xs
xsm
sm
md
lg

ร้านตัดผม “10 บาท” ลดค่าครองชีพ ช่วยน้องๆ หล่อก่อนเปิดเทอม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พอใกล้เปิดเทอม สิ่งที่หลายคนได้เห็นคือภาพการเตรียมตัวของเด็ก โดยเฉพาะร้านตัดผมที่เด็กต้องเข้าไปใช้บริการก่อนเปิดเทอม แต่ร้านตัดผมที่นำเสนอในวันนี้เป็นร้านตัดผมที่ไม่ธรรมดา เนื่องจากเจ้าของร้าน “นายอับดุลอาสีด แกสมาน” เปิดให้บริการตัดผมในราคาที่แสนจะถูก จนน่าแปลกใจว่าค่าครองชีพที่พุ่งสูงขนาดนี้ แต่ร้านนี้คิดค่าตัดผมน้องๆ เพียงแค่ 10 บาท และผู้ใหญ่ 20 บาท จะอยู่ได้อย่างไร

สำหรับค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นไม่ได้กระทบเฉพาะคนเมือง ชุมชนทุกพื้นที่ ทุกจังหวัดต่างก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน แต่สำหรับ ชุมชน “บ้านควนโดนใน” อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล แล้ว ชุมชนแห่งนี้สามารถยืนหยัดต่อสู้กับความยากจนได้ด้วยแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และการช่วยเหลือกันเองของคนในชุมชน ซึ่งใครมีความสามารถอะไรก็นำมาใช้ช่วยเหลือกัน นอกเหนือจากการปลูกพืชผัก ผลไม้ไว้กินเอง

เช่นเดียวกับ “อับดุลอาสีด” ที่ใช้เวลาว่างจากการกรีดยางมาเปิดร้านตัดผม ซึ่งไม่ได้มีความรู้ หรือไปร่ำเรียนมาจากที่ไหน แต่อาศัยใจรัก จดจำดูช่างตัดผมร้านอื่นว่าเขาตัดกันอย่างไร และนำมาลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง โดยเปิดร้านแห่งนี้มาเกือบ 20 ปี เริ่มจากการคิดค่าตัดผม เพียงแค่ 5 บาทสำหรับเด็ก และ 10 บาทสำหรับผู้ใหญ่ และเริ่มปรับขึ้นราคาเมื่อประมาณ 6 ถึง 7 ปีที่ผ่านมา เป็นผู้ใหญ่ 20 บาท และเด็ก 10 บาท

อับดุลอาสีดเล่าว่า จุดเริ่มต้นของการมาเป็นช่างตัดผมเกิดจากความบังเอิญ สมัยลูกชายเล็กๆ เป็นคนผมเส้นเล็กทำให้ตัดผมยาก ไปตัดที่ไหนช่างก็ไม่ตัดให้ และด้วยความเป็นเด็กไม่ยอมให้ช่างตัดผมให้ง่ายๆ จึงได้เป็นที่มาว่าเราก็คงจะต้องตัดเอง ก็เลยไปหาซื้ออุปกรณ์ตัดผม กรรไกร ปัตตาเลี่ยนมา และก็เริ่มตัดให้ลูกชายก่อน หลังจากนั้นบ้านใกล้เรือนเคียง คนในชุมชนเห็นว่าเราตัดได้ก็เลยนำลูกๆ หลานๆ มาใช้บริการ แรกไม่ได้คิดว่าจะคิดค่าบริการอะไร ขอแค่ค่าไฟ 5 บาท 10 บาท แต่มีความสุขที่ได้ช่วยเหลือคนในชุมชน เพื่อนบ้านตามหลักศาสนาอิสลาม

การให้บริการในครั้งแรกเป็นเพียงแค่เก้าอี้พลาสติก แต่พอทำไประยะหนึ่งมีคนขายเก้าอี้ตัดผมผู้ชายให้ก็เลยซื้อมาใช้จนถึงปัจจุบัน ถ้าพูดถึงรายได้ก็ไม่ได้มากอะไร แค่เป็นรายได้เสริม แต่หลักๆ ต้องการแบ่งปัน โดยเฉพาะในช่วงนี้ข้าวของทุกอย่างราคาแพงหมด เงินหายาก เราช่วยอะไรได้ก็ช่วยกัน ซึ่งคนที่นับถือศาสนาอิสลามมีความเชื่อเรื่องของการแบ่งปัน การให้ตามหลักศาสนาอยู่แล้ว

สำหรับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ช่วงเริ่มต้นส่วนใหญ่จะเป็นเด็ก แต่ตอนนี้มีในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน มีลูกค้าเฉลี่ยวันหนึ่งประมาณ 20 คน ใกล้เปิดเทอมจะมีเด็กเยอะหน่อย และช่วงเทศกาลรายอ การออกบุญตามหลักศาสนาอิสลาม ช่วงนั้นจะมีลูกค้าผู้ใหญ่จำนวนมาก เพราะคนอิสลามมีความเชื่อว่าการเข้าร่วมเทศกาลรายอจะต้องตัดผม ตัดเล็บ สวมเสื้อผ้าชุดใหม่ คล้ายช่วงเทศกาลสงกรานต์ของไทยพุทธ ส่วนทรงผม จะเป็นการออกแบบร่วมกันระหว่างลูกค้ากับช่างตัดผม ลูกค้าไม่ชอบแบบนี้ก็บอกช่างได้ ทุกวันนี้สามารถตัดผมโดยดูตามแบบในหนังสือได้ แม้แต่ทรงยอดฮิตอย่างหนุ่มเกาหลีก็สามารถตัดได้เช่นกัน

นอกจากนี้ ร้าน “อับดุลอาสีด” ยังได้รับเลือกให้เข้าร่วมกิจกรรมที่ทางสถาบันการจัดการบรรจุภัณฑ์และรีไซเคิลเพื่อสิ่งแวดล้อม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (TIPMSE) จัดขึ้นร่วมกับชุมชนบ้านควนโดนใน จังหวัดสตูล เป็นแหล่งเรียนรู้สังคมรีไซเคิลภาคใต้ และได้จัดกิจกรรม ร้าน 0 บาท ขึ้น ซึ่งปลุกจิตสำนึกให้คนในชุมชน และเด็กๆ ได้ร่วมกันคัดแยกขยะ และนำขยะมาขาย ได้คูปอง นำคูปองไปซื้อของตามร้านที่เข้าร่วมโครงการ

“การเข้าร่วมโครงการ ร้าน 0 บาท ส่วนหนึ่งเป็นการช่วยให้คนในชุมชนได้รู้จักที่จะคัดแยกขยะ มีรายได้จากการนำขยะมาขาย ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กที่นำคูปองมาใช้มากกว่า เพราะเป็นช่วงเริ่มต้น แต่ในอนาคตเชื่อว่าจะมีลูกค้าผู้ใหญ่ที่ให้ความสำคัญต่อการคัดแยกขยะ และนำคูปองมาใช้บริการที่ร้านเช่นเดียวกับเด็กๆ ”

โทร. 08-6965-3276
                                             ************

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *

กำลังโหลดความคิดเห็น