xs
xsm
sm
md
lg

ดูแลวัคซีนให้ดีที่สุด! ชุดอุปกรณ์ ระบบตรวจวัดอุณหภูมิตู้เก็บวัคซีนโควิด-19 นวัตกรรมโดยกลุ่ม ปตท.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เพราะวัคซีนโควิด-19 ทุกโดสนั้นสำคัญ! กลุ่ม ปตท. ส่งมอบชุดอุปกรณ์และระบบตรวจวัดอุณหภูมิและควบคุมโซ่ความเย็น 2,000 ชุด แก่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อใช้ติดตามอุณหภูมิตู้จัดเก็บวัคซีนโควิด-19 ในโรงพยาบาลแบบเรียลไทม์ แจ้งเตือน รพ.และบน Dash Board ส่วนกลาง ควบคุมกำกับระดับความเย็นให้ได้ตามมาตรฐานทุกขั้นตอน

ถือเป็นอีกหนึ่งข่าวดีสำหรับคนไทย เพราะนอกจากวัคซีนป้องกันโควิด-19 เริ่มเดินทางเข้าถึงเมืองไทย แต่หลายภาคส่วนยังพร้อมให้ความร่วมแรงร่วมใจอย่างเต็มที่ โดยล่าสุด กลุ่ม ปตท. ได้นำองค์ความรู้ที่มีอยู่มาประยุกต์สร้างนวัตกรรมเป็นชุดอุปกรณ์และระบบตรวจวัดอุณหภูมิและควบคุมโซ่ความเย็น เพื่อดูแลวัคซีนให้คงไว้ซึ่งประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับประชาชนคนไทย พร้อมมอบให้กระทรวงสาธารณสุขเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับมอบ

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หลังจากที่รัฐบาลได้จัดหาวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อฉีดให้กับคนไทย ซึ่งในขณะนี้ได้จัดส่งวัคซีนล็อตแรกจากบริษัท Sinovac Life Science ให้กับโรงพยาบาลใน 13 จังหวัด เพื่อทยอยฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยงเป้าหมายการฉีดระยะแรกแล้ว โดยใช้ระบบควบคุมโซ่ความเย็น Cold Chain System ซึ่งจะต้องมีการควบคุมอุณหภูมิให้ถูกต้องเหมาะสม


“วัคซีนจะต้องถูกควบคุมให้อยู่ในอุณหภูมิระหว่าง 2-8 องศาเซลเซียส ในทุก ๆ ขั้นตอน ทั้งการจัดเก็บ การขนส่ง การเคลื่อนย้าย เพื่อให้ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพในการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค และในวันนี้ ก็เป็นเรื่องที่น่าดีใจ ที่กลุ่ม ปตท. โดยบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ได้ให้การสนับสนุนชุดอุปกรณ์และระบบตรวจวัดอุณหภูมิและควบคุมโซ่ความเย็นให้กับโรงพยาบาลเพื่อใช้ในการติดตามอุณหภูมิตู้จัดเก็บวัคซีนโควิด-19 ในโรงพยาบาล 1,000 แห่งทั่วประเทศ”

นายอนุทิน ชาญวีรกูล กล่าวเพิ่มเติมถึงศักยภาพของชุดอุปกรณ์และระบบตรวจวัดอุณหภูมิและควบคุมโซ่ความเย็นที่กลุ่ม ปตท. มอบให้ว่า อุปกรณ์ดังกล่าวเป็นตัว Censor ที่จะช่วยให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการบริหารจัดการวัคซีนได้รับข้อมูลแบบเรียลไทม์ว่า วัคซีนสามารถรักษาอุณหภูมิตามมาตรฐานหรือไม่ ถ้ามีการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิ ระบบจะมีการส่งสัญญาณเตือนไปยังเจ้าหน้าที่เพื่อตรวจเช็กจัดการแก้ไขได้ทันท่วงที

“วัคซีนทุกโดส มีความสำคัญ จะต้องได้รับการดูแลรักษาเพื่อนำไปฉีดให้กับประชาชนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ต้องขอขอบคุณกลุ่ม ปตท. ที่มองเห็นความตั้งใจของกระทรวงสาธารณสุข และเป็นห่วงถึงประโยชน์ของพี่น้องประชาชน จึงได้บริจาคอุปกรณ์ตัวนี้มา ซึ่งมีคุณค่ามากเลยครับ” นายอนุทิน กล่าว

(จากซ้าย) ดร.สาธิต ปิตุเตชะ, นายอนุทิน ชาญวีรกูล, นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์, นายพงศธร ทวีสิน
ด้าน นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กลุ่ม ปตท. โดยบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) (ปตท.สผ.) ตระหนักถึงความสำคัญในการส่งมอบวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและมีความปลอดภัยต่อผู้ที่ได้รับ จึงร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนชุดอุปกรณ์ พร้อมระบบตรวจวัดอุณหภูมิ จำนวน 2,000 ชุด มูลค่า 10,000,000 บาท ให้แก่กระทรวงสาธารณสุข

