เมื่อสัปดาห์ที่แล้วพี่ชายเขียนถึงเรื่องแรงบันดาลใจจากน้องสู่พี่ มาถึงวันนี้น้องชาย “สิน สิทธิสมาน” ขอเขียนต่อตอนที่ 2 เป็นผลมาจากการไขว่คว้าโอกาสที่ได้รับจากพี่ชายให้ทำในสิ่งที่ท้าทายตัวเอง และเขาเชื่อว่าแรงบันดาลใจสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงในชีวิตได้ผ่านคอลัมน์นี้
……………………….
ถ้าใครได้อ่านบทความของพี่ชายผมในคอลัมน์ของคุณแม่ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นั่นก็หมายความว่าคุณรู้แล้วนะครับว่าเรา 2 คนจะมีรายการที่จัดร่วมกัน และก็ต้องบอกย้ำตรงนี้ไว้ก่อนเลยว่าใกล้จะคลอดแล้วจริง ๆ ครับ
ก็อย่างที่พี่ชายพูดไปละครับว่าผมมีความคิดอยากจะทำรายการรายการหนึ่งมานานแล้ว ไม่ว่าจะเป็นรายการเกี่ยวกับฟุตบอลเอย หรือจะเป็นรายการเกี่ยวกับ Vlog พาเที่ยวเซี่ยงไฮ้เอย ผมมีความคิดอยากจะลองทั้งหมด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับรายการ Vlog พาเที่ยวเซี่ยงไฮ้ที่เริ่มคิดชื่อรายการ เริ่มคิดคอนเทนท์ โดยวางแผนไว้ว่าจะทำร่วมกับเพื่อนสนิทคนหนึ่ง แต่นั่นแหละครับ เนื่องด้วยสถานการณ์ ณ ปัจจุบันที่ไม่เอื้ออำนวยเอาเสียเลย จนถึงวันนี้ยังไม่รู้เลยว่าในที่สุดแล้วเราจะเป็นนักศึกษาปริญญาตรีที่จบที่ประเทศจีนหรือต้องจบออนไลน์ที่ประเทศไทย
โปรเจ็คท์นี้จึงถูกพักไปแบบไม่มีกำหนด
ผมเลยได้แต่คิดแล้วก็ยังไม่ได้เริ่มอะไรสักที...
ครั้นเมื่อไม่นานมานี้พี่ชายผมเอ่ยปากชวนให้ไปทำรายการกับเพจเฟสบุ๊ครายหนึ่ง ตัวผมที่ยังไม่รู้รายละเอียดอะไรเลยแต่ก็ตอบตกลงไปในทันที
แน่นอนแหละครับ ตอนนี้มีโอกาสอะไรเข้ามาก็ควรคว้าไว้ก่อน แถมยังได้ทำรายการร่วมกับพี่ชายด้วย และเหตุผลสุดท้ายที่แสนจะง่ายดายเลยสำหรับการตัดสินใจก็คือ...
ผมว่างครับ...ว่างมาก....
รายละเอียดของรายการนั้น ผมจะพูดคร่าว ๆ ละกันว่ารายการนี้มีเนื้อหาเกี่ยวกับปัญหาของวัยรุ่น ที่มักจะมีการบ่นลงในโซเชี่ยลมีเดีย โดยเราสองคนพี่น้องจะเป็นผู้ดำเนินรายการ และมีบุคคลจากทางบ้านโทรเข้ามาเล่าเรื่องราวของเขา และพูดคุยกับเราสองคน ประมาณนี้ครับ
ซึ่งพอผมทราบคอนเซ็ปท์รายการแล้วเนี่ย ก็ออกจะชอบและตื่นเต้นอย่างมาก เพราะเป็นเรื่องที่น่าจะสนุก และเข้ากับวัยของพวกเราพี่น้องสองคนเป็นอย่างดี
สำหรับมือใหม่อย่างผมที่กำลังจะจัดรายการเป็นครั้งแรก การเตรียมตัวเป็นสิ่งที่สำคัญมาก แต่พอไปจัดรายการจริง ๆ แล้ว สิ่งที่เตรียมตัวไปนั้นได้ใช้น้อยมากจริง ๆ ครับ พูดง่าย ๆ ว่าในตอนแรกที่ผมจัดรายการ สิ่งที่ได้ใช้จากการเตรียมพร้อมก่อนเริ่มเนี่ยแทบไม่ถึง 30 % เลยด้วยซ้ำ เหตุผลก็คือเมื่อเรามีบุคคลที่สามเข้ามาร่วมคุยกับเราในรายการด้วย เราต้องพยายามคุยกับเขา และเนื้อหาก็จะขึ้นอยู่กับเขาเป็นหลัก มันเลยทำให้สิ่งที่เตรียมมาอาจจะได้ใช้น้อยหรือแทบไม่ได้ใช้เลย แต่จะเป็นการใช้ความรู้สึก และอารมณ์ในตอนนั้นมากกว่าที่จะพารายการไปในทางไหน
เรื่องแบบนี้เป็นอะไรที่ใหม่สำหรับผม ทำให้บางครั้งออกจะเกร็ง ๆ ไปบ้าง แต่ก็ถือเป็นประสบการณ์ร่วมกับพี่ชายที่ได้อะไรเยอะมากเลยทีเดียว
จนถึงขณะนี้พวกเราอัดเทปกันไปได้ 5 ตอนแล้ว ใน 3 ตอนแรกที่พวกเราอัดเทปกันก็ถือเป็นตอนซ้อมไปก่อน เพราะเป็นช่วงที่พวกเรากำลังแก้ปัญหา และพยายามปรับเคมีให้เข้ากัน โดยจะนำมาใช้ จริง ๆ แค่ 2 ตอนหลังเท่านั้น
จากการที่ได้เริ่มจัดรายการกับพี่ชาย ทำให้ผมพบว่ามันสนุกจริง ๆ และผมก็เอนจอยกับมัน มาก ๆ แต่ความที่ยังไม่ได้เป็นมืออาชีพ ทำให้การพูดของผมหลายครั้งออกจะเกร็งไปบ้าง หรือ ผ่อนคลายน้อยเกินไปหน่อย ทำให้ต้องปรับแก้อยู่หลายครั้ง
สำหรับตอนแรกที่ใกล้จะถึงนี้ ก็ถือว่าเราสองคนตั้งใจและพยายามทำมันออกมาให้ดีที่สุด และเชื่อเหลือเกินว่าเราจะทำให้มันดียิ่ง ๆ ขึ้นไปได้อีกในอนาคต
พวกเราสองพี่น้องจะตั้งใจทำอย่างเต็มที่
ขอบคุณครับ