xs
xsm
sm
md
lg

“ไบโอเทคบูม” ช่วยเกษตรกรเพิ่มผลผลิต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เดอะ เจอร์นัล กาเซ็ต – ไบโอเทคหรือเทคโนโลยีชีวภาพมีข้อได้เปรียบทั้งในแง่การบริโภคและความหลากหลายของสายพันธุ์ และเรากำลังเก็บเกี่ยวประโยชน์เหล่านั้นตั้งแต่อาการที่ราคาถูกกว่าและมีคุณภาพดีกว่าไปจนถึงการอนุรักษ์ผืนดินและป่าไม้

ข้อมูลในปี 2004 ชี้ว่าพื้นที่มีการปลูกพืชไบโอเทคทั้งโลกอยู่ที่ประมาณ 200 ล้านเอเคอร์ หรือ 500 ล้านไร่ เพิ่มขึ้นจาก 167 ล้านเอเคอร์หรือ 417.5 ล้านไร่จากปี 2003 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อถึง 47 เท่านับตั้งแต่ปี 1996

เช่นเดียวกับที่สหรัฐฯ พื้นที่การปลูกพืชไบโอเทคเพิ่มขึ้นทุกปี ส่วนมากเป็นข้าวโพด เป็นฝ้ายถึงสี่ในห้า และเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ของถั่วเหลืองเป็นพืชดัดแปลงพันธุกรรม (จีเอ็มโอ) นั่นหมายความว่า มีการตัดและต่อยืนของสิ่งมีชีวิตอื่นเข้าไปในพืชเหล่านั้นเพื่อให้เกิดลักษณะใหม่ขึ้น เช่นเดียวกับการปรับปรุงพันธุ์ด้วยวิธีการผสมข้ามเพื่อให้พืชมีลักษณะใหม่ ซึ่งเป็นวิธีที่เราใช้กันมานานมากแล้ว

การปรับปรุงพันธุ์พืชโดยใช้เทคโนโลยีพันธุวิศวกรรมหรือการตัดต่อยืนของพืชประมาณ 30 ชนิดอยู่ในระหว่างการวิจัยและพัฒนาของบริษัทมอนซานโต้ ที่เมืองเซนต์หลุยส์ สหรัฐอเมริกา ซึ่งการปรับปรุงพันธุ์พืชส่วนใหญ่มีแนวคิดพื้นฐานมาจากความต้องการช่วยเหลือเกษตรกร ทำให้ต้นทุนในการเพาะปลูกลดลง ได้ผลผลิตมากขึ้นขณะที่ใช้พื้นที่ปลูกน้อยลง ซึ่งเป็นการอนุรักษ์ธรรมชาติได้อีกทางหนึ่ง

ในจำนวนพืชเหล่านี้ มีข้าวโพด ถั่วเหลือง ฝ้าย และพืชน้ำมันคาโนลา ซึ่งมีคุณสมบัติทนแล้ง มอนซานโต้มีวีดีโอเปรียบเทียบข้าวโพดทนแล้งและข้าวโพดทั่งซึ่งอยู่ในสภาพอากาศร้อนที่อุณหภูมิ 100 องศา ใบของข้าวโพดทั่วไปม้วนเข้า ขณะที่ใบของข้าวโพดทนแล้งยังคงเปิดใบรับแสงทำให้ต้นข้าวโพดยังคงเติบโตได้ต่อไป ซึ่งนักวิจัยได้ตรวจสอบอุณหภูมิที่ใบข้าวโพดแล้วพบว่า อุณหภูมิเย็นกว่า

ภัยแล้งมักจะทำลายพืชต่างๆ ในสหรัฐฯ ทำให้เกษตรกรประสบปัญหาอย่างมากและต้องขึ้นราคาผลิตผลเมื่อนำไปจำหน่ายในตลาดแต่ในประเทศที่ยากจนในส่วนอื่นๆ ของโลก ความแห้งแล้งหมายถึงความอดอยากและความตาย ขณะที่ลูกค้าหลักของมอนซานโต้เป็นเกษตรกรในสหรัฐฯ ก็ยังมีตลาดในต่างประเทศ ซึ่งได้มีการพัฒนาพืชอื่นๆ เพื่อเกษตรกรในประเทศกำลังพัฒนา เช่น มันเทศต้านทานโรค

นอกจากนี้ ขณะที่พืชไบโอเทค อย่างฝ้ายช่วยเพิ่มผลผลิตให้เกษตรกรชาวเอเมริกันได้ 10 เปอร์เซ็นต์หรือมากกว่านั้น เกษตรกรชาวแอฟริกันในสหรัฐอเมริกาบอกว่า ฝ้ายไบโอเทคเพิ่มผลผลิตให้ได้ถึง 2 เท่า เพราะเมล็ดพันธุ์ไบโอเทคเป็นข้อได้เปรียบอย่างเดียวที่เขามี เพราะเขาไม่มีรถแทรกเตอร์ ไม่มีสารกำจัดแมลง หรือแม้แต่ระบบที่บอกตำแหน่งได้ว่า เขาควรใช้สารกำจัดแมลงหรือใส่ปุ๋ยตรงไหน

ถ้าจะกล่าวถึงผลิตภัณฑ์อีกอย่างหนึ่งของมอนซานโต้ก็คือ ข้าวโพดที่เพิ่มการใช้ไนโตรเจน พืชส่วนใหญ่รวมทั้งข้าวโพดจะดึงไนโตรเจนจากดินมาใช้ ดังนั้นเกษตรกรต้องใส่ปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่าย และถ้าไม่มีการจัดการแปลงที่ดี ก็สามารถเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมได้ เมื่อฝนตกแล้วชะปุ๋ยเหล่านั้นลงน้ำก็จะทำให้พวกเห็ดราเติบโตแย่งอาหารพืชและสัตว์น้ำได้

ในประเทศกำลังพัฒนา การดัดแปลงพันธุกรรมพืชให้สามารถใช้ไนโตรเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพสามารถลดปริมาณการใช้ปุ๋ยลง หรือพืชสามารถให้ผลผลิตมากขึ้นขณะที่ใส่ปุ๋ยเท่าเดิม ซึ่งเกษตรกรที่มีรายได้น้อยสามารถหาปุ๋ยได้จากมูลสัตว์หรือทำปุ๋ยใช้เองภายในครัวเรือน

ปัจจุบันนี้ พืชไบโอเทคเกือบทุกชนิดสามารถช่วยลดการใช้ทั้งสารกำจัดวัชพืชหรือสารกำจัดแมลง อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์ใหม่ของมอนซานโต้ได้รวมคุณสมบัติทั้งสองอย่างไว้ในพืชเดียว กระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ เพิ่งอนุมัติข้าวโพดที่สามารถต้านทานได้ทั้งสารกำจัดวัชพืชและป้องกันหนอนเจาะรากข้าวโพด

นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นที่มุ่งให้ประโยชน์กับผู้บริโภคโดยตรง เช่น ถั่วเหลืองที่ดีต่อสุขภาพ ทั้งที่ใช้ในการผลิตน้ำมันพืชและนำมาประกอบอาหาร ซึ่งได้มีการเพิ่มกรดไขมันโอเมกา-3 ลงไปในถั่วเหลือง ซึ่งช่วยลดอัตราเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ นอกจากนี้ยังเพิ่มคุณค่าโปรตีนในถั่วเหลือง ลดไขมันแปรรูปและไขมันอิ่มตัวซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ
กำลังโหลดความคิดเห็น