ทั้งนี้ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ให้ข้อมูลว่า นับตั้งแต่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 กลุ่ม ปตท. ได้พยายามเข้าไปให้ความช่วยเหลือเท่าที่มีกำลัง ไม่ว่าจะเป็นการแจกจ่ายแอลกอฮอล์ทำความสะอาด ตามโรงพยาบาลต่าง ๆ ซึ่งแจกไปถึงสถานพยาบาลระดับชุมชนตำบล, การให้ความร่วมมือกับบุคลากรทางการแพทย์ในการพัฒนาอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เกี่ยวกับการช่วยรักษาและป้องกันการแพร่เชื้อ นอกจากนั้น

ขณะที่ในด้านเศรษฐกิจ กลุ่ม ปตท. ก็พยายามมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านโครงการที่ชื่อว่า Restart Thailand โดยอย่างแรกคือเรื่องของการจ้างงานประมาณ 25,000 อัตรา และพยายามกระตุ้นด้านการท่องเที่ยว โดยมีโปรแกรมให้พนักงานของเราไปท่องเที่ยวในวันธรรมดา เพื่อช่วยอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

“อันที่จริง ผมมองว่า ทั้งหมดที่เราทำมา รวมทั้งการส่งมอบชุดอุปกรณ์ในวันนี้ เป็นสิ่งเล็ก ๆ ที่ ปตท. เราพอจะทำได้ครับ เมื่อเทียบกับสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่กระทรวงสาธารณสุขกำลังทำเพื่อประเทศอยู่ และเราก็รู้สึกภูมิใจและขอขอบคุณกระทรวงสาธารณสุขและบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่านที่ช่วยคนไทยในวิกฤตครั้งนี้ด้วยครับ” นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ กล่าว

ด้านนายพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. กล่าวว่า ปตท.สผ. รู้สึกมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมสนับสนุนชุดอุปกรณ์ดังกล่าว เพื่อประกันคุณภาพการจัดเก็บวัคซีนโควิด-19 โดยนวัตกรรมดังกล่าวพัฒนาขึ้นโดยบริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด หรือ “เออาร์วี” ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ปตท.สผ. ด้วยการนำเทคโนโลยีการเก็บข้อมูลไหวสะเทือน (Seismic) ซึ่งเป็นองค์ความรู้ด้านการสำรวจปิโตรเลียมมาประยุกต์ใช้ในการสร้างเทคโนโลยีเพื่อติดตามและควบคุมอุณหภูมิการจัดเก็บวัคซีนของโรงพยาบาลทั่วประเทศ

ตัวอย่างชุดอุปกรณ์และระบบตรวจวัดอุณหภูมิและควบคุมโซ่ความเย็น ซึ่งทำงานผ่าน IoT
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ปตท.สผ. มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชนมาอย่างต่อเนื่อง โดยหนึ่งในนโยบายที่ให้ความสำคัญก็คือ การสนับสนุนด้านความต้องการพื้นฐานเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน

“ปตท.สผ. ได้ให้การสนับสนุนด้านสาธารณสุขมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นโครงการสร้างพื้นฐาน เช่น การสนับสนุนการสร้างอาคารผู้ป่วยในโรงพยาบาลลานกระบือ จ.กำแพงเพชร การสนับสนุนการจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับห้องผ่าตัดให้แก่โรงพยาบาลสงขลา รวมถึงการสนับสนุนการพัฒนาบุคลากร เช่น โครงการพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น โครงการร่วมผลิตพนักงานช่วยเหลือคนไข้ โรงพยาบาลสงขลา เป็นต้น”


และจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ปตท.สผ. ก็ต่อสู้เคียงข้างคนไทยมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้สนับสนุนงบประมาณทั้งทางตรงและทางอ้อมให้แก่โรงพยาบาล สถาบันการศึกษา หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ ให้การสนับสนุนจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในการผลิตชุดตรวจคัดกรองความเสี่ยงโควิด-19 เบื้องต้น และการสนับสนุนสถาบันวิทยสิริเมธีในการพัฒนาชุดตรวจวินิจฉัยโควิด-19 เป็นต้น

“ที่สำคัญ ปตท.สผ. เล็งเห็นว่า เราสามารถผสมผสานองค์ความรู้และเทคโนโลยีการค้นหาพลังงานที่เรามีอยู่ มาประยุกต์ใช้ในการสร้างนวัตกรรมเพื่อช่วยปกป้องบุคลากรทางการแพทย์และป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส โดย ปตท.สผ. และ เออาร์วี ได้ร่วมกันพัฒนาเตียงเคลื่อนย้ายผู้ป่วยแรงดันลบและกล่องทำหัตการแรงดันลบ แล้วส่งมอบให้แก่โรงพยาบาลทั่วประเทศ นอกจากนี้ จากวิกฤติโควิด-19 เราได้กำหนดให้เทคโนโลยีด้านการแพทย์ หรือ MedTech เป็นหนึ่งใน Focus Area ของบริษัทเออาร์วีเพื่อการพัฒนาเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการสาธารสุขต่อไป” นายพงศธร ทวีสิน กล่าวทิ้งท้าย


กำลังโหลดความคิดเห็น