xs
xsm
sm
md
lg

กรีนพีซบุก “ไบโอเอเชีย 2007” ร้องพืชผลไทยต้องปราศจากจีเอ็มโอ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กรีนพีซ – กรีนพีซนำทีมอาสาสมัครบุกงานไบโอเอเซีย 2007 ปลูกข้าวสัญลักษณ์ “ระเบิดเวลาข้าวจีเอ็ม” ชี้การประชุมครั้งนี้เป็นการโฆษณาชวนเชื่อพืชจีเอ็มโอ โดยเฉพาะการประชาสัมพันธ์ข้าวสีทองวิตามินเอสูง ทั้งที่ยังไม่มีใครสามารถยืนยันความปลอดภัยต่อผู้บริโภค

เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 7 พ.ย. กลุ่มอาสาสมัครกรีนพีซ ได้จัดกิจกรรมคัดค้านพืชดัดแปลงพันธุกรรม (จีเอ็มโอ) ขึ้น ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกับที่มีการจัดประชุมวิชาการและงานแสดงนิทรรศการนานาชาติ “ไบโอเอเชีย 2007 ไทยแลนด์” (BioAsia 2007 Thailand) 7 -9 พ.ย.ของศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีแห่งชาติ (ไบโอเทค) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.)

ทั้งนี้ อาสาสมัครกรีนพีซได้แต่งชุดชาวนาและได้ร่วมกันปลูกข้าวสัญลักษณ์ “ข้าวจีเอ็มโอระเบิดเวลา” จำนวน 60 ต้น พร้อมชูป้าย "Don't bomb our future, Keep our rice GMO Free" หรือ “อย่าระเบิดอนาคตพวกเรา รักษาข้าวไทยให้ปลอดจีเอ็มโอ” เพื่อเป็นการเตือนว่าข้าวจีเอ็มโอมีความเสี่ยงต่อสิ่งแวดล้อมและการปนเปื้อนของข้าวจีเอ็มโอนั้นเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อชีวิตความเป็นอยู่ของชาวนาและเศรษฐกิจข้าวไทย

อีกทั้ง กรีนพีซเชื่อว่า การประชุมไบโอเอเชีย 2007 ไทยแลนด์ครั้งนี้จะเป็นการโฆษณาชวนเชื่อว่าเทคโนโลยีจีเอ็มโอคือทางออกที่ดีที่สุด โดยเน้นไปที่ข้าว รวมทั้งมีความคิดที่จะส่งเสริมเทคโนโลยีข้าวตัดต่อพันธุกรรม ซึ่งองค์กรสิ่งแวดล้อมอย่างกรีนพีซกำลังรณรงค์และยืนยันว่ามีความเสี่ยงต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

“ข้าวเป็นพืชที่สำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเป็นอาหารหลักของคนเอเชีย การสนับสนุนข้าวจีเอ็มโอก็เป็นเหมือนการวางระเบิดเวลา ซึ่งสามารถสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อคนนับพันล้านชีวิต"
 
"การสนับสนุนข้าวจีเอ็มโอในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และในประเทศไทยจะทำลายอนาคตด้านเกษตรกรรมของทั่วทั้งภูมิภาค ประเทศไทยเป็นประเทศที่ปราศจากอาหารจีเอ็มโอ และควรจะเป็นประเทศที่ปราศจากอาหารจีเอ็มโอต่อไป” น.ส.ณัฐวิภา อิ้วสกุล ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านพันธุวิศวกรรม กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าว

น.ส.ณัฐวิภา กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมา กรีนพีซได้รณรงค์อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ไทยคงการทำนาข้าวปลอดจากจีเอ็มโอ เนื่องจากเห็นว่าพืชจีเอ็มโอเป็นอันตรายต่อสุขภาพมนุษย์ เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นภัยต่อชีวิตความเป็นอยู่ของชาวนา ขณะที่ยังไม่มีการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ใดเลยที่พิสูจน์ให้เห็นว่าพืชจีเอ็มโอปลอดภัยสำหรับการบริโภคของมนุษย์ หรือการนำไปแพร่พันธุ์ในนาข้าว

“นอกจากนี้ พืชจีเอ็มโอยังเป็นตัวการทำให้เกษตรกรรมถูกครอบงำโดยบริษัทขนาดใหญ่ซึ่งถือว่าเป็นอันตราย เนื่องจากทำให้ชาวนาต้องพึ่งพาเมล็ดพันธุ์และเทคโนโลยีต่างๆจากบริษัทเหล่านี้อยู่ตลอดเวลา” น.ส.ณัฐวิภา กล่าวและว่า

สิ่งที่กรีนพีซพบว่าเป็นการหลอกลวงอย่างยิ่งของการประชุมนี้ก็คือ การส่งเสริมข้าวที่เพิ่มความทนทานและเพิ่มสารอาหารเข้าไปว่ามีประโยชน์กว่าข้าวธรรมดา โดยเฉพาะข้าวสีทอง (Golden Rice) ซึ่งใน พ.ศ. 2543 มีผู้สนับสนุนว่าเป็นทางเลือกที่ดีของผู้ที่ขาดวิตามินเอ

อย่างไรก็ตาม การที่ “ข้าวสีทอง” เป็นข้าวดัดแปลงพันธุกรรมซึ่งผิดธรรมชาติ “ข้าวสีทอง” จึงมีปัญหาทางเทคนิคและเกิดความกังวลด้านความปลอดภัย แต่อุตสาหกรรมพืชตัดต่อพันธุกรรมกลับใช้วิธีการทางการตลาดยกฐานะของพืชดัดแปลงพันธุกรรมให้เป็นพืชที่มีประโยชน์ ทั้งๆ ที่นักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถตอบข้อสงสัยเรื่องความปลอดภัยได้

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นผู้บริโภคข้าวรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และเป็นแหล่งผลกำไรอันงดงามสำหรับบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ควบคุมเทคโนโลยีจีเอ็มโอ ซึ่งมุ่งมั่นที่จะทำการตลาดสนับสนุนเทคโนโลยีเหล่านี้ โดยแทบจะไม่คำนึงถึงผลกระทบด้านสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ” แดเนียล โอคามโป ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านพันธุวิศวกรรม กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าว

เราไม่ยอมให้อนาคตของข้าวตกอยู่ในกำมือของบริษัทเหล่านี้ และอาหารของเราจะต้องไม่เป็นทาสของเทคโนโลยีจีเอ็มโอ” เขากล่าว
 
นายโอคามโป เสริมด้วยว่า กรีนพีซรณรงค์เพื่อต่อต้านพืชจีเอ็มโอรวมทั้งผลิตภัณฑ์อาหารที่มีส่วนผสมของพืชจีเอ็มโอทั้งหมด ซึ่งเป็นกลไกสำคัญบนหลักการของความยั่งยืน เพื่อปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ และให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงอาหารที่มีคุณค่าและปลอดภัย

“การตัดต่อพันธุกรรมเป็นเทคโนโลยีที่ล้าสมัยและไม่เป็นที่ต้องการของสังคมโลกอีกทั้งยังทำลายความหลากหลายทางชีวภาพ และสร้างความเสี่ยงให้กับผู้บริโภค” โอคามโป สรุป

กำลังโหลดความคิดเห็น