ผู้ช่วย รมต.กระทรวงอุตสาหกรรม เผยทิศทางการขับเคลื่อน สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อรองรับการเกิดขึ้นของ Thailand 4.0 จะต้องทำงานแบบ 4 ประสาน ร่วมมือกันยกระดับมาตรฐาน โดยเฉพาะสถาบันการศึกษา ต้องทำงานร่วมกัน ระหว่าง หน่วยงานภาครัฐ เอกชน ด้าน ผอ.สถาบันไฟฟ้าฯ ชี้ทิศทางการลงส่งออกไฟฟ้าปี 59 ลดลง 0.7% โดยยุโรป และอเมริกาส่งออกขยายตัวร้อยละ 1 ส่วนอาเซียนหดตัวร้อยละ 1 เช่นกัน ส่วนปี 60 คาดว่าเติบโตร้อยละ 5 เนื่องจากมีสินค้ารุ่นใหม่ออกสู่ตลาด
นายพรชัย ตระกูลวรานนท์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวในการแสดงปาฐกถาพิเศษเรื่องทิศทางและการขับเคลื่อนการพัฒนาที่จะเกิดขึ้นในยุคThailand 4.0 ว่า ไทยจำเป็นต้องอาศัยการประสานความร่วมมือในรูปแบบ 4 ประสานจากทุกภาคส่วน ได้แก่ 1) ร่วมมือกันพัฒนาและยกระดับมาตรฐานเครือข่ายการประกอบการให้เชื่อมโยงกับโซ่อุปทานของโลก (Global Value Chain) ในเชิงรุกโดยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและยกระดับผลิตด้วยนวัตกรรม และพัฒนาผู้ประกอบการที่มีนวัตกรรม นักประดิษฐ์ (Maker/Hardware Startup) และผู้ประกอบการเทคโนโลยี (Technology Startup)
2) ร่วมกับสถาบันการศึกษาในการยกระดับฝีมือแรงงาน ซึ่งอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในเบื้องต้นสามารถร่วมกันในการพัฒนาบุคลากรระดับวิศวกรและช่างเทคนิคในด้านElectronic Design 3) ร่วมกันส่งเสริมการสร้างเครือข่ายระหว่าง 3 ฝ่าย (Golden triangle หรือTriple Helix) ประกอบด้วย หน่วยงานภาครัฐ ภาคธุรกิจ และสถาบันวิจัย/สถาบันการศึกษา และ 4) ร่วมกันจัดการและถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่สำคัญภายในสาขาอุตสาหกรรมและข้ามสาขาอุตสาหกรรม โดยเฉพาะการพัฒนาความรู้ความเชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ (Electrification) ระบบการผลิตแบบอัตโนมัติ (Automation) การบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Analytics) และเทคโนโลยีดิจิตอล (Digitalization) เพื่อนำมาใช้สำหรับการยกระดับภาคอุตสาหกรรมในภาพรวมสู่ Smart Factory
ด้านนายสมบูรณ์ หอตระกูล ผู้อำนวยการสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เผยภาวะการผลิตของอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในปี 2559 โดยดูจากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม ประมาณการว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 โดยอุตสาหกรรมไฟฟ้าปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 และอิเล็กทรอนิกส์ ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 สินค้าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่เป็นสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน อาทิ เครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า เตาไมโครเวฟ และพัดลม เป็นต้น เนื่องจากมีความต้องการสินค้าเพื่อทดแทนสินค้ารูปแบบเดิม และมีการผลิตสินค้าที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ เพิ่มขึ้น
สำหรับภาวะการส่งออกของสินค้าไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในปี 2559 ประมาณการว่าจะปรับตัวลดลงร้อยละ 0.7เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีมูลค่าส่งออกรวม 53,621 ล้านเหรียญสหรัฐ แบ่งเป็น สินค้าไฟฟ้า 22,639 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 1 และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ 30,982 ล้านเหรียญสหรัฐ หดตัว ร้อยละ 2 โดยตลาดส่งออกหลักที่มีมูลค่าสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ สหรัฐอเมริกาขยายตัวร้อยละ 1 อาเซียนหดตัวร้อยละ 1 และสหภาพยุโรปขยายตัวร้อยละ 1
โดยสินค้าไฟฟ้าที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นและมีมูลค่าส่งออกในอันดับต้นๆ ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ ขยายตัวร้อยละ 7 ตู้เย็น ขยายตัวร้อยละ 1 และเครื่องซักผ้า ขยายตัวร้อยละ 9 ส่วนสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่มีมูลค่าส่งออกค่อนข้างสูงแต่ยังคงมีอัตราหดตัว ได้แก่ อุปกรณ์ประกอบของเครื่องคอมพิวเตอร์ หดตัวร้อยละ4 IC หดตัวร้อยละ1 และPrinted Circuit หดตัว ร้อยละ 7 เนื่องจากมีอัตราหดตัวในตลาดจีนค่อนข้างสูงถึง ร้อยละ 12 และตลาดญี่ปุ่น หดตัวร้อยละ 7
“แนวโน้มภาคการผลิตในปี 2560 ภาพรวมคาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 โดยอุตสาหกรรมไฟฟ้าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 และอิเล็กทรอนิกส์จะปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5 เนื่องจากมีการผลิตสินค้ารุ่นใหม่ๆออกสู่ตลาดมากยิ่งขึ้น และตลาดสหรัฐอเมริกามีแนวโน้มฟื้นตัว ส่วนการส่งออกปี 2560คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 หรือมีมูลค่าการส่งออกรวม 54,920 ล้านเหรียญสหรัฐ แบ่งเป็นมูลค่าสินค้าไฟฟ้า 23,318 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 3 และมูลค่าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ 31,602 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 2 ทั้งนี้เนื่องจากสถานการณ์ตลาดของประเทศคู่ค้า อาทิ สหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรปมีการฟื้นตัวในทิศทางที่ดีขึ้น”
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *
