xs
xsm
sm
md
lg

“ร.ร.นานาชาติเวอร์โซ” ร.ร.แห่งอนาคต สร้างทักษะ นร.รับมือยุคดิสรัปชั่น

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ “โรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ” ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นโรงเรียนแห่งอนาคต ซึ่งมีการคิดค้นหลักสูตรที่เรียกว่า ทลายข้อจำกัดของโรงเรียนแบบเดิม ๆ โดยมุ่งสร้างให้นักเรียนค้นพบตัวเอง มีทักษะการใช้ชีวิตที่สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกอนาคตได้ ภายใต้อาคารเรียนและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่ครบครัน เอื้อต่อการเรียนการสอนในระบบใหม่ที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทยเป็นครั้งแรก

โรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ เป็นการลงทุนร่วมกันระหว่าง บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) ในเครือของ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ฟอร์จูน แฮนด์ เวนเจอร์ ลิมิเต็ด จากฮ่องกง มูลค่าโครงการรวมกว่า 5 พันล้านบาท ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 168 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด เมื่อเทียบกับโรงเรียนนานาชาติแห่งอื่นในกรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยอยู่ติดกับโครงการธนาซิตี้ ย่านบางนา สามารถรองรับนักเรียนได้ถึง 1,800 คน ตั้งแต่ระดับชั้นเตรียมอนุบาลจนถึงเกรด 12

นางสาวปิยพร พรรณเชษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แนวคิดของโรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ คือ การสร้างนักเรียนที่สามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคปัจจุบันได้ หรือเรียกว่าสามารถรับมือกับอนาคตได้ เพราะปัจจุบันเราอยู่ในยุคของการดิสรัปชั่น ทำให้ความต้องการบุคลากรของภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจเปลี่ยนแปลงไป จึงจำเป็นที่โรงเรียนจะต้องปรับเด็กให้ทันกับยุคดิสรัปชั่นนี้ด้วย จึงต้องการสร้างโรงเรียนที่สามารถสร้างนักคิด นักนวัตกรรม และนักปฏิบัติ มีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกได้ ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นจุดแข็งของโรงเรียนนานาชาติเวอร์โซที่แตกต่างจากโรงเรียนอื่น และถือเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ โดยเป็นการปูทางไปสู่อนาคต

“เราตั้งใจที่จะทำให้โรงเรียนนานาชาติเวอร์โซมีคุณภาพมากที่สุด ซึ่งถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ในการสร้างบุคลากรแห่งยุคอนาคตขึ้นมา ซึ่งความคุ้มค่าคุ้มทุนกับการลงทุนสร้างโรงเรียนไปนั้นต้องดูในระยะกลาง คือ 10 ปีขึ้นไป เพราะถือว่าเป็นการเรียนการสอนในคอนเซ็ปต์ใหม่ ต้องอาศัยเวลาในการทำความเข้าใจ อย่างไรก็ตาม เราไม่ได้มองเรื่องของการแข่งขันกับโรงเรียนนานาชาติแห่งอื่น เพราะถือว่ามีจุดเด่นจุดแข็งแตกต่างกัน และเราเป็นทางเลือกให้แก่คุณพ่อคุณแม่และเด็ก ๆ ซึ่งการที่กรุงเทพมหานครมีโรงเรียนนานาชาติจำนวนมากก็ถือว่า กรุงเทพฯ เป็นศูนย์กลางศึกษานับว่าเป็นข้อดี” นางสาวปิยพร กล่าว

นางสาวปิยพร กล่าวว่า โรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ จะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงต้นปี 2563 และจะเปิดการเรียนการสอนครั้งแรกในช่วงเดือน ส.ค. 2563 โดยตั้งเป้าว่าจะรับนักเรียนให้ได้ประมาณ 200 คน โดยช่วงต้นจะเปิดการเรียนการสอนในชั้นอนุบาลจนถึงเกรด 8 ก่อน จากนั้นจึงค่อยขยายออกไปจนถึงเกรด 12 ซึ่งการรับนักเรียนนั้นไม่ได้เน้นแค่เด็กไทยเท่านั้น แต่จะรับนักเรียนต่างชาติในประเทศไทยด้วย เพราะการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจโลกมุ่งเป้ามายังเอเชียมากขึ้น และไทยเองยังมีโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกของประเทศ หรืออีอีซี ที่จะดึงดูดชาวต่างชาติเข้ามาได้ปีละกว่า 1 แสนคน ทำให้มีความต้องการโรงเรียนนานาชาติในพื้นที่ภาคตะวันออกของกรุงเทพฯ มากขึ้น อีกทั้งยังอยู่ห่างจากสนามบินสุวรรณภูมิเพียง 4 กิโลเมตร ทำให้ที่ตั้งของโรงเรียนนานาชาติเวอร์โซเอื้อต่อการรองรับนักเรียนจากนานาประเทศ

