xs
xsm
sm
md
lg

ส่งต่อของดีจากแล็บ "เวชสำอางนาโนแฮร์โทนิค" จากดอกคำฝอยสู่เชิงพาณิชย์

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


วว.ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตเวชสำอางนาโนแฮร์โทนิคจากสารสกัดดอกคำฝอยสู่เชิงพาณิชย์ ผลิตภัณฑ์เสริมความแข็งแรงเซลล์รากผม บำรุงหนังศีรษะ ชะลอการหลุดร่วง เสริมสร้างการเจริญเติบโตเส้นผม

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตผลิตภัณฑ์เสริมความแข็งแรงของเซลล์รากผม บำรุงหนังศีรษะ ชะลอการหลุดร่วงเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเส้นผม “เวชสำอางนาโนแฮร์โทนิคจากสารสกัดดอกคำฝอย” สู่เชิงพาณิชย์ ให้แก่บริษัท เฮอร์บอร์นิค จำกัด มุ่งสร้างทางเลือกให้ผู้บริโภค เสริมแกร่งให้ผู้ประกอบการจากการนำผลงานฝีมือนักวิจัยไทยต่อยอดเชิงธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ

ดร.ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ผู้ว่าการ วว. กล่าวว่า จากความสำเร็จของศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพร วว. ในการวิจัยและพัฒนาสารสกัดจากดอกคำฝอย (Carthamus tinctorius) เป็นผลิตภัณฑ์เวชสำอางนาโนแฮร์โทนิค ซึ่งมีประสิทธิภาพช่วยในการเสริมความแข็งแรงของเซลล์รากผม บำรุงหนังศีรษะ ชะลอการหลุดร่วงและเสริมสร้างการเจริญเติบโตของเส้นผมได้เป็นอย่างดี โดยอาศัยวิทยาการด้านนาโนเทคโนโลยีที่กำลังเป็นที่ตื่นตัวในวงการวิชาการระดับนานาชาติ ตลอดจนสามารถใช้เป็นทางเลือกหนึ่งในการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพรสู่เชิงพาณิชย์

“เพื่อให้ประชาชนได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพนี้ให้แพร่หลาย วว. จึงได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตผลิตภัณฑ์ดังกล่าวให้แก่บริษัทเฮอร์บอร์นิค จำกัด เพื่อนำไปผลิตในเชิงพาณิชย์ โดยจะมีการจำหน่ายทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.) ในเชิงพาณิชย์ร่วมกันต่อไป”

ผลิตภัณฑ์เวชสำอางแฮร์นาโนโทนิคต้านการเกิดผมร่วงและเสริมสร้างการเจริญของเส้นผมจากสารสกัดดอกคำฝอย ภายใต้แบรนด์ Herberish เป็นนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่ใช้ประโยชน์จากดอกคำฝอย ซึ่งเป็นสมุนไพรของประเทศไทยที่มีสรรพคุณในการบำรุงสุขภาพและป้องกันการเกิดโรคต่างๆ

จากงานวิจัยและพัฒนาของ วว. พบว่า สารสกัดดอกคำฝอยในตัวทำละลายที่เหมาะสมยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและสามารถยับยั้งเอนไซม์ 5α-reductase ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดผมร่วงและศีรษะล้านได้ใกล้เคียงกับตัวยามาตรฐาน Dutasteride และ Finasteride

ผู้ว่าการ วว.ระบุว่า จุดเด่นที่สำคัญของผลิตภัณฑ์นี้คือ การใช้วิทยาการด้านนาโนเทคโนโลยี (Nanoencapsulation) เพื่อกักเก็บและนำส่งสาร safflomin A ซึ่งเป็นสารสำคัญที่ตรวจพบในดอกคำฝอย โดยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นสามารถช่วยเพิ่มการซึมผ่านสาร safflomin A เข้าสู่ผิวหนังได้ดีกว่าการเตรียมสารสกัดในรูปสารละลายถึง 6 เท่า เนื่องจากมีขนาดหยดอนุภาคภายในน้อยกว่า 50 นาโนเมตร และมีความคงตัวทางกายภาพที่ดี ไม่เกิดการแยกชั้น หลังจากเก็บเป็นระยะเวลา 3 เดือน ที่อุณหภูมิ 30 oC และ 45 oC

นอกจากนี้ยังพบว่า ผลิตภัณฑ์ไม่ก่อให้เกิดระคายเคืองต่อผิวหนังและหนังศีรษะของอาสาสมัคร ในด้านการทดสอบประสิทธิภาพในอาสาสมัครยังพบว่า ผลิตภัณฑ์สามารถช่วยส่งเสริมการเจริญของเส้นผมและช่วยชะลอการหลุดร่วงของเส้นผมคิดเป็นร้อยละ 16.48 ซึ่งดีกว่าผลิตภัณฑ์กลุ่มควบคุม (Placebo) หลังจากใช้ผลิตภัณฑ์เป็นเวลา 12 สัปดาห์ นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นยังปราศจากซิลิโคน พาราเบน และซัลเฟต

ทั้งนี้มูลค่าของตลาดสินค้าความงามทั่วโลกมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกปี สำหรับประเทศไทยนั้นเป็นศูนย์กลางเวชสำอางอันดับ 3 ของเอเชีย ต่อจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ อีกทั้งยังเป็นประเทศที่ครอบครองตลาดความงามที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดยมีการผลิตสินค้าเพื่อส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลกกว่า 97% ของการส่งออกผลิตภัณฑ์เวชสำอางเป็นผู้ประกอบการเวชสำอางรายย่อยและกลุ่ม SMEs

“เรียกได้ว่าผู้ประกอบการเวชสำอาง SMEs นั้น เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมเวชสำอางของไทยให้ก้าวไกลระดับโลก การถ่ายทอดเทคโนโลยีผลงานวิจัยของ วว. สู่เชิงพาณิชย์ในครั้งนี้เป็นความสำเร็จอีกวาระหนึ่งในการนำ วทน.ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนา ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสังคมนวัตกรรมและขีดความสามารถการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการอย่างเป็นรูปธรรม” ผู้ว่าการ วว. กล่าว
ด้าน นายวิบูลย์ อัศวะอำนวย กรรมการบริษัทเฮอร์บอนิค จำกัด กล่าวว่า มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับ วว. ประทับใจในการทุ่มเททำงานและความรับผิดชอบของ วว. ในการผลิตผลงานวิจัยออกมามีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นเป็นประโยชน์มากต่อสังคมและการประกอบธุรกิจ ในการเพิ่มมูลค่าสมุนไพร ทรัพยากรในประเทศด้วย วทน. สู่การพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ทั้งนี้บริษัทมีเป้าหมายในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นี้ผ่านตัวแทนจำหน่ายและระบบออนไลน์ โดยมุ่งตลาดภายในประเทศและอาเซียน






กำลังโหลดความคิดเห็น