นักวิจัยทุนสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ช่วยครูช่างถิ่นล้านนาฟื้นคืน “กระจกเกรียบ” และ “กระจกจืน” กระจกโบราณที่ใช้บูรณะโบราณสถานและโบราณวัตถุ พร้อมพัฒนาสูตรกระจกโบราณใหม่ๆ และสร้างผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่ใช้กระจกจืนและกระจกเกรียบตกแต่งเพื่อขยายผลเชิงพาณิชย์ในอนาคต
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) สนับสนุนการวิจัยเรื่อง “การพัฒนาแก้วคริสตัลปราศจากตะกั่วและการประดิษฐ์แก้วคริสตัลบาง” ภายใต้แผนงานเทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรมด้านวัสดุนาโนและนาโนเทคโนโลยี ซึ่งนำโดย รองศาสตราจารย์ ดร.กมลพรรณ เพ็งพัด นักวิจัยสังกัดคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
รองศาสตราจารย์ ดร.กมลพรรณ ได้ร่วมกับนายรชต ชาญเชี่ยว ครูช่างกระจกโบราณและคณะ ซึ่งมีโรงงานผลิตกระจกโบราณ โดยนำองค์ความรู้ทางด้านงานวิจัยกระจกไปพัฒนาสูตรกระจกโบราณคือกระจกเกรียบและกระจืน เพื่อนำไปบูรณะโบราณสถานและโบราณวัตถุ โดยได้กระจกที่มีเนื้อและสีทนต่อสภาพอากาศ อีกทั้งยังใกล้เคียงกับกระจกโบราณ กลมกลืนกับกระจกเก่าและงานอนุรักษ์และบูรณะได้เป็นอย่างดี
ด้านนายรชตกล่าวว่า ทำงานรื้อฟื้นกระจกเกรียบและกระจกจืนแบบโบราณด้วยตัวเองที่บ้าน ซึ่งช่วงแรกๆ ไม่รู้ว่าเนื้อกระจกต้องมีความแข็งอย่างไร จนกระทั่งรองศาสตราจารย์ ดร.กมลพรรณ นำความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วย โดยกระจกเกรียบและกระจกจืนนั้นมีใช้ในยุคกรุงศรีอยุธยาจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น และได้หายไปในช่วงรัชกาลที่ 5
นายรชตให้ข้อมูลเสริมว่า กระจกสมัยใหม่จะเคลือบด้วยเงินซึ่งเมื่อนานไปจะกลายเป็นคราบดำ
ส่วนกระจกโบราณนั้นจะเคลือบด้วยตะกั่วที่จะสร้างฟิล์มป้องกันตัวเองทำให้กระจกไม่เป็นคราบดำ โดย
กระจกเกรียบนั้นเป็นกระจกแข็ง แผ่นเรียบ และตัดได้ด้วยเพชรเท่านั้น มีใช้งานในภาคกลาง ส่วนกระจกจืนนั้นงอได้และนิ่ม สามารถตัดได้ด้วยกรรไกร และมีการใช้งานอยู่ในภาคตะวันออก ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
การบูรณะโบราณสถานและโบราณวัตถุต้องใช้กระจกโบราณเท่านั้น โดยกระจกเกรียบนั้นนำไปใช้งานในงานบูรณะหลายแห่ง เช่น วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม รวมถึงเรือพระที่นั่ง ส่วนกระจกจืนซึ่งเป็นคำเมืองที่หมายถึงกระจกตะกั่วนั้นมีในงานในวัดหลวง เช่น วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร
รองศาสตราจารย์ ดร.กมลพรรณ ยังได้รับทุนจาก วช. สร้างผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่ประดับด้วยกระจกจืนและกระจกเกรียบ โดยได้รับความร่วมมือจากนายชาญยุทธ โตบัณฑิต ศิลปิน “ฝุ่น หอสูง” ออกแบบและสร้างสัตภัณฑ์ ซึ่ง ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ได้เป็นประธานถวายสัตภัณฑ์ ณ วัดช่างฆ้อง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่


