส่วน GDP เพียงแค่ 8% เท่านั้น จึงเป็นสาเหตุทำให้เกษตรกรต้องประสบปัญหายากจน นำมาสู่ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางรายได้ ดังนั้น หากมีเทคโนโลยีที่พัฒนาและถูกนำมาใช้ได้จริงช่วยให้เกษตรกรยกระดับสู่การเป็น Smart Farmer ใช้ทรัพยากรเท่าเดิมแต่สร้างมูลค่าเพิ่ม นำนวัตกรรมมาปรับใช้ด้วย Deep Technology หรือ Deep Tech ซึ่งหากพบกลุ่มสตาร์ทไทยในลักษณะนี้ ทางอินโนสเปซ พร้อมเข้าไปสนับสนุนทันที

“มองกลับข้างกันคือเราไม่ได้ทำเพื่อธุรกิจของใครคนใดคนหนึ่งแต่เราทำเพื่อประเทศทั้งประเทศ แนวคิดของอินโนสเปซ คือ สิ่งใดที่คนอื่นทำได้อยู่แล้วจะไม่เข้าไปแย่งทำ หรืออาจใช้วิธีขอความช่วยเหลือเพื่อมาต่อยอดสร้างความเจริญให้กับประเทศ อะไรที่ไม่มีใครทำหรือไม่อยากทำแต่มีความจำเป็นที่ประเทศต้องมี อันนี้เราจำเป็นต้องทำจะผลักภาระไปไม่ได้” ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าว

ดร.สันติ กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการสนับสนุนแผนพัฒนาอินโนสเปซเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 นี้ ทางกระทรวงอุตสาหกรรมได้เตรียมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างเอกชน 3 พันธมิตรจากฮ่องกง คือ 1. Hong Kong CyberPort เกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือเพื่อพัฒนาบ่มเพาะสตาร์ทไทยด้วยโปรแกรมอนุบาลธุรกิจชนิดเข้มข้นด้วยโปรแกรมที่ออกแบบขึ้นมาโดยเฉพาะกับ Startup อาทิ โปรแกรม Softlanding Smart city 2. Hong Kong Trade Development Council (HKTDC) มุ่งเน้นให้ความร่วมมือส่งเสริมการค้าและการหาตลาดต่างประเทศ และ 3. Ho & Partners Architects หรือ HPA เพื่อเสริมความร่วมมือด้านการพัฒนา Smart city ซึ่งจะเป็นการปูพื้นฐานของประเทศไทยในการก้าวขึ้นเป็นแพลตฟอร์มสตาร์ทอัพชั้นนำระดับโลก เช่นเดียวกับสหรัฐอเมริกา มีซิลิคอน วัลเลย์ ประเทศสวีเดน มีนครสตอกโฮล์ม ประเทศอังกฤษ มีกรุงลอนดอน และประเทศอิสราเอล ที่เป็นเมืองที่เป็นฐานสตาร์ทอัพ เช่นเดียวกันฮ่องกงและสิงคโปร์ ที่เป็นเมืองสตาร์ทอัพของโลก โดยเฉพาะฮ่องกง มี Cyber Port สตาร์ทอัพแพลตฟอร์มด้านการเงินระดับโลกที่ประสบความสำเร็จในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งพร้อมเข้ามาเป็นพันธมิตรกับ อินโนสเปซแล้ว ซึ่งเชื่อมั่นว่าการเข้ามาเป็นพันธมิตรสำคัญของฮ่องกง เกิดแรงจูงใจให้หลายประเทศที่มีความโดดเด่นด้านสตาร์ทอัพ หลั่งไหลเข้ามายังประเทศไทย อาทิ เกาหลีใต้ อิสราเอล ญี่ปุ่น เนื่องจากตลาดประเทศไทยมีประชากรสูงถึง 69 ล้านคน และเชื่อมโยงตลาด CLMV มีที่ประชากรกว่า 200 ล้านคน ขณะที่ตลาดอาเซียนสูงถึง 1,600 ล้านคน

ดร.สันติ กล่าวถึงข้อมูลจากการสำรวจเม็ดเงินลงทุนที่พร้อมลงทุนในสตาร์ทอัพไทยไม่น้อยกว่า 2-3 หมื่นล้านบาท แต่อีกมุมสตาร์ทอัพไทยกลับบอกว่าไม่มีนักลงทุนสนใจเข้ามาสนับสนุน คำถามคือเกิดช่องว่างระหว่างคนต้องการเงินทุนกับคนที่อยากลงทุนได้อย่างไร คำตอบ คือ ผู้ที่มีเพียงแนวคิดจะมีนักลงทุนที่ไหนกล้ามาลงทุน เพราะความเสี่ยงสูง ทำให้เม็ดเงินลงทุนเกือบ 3 หมื่นล้านบาทจึงพุ่งตรงไปที่สตาร์ทอัพที่มีความเสี่ยงต่ำ ดังนั้น แนวทางที่อินโนสเปซจะเข้าไปเติมเต็มให้กับสตาร์ทอัพไทย คือ ส่งเสริมการใช้นวัตกรรมที่สามารถใช้ในเชิงธุรกิจได้ ตอบโจทย์ผู้บริโภคอย่างที่ไม่เคยได้รับก่อนในอดีต ซึ่งสตาร์ทอัพทั้งโลกล้วนสำเร็จภายใต้บริบทนี้ทั้งสิ้น





* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!! * * *







กำลังโหลดความคิดเห็น