จีแบตเตอรี่ส์ที่ได้รับการสนับสนุนจากโครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัพ วาย คอมบิเนเตอร์ สร้างความฮือฮากลางงานคอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ โชว์ที่ลาสเวกัส ด้วยการสาธิตระบบใหม่ที่สามารถชาร์จรถไฟฟ้าเร็วพอๆ กับการเติมน้ำมันเต็มถัง
สตาร์ทอัพจากแคนาดาแห่งนี้เป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีแอ็กทีฟบีเอ็มเอส ซึ่งเป็นระบบจัดการแบตเตอรี่อัจฉริยะ และเพิ่มประสิทธิภาพรวมถึงยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่
จีแบตเตอรี่ส์ก่อตั้งขึ้นในปี 2013 โดยวิศวกรอวกาศ Kostya Khomutov และวิศวกรไฟฟ้า 2 คนคือ Alex Tkachenko และ Nick Sherstyuk ส่วนนักลงทุนที่ให้การสนับสนุนมีอาทิ แอร์บัส เวนเจอร์ส, ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ และเอสวี แองเจล
นวัตกรรมที่จีแบตเตอรี่ส์นำไปสาธิตในงานคอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ โชว์ (CES) เมื่อต้นเดือนนี้เป็นระบบที่ใช้ AI (ปัญญาประดิษฐ์) เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการชาร์จรถไฟฟ้าหรือ EV
Khomutov บอกว่า บริษัทส่วนใหญ่เน้นการพัฒนาด้านเคมีและวัสดุเพื่อปรับปรุงความเร็วในการชาร์จแบตเตอรี่รถไฟฟ้า ซึ่งเป็นงานยากแถมต้องใช้เงินทุนหลายพันล้านดอลลาร์ แต่สำหรับจีแบตเตอรี่ส์ใช้วิธีผสมผสานระหว่างอัลกอริทึมด้านซอฟต์แวร์ (AI) กับอิเล็กทรอนิกส์ และทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่มีจำหน่ายทั่วไปซึ่งผ่านการพิสูจน์ ทดสอบและผลิตโดยผู้ผลิตแบตเตอรี่
จีแบตเตอรี่ส์อวดอ้างว่า ผลิตภัณฑ์ของตนช่วยให้ผู้ใช้สามารถชาร์จชุดแบตเตอรี่ขนาด 60 kWh ในรถไฟฟ้าที่วิ่งได้ระยะทางเกือบ 200 กิโลเมตร โดยใช้เวลาชาร์จเพียง 5 นาที ขณะที่ระบบชาร์จที่มีอยู่ตอนนี้จะทำให้ EV วิ่งได้ระยะทางเพียง 24 กิโลเมตรถ้าใช้เวลาชาร์จเท่ากัน
สตาร์ทอัพแห่งนี้อธิบายว่า เทคโนโลยีของบริษัทเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนกับโครงสร้างพื้นฐานการชาร์จแบตเตอรี่ความเร็วสูงที่มีอยู่ในปัจจุบัน ผ่านอะแดปเตอร์พิเศษที่มีสิทธิบัตรคุ้มครองของจีแบตเตอรี่ส์
ระบบชาร์จ EV ส่วนใหญ่ในขณะนี้อิงกับระบบดั้งเดิม ซึ่งปัจจัยต่างๆ เช่น อุณหภูมิ อาจทำให้การชาร์จช้าลงหรือแม้แต่ชาร์จไม่ได้ แต่ระบบของจีแบตเตอรี่ส์สามารถตั้งค่าการชาร์จให้เร็วขึ้นหรือช้าลงได้ตามต้องการ
Sherstyuk เล่าว่า พวกเขาคิดเรื่องนี้มาตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น และได้สร้างแล็บฮาร์ดแวร์ย่อมๆ ไว้ในบ้าน และเริ่มถกกันบ่อยขึ้นหลังเข้ามหาวิทยาลัยคาร์เลอตันในออตตาวาว่า ทำไมแบตเตอรี่มือถือถึงหมดและเสื่อมเร็วมาก
นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั้งสามระดมสมองหาทางแก้ปัญหาด้วยการยืดอายุและเพิ่มประสิทธิภาพแบตเตอรี่ หลังจากนั้นพวกเขาขลุกอยู่ในแล็บหลายสัปดาห์เพื่อสร้างระบบควบคุมแบบง่ายและอัลกอริทึมในการชาร์จแบตเตอรี่ หกเดือนต่อมาจึงมีการทดสอบและทำซ้ำจนกระทั่งเริ่มสังเกตเห็นความแตกต่างระหว่างวิธีชาร์จแบตเตอรี่แบบเดิมกับวิธีที่ใช้อัลกอริทึมที่เพิ่งคิดค้นขึ้นมา
หลังจากทำซ้ำและพัฒนาต่อมาอีกปีครึ่ง จีแบตเตอรี่ส์จึงได้รับการยอมรับให้เข้าร่วมโครงการของวาย คอมบิเนเตอร์ในปี 2014
แม้ยังไม่ชัดเจนว่า เทคโนโลยีนี้จะนำไปใช้ในรถไฟฟ้าที่ออกขายจริงเมื่อไหร่ แต่ถือเป็นนิมิตหมายอันดีสำหรับโครงการละเลิกรถใช้น้ำมันและหันไปหารถที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแทน
จีแบตเตอรี่ส์แย้มว่า กำลังคุยกับบริษัทรถใหญ่น้อยหลายรายเพื่อทำโครงการนำร่องจากระบบของบริษัท โดยตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจว่า ผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายจะออกมาในรูปไหนระหว่างติดตั้งกับรถไฟฟ้าหรือรวมไว้ในเครือข่ายชาร์จ