นางสาวปิยพร กล่าวว่า สำหรับหลักสูตรการเรียนการสอน จะเป็นรูปแบบของการศึกษาแบบอเมริกัน โดยอยู่ระหว่างการขอการรับรองจากสมาคมโรงเรียนและวิทยาลัยตะวันตก (WASC) ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้การรับรองโรงเรียนที่มีการเรียนการสอนคุณภาพได้มาตรฐานในระดับสากล ดังนั้น นักเรียนที่เรียนจบการศึกษาและได้รับใบประกาศนียบัตรจากโรงเรียนเวอร์โซ จะเป็นที่ยอมรับในกลุ่มมหาวิทยาลัยและสถาบันอุดมศึกษาที่มีชื่อเสียงต่าง ๆ ทั่วโลก เพราะปัจจุบันแนวโน้มการรับนักเรียนของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ไม่ได้แต่เพียงเกรดอย่างเดียว เพราะเกรดไม่สามารถบอกได้ทุกอย่าง หรือไม่สามารถบอกได้ว่า เด็กคนนั้นรู้จักตัวเอง กล้าทำตามความสนใจของตัวเอง สามารถคิด ปฏิบัติ ปรับตัวกับโลกในอนาคตได้ การเรียนการสอนของโรงเรียนนานาชาติเวอร์โซจึงตอบรับกับการรับเด็กในอนาคตของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ด้วย

นายคาเมรอน ฟ็อกซ์ หัวหน้าผู้บริหารโรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ กล่าวว่า โรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ ถือเป็นแห่งแรกที่เน้นนักเรียนเป็นศูนย์กลางจริง ๆ และสร้างระบบใหม่ทั้งหมด โดยการเสริมสร้างทักษะใหม่ ๆ ที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต สามารถเติบโตท่ามกลางอนาคตที่ยากต่อการคาดเดาได้ เป็นโรงเรียนเพื่อนักเรียนที่จะโตขึ้นมาในศตวรรษที่ 21 ซึ่งการออกแบบหลักสูตรเช่นนี้ เราไม่ได้สันนิษฐานหรือทึกทักเอาเองแล้วเอาหลักสูตรมาครอบ แต่เกิดจากการลงพื้นที่ไปศึกษาและพูดคุยกับทั้งครู นักเรียน ผู้ปกครอง นักธุรกิจ ถึงความต้องการจากระบบการศึกษาในปัจจุบันว่าเป็นเช่นไร ซึ่งมองว่าโรงเรียนนานาชาติต้องมีส่วนส่งเสริมใน 3 ส่วน คือ 1. สร้างอัตลักษณ์ส่วนตัวและวัฒนธรรมนักเรียน 2. สามารถเชื่อมโยงเข้ากับชุมชนท้องถิ่นและสากลได้ และ 3. ครอบครัวต้องการให้นักเรียนมีความสามารถ มั่นใจ ทำงานได้ จึงนำมาสู่การร่วมมือกับไอดีโอ (IDEO) บริษัทออกแบบและนวัตกรรมระดับโลก ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ร่วมกันคิดค้นรูปแบบการเรียนการสอนและอาคารเรียนที่เหมาะกับโรงเรียนแห่งอนาคต โดยไม่ยึดติดกับรูปแบบของโรงเรียนเดิม ๆ

นายคาเมรอน กล่าวว่า จุดเด่นของการเรียนการสอน จะเป็นการเรียนแบบสหวิทยาการ คือ ไม่ได้เป็นการสอนแบบเป็นรายวิชา แต่เป็นการเรียนการสอนที่นำไปประยุกต์ใช้ได้ เข้าใจง่าย และเป็นประโยชน์ ผ่านการทำโครงงานและการฝึกฝนทักษะ โดยนักเรียนจะได้รับการมอบหมายให้ทำงานเป็นกลุ่มกับเพื่อนที่คละวัย โดยมีทีมอาจารย์ผู้มีความเชี่ยวชาญคอยแนะนำและสนับสนุนอย่างใกล้ชิด รวมถึงเน้นการเรียนรู้แบบเฉพาะตัว เพราะการเรียนการสอนสำเร็จรูปไม่สามารถนำมาใช้กับเด็กทุก ๆ คนแล้วจะประสบความสำเร็จ เนื่องจากเด็กแต่ละคนมีวิธีการเรียนรู้ ความสนใจ และการสร้างความเข้าใจแตกต่างกันไป วิธีการสอนของเรานั้นเข้าใจถึงสมอง จึงจะเป็นการเรียนรู้เฉพาะบุคคลของนักเรียนที่แตกต่างกันออกไป เพื่อให้เขาค้นพบตัวเอง รู้ความต้องการ ความสนใจของตัวเอง และพัฒนาทักษะที่ตนเองสนใจขึ้นมาได้ ดังนั้น โรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ จึงเป็นรูปแบบการเรียนการสอนแนวใหม่ ที่ต่างไปจากเดิมที่เป็นการนำเด็กอายุเท่า ๆ กัน มาเรียนในห้องเดียวกัน ใช้ตำราเดียวกัน แล้วมาทดสอบ

"การออกแบบการเรียนการสอนแบบใหม่นี้ เป็นสิ่งที่โรงเรียนนานาชาติหลายประเทศทั่วโลกพยายามจะดำเนินการ แต่เนื่องจากหลายแห่งเปิดเรียนมานาน การจะปรับเปลี่ยนแนวทางการเรียนการสอนใหม่นั้น ทำให้ยังเป็นอุปสรรคอยู่มาก ในการเปลี่ยนแนวความคิดของครู หรือการมีโครงสร้างพื้นฐานที่ตอบโจทย์ โรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ จึงถือเป็นแห่งแรกที่สร้างโรงเรียนขึ้นมารองรับการเรียนการสอนด้วยแนวคิดดังกล่าว" นายคาเมรอน กล่าว

นายคาเมรอน กล่าวว่า สำหรับการออกแบบอาคารและสิ่งอำนวยความสะดวกนั้นก็จะเอื้อกับการเรียนการสอน โดยอาคารเป็นทรงกลม