xs
xsm
sm
md
lg

กสอ.ดัน 8 ย่านอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยสู่ฮับอาเซียน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กสอ.ร่วมมือ ISMED เปิด 8 ย่านแฟชั่นไทย ดันสู่ฮับอาเซียน มั่นใจผู้ประกอบการไทยมีความพร้อมทุกด้าน พร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยอุตสาหกรรมแฟชั่น ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าสินค้าโต 1 ล้านล้านบาท ภายในปี 60 เผยปี 58 มูลค่าสินค้าแฟชั่นไทยสูงถึง 620,000 ล้านบาท

ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยในการเปิดตัวโครงการ “กิจกรรมสร้างเครือข่ายย่านแฟชั่นผ่านอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย เจาะลึกแนวทางพัฒนาเครือข่ายแฟชั่นที่มีศักยภาพ” ว่าปัจจุบันอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยเติบโตเป็นอย่างมาก โดยพร้อมผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางอาเซียน ซึ่งขณะนี้ไทยอยู่ในอันดับที่ 5 ของอุตสาหกรรมแฟชั่นโลก รองจากประเทศเกาหลี และสิงคโปร์ที่อยู่ในอันดับ1 จากการได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ดังนั้น เพื่อให้ประเทศก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับแถวหน้า หน่วยงานภาครัฐฯ ต้องร่วมกันพัฒนา โดยปี 2558 ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยมีมูลค่ารวมกว่า 620,000 ล้านบาท โดยตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าในอุตสาหกรรมแฟชั่น ให้ขยายตัวมากกว่า 1 ล้านล้านบาท ภายในปี 2560

ส่วนการดำเนินโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย Thailand Fashion Cluster 2016 จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 โดยเป็นความร่วมมือระหว่างสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (ISMED) กับ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้แนวคิด การสร้างความเข้มแข็งกลุ่มเครือข่ายธุรกิจแฟชั่น จำนวน 8 ย่าน ได้แก่ ย่านการค้าผ้าไหมปักธงชัย จ.นครราชสีมา ย่านการค้ามีนบุรี ย่านศูนย์การค้าเทอร์มินัล 21 ย่านตลาดนัดสวนจตุจักร ย่านการค้าสำเพ็ง ย่านสยามสแควร์ ย่านคริสตัลวิรันดา ย่านการค้าผ้าย้อมคราม จ.สกลนคร โดยในแต่ละพื้นที่มีอัตลักษณ์ที่ชัดเจน และมีความแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ ดังนั้นเมื่อผู้ประกอบการได้มารวมตัวกันจะเกิดแลกเปลี่ยนทางธุรกิจ และงานด้านดีไซน์ โดยเร็วๆ นี้กระทรวงอุตสาหกรรมจะจัดงานแฟชั่นโชว์ภายในงาน Thailand Industry Expo 2016 เพื่อโชว์ศักยภาพอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยให้รู้จักมากขึ้น

ด้าน นายอาทิตย์ วุฒิคะโร ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า โครงการพัฒนาอุตสาหกรรมแฟชั่นไทย ได้ดำเนินโครงการมายาวนาน เน้นการรวมตัวของกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมแฟชั่นให้เกิดเป็นเครือข่ายที่เกื้อหนุนกัน โดยดึงเอาความโดดเด่นของแต่ละเครือข่ายที่มีความแตกต่างกันเชิงพื้นที่หรือย่านการค้ามาแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ ประสบการณ์ในการสร้างผลงานใหม่ๆ รวมถึงแสวงหาโอกาสร่วมกัน ด้วยการพัฒนาแบรนด์และอัตลักษณ์ของแบรนด์ และบูรณาการสร้างการรับรู้ในอัตลักษณ์แบรนด์ที่สังเคราะห์จากอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของแต่ละเครือข่าย มาเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์

นายธีรวัฒน์ ดาวพิพัฒน์ชัย ประธานเครือข่ายผู้ประกอบการแฟชั่น จากย่านการค้าผ้าคราม จ.สกลนคร กล่าวว่า หลังจากที่ชาวบ้านมีการรวมกลุ่มเพื่อจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับครามทั้งหมด ตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ ทำให้รายได้ของชาวบ้านเพิ่มขึ้น 100% จากเดิมที่เน้นผลิตใช้เองในครัวเรือน ไม่มีตลาดที่เป็นรูปธรรม ซึ่งการรวมกลุ่มในครั้งนี้เชื่อว่าจะทำให้ผู้ประกอบการได้แลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับการย้อมคราม การออกแบบ เทคนิคต่างๆ เพื่อแข่งขันกันตลาดทั้งในและต่างประเทศได้เป็นอย่างดี
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEs ผู้จัดการ” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *


กำลังโหลดความคิดเห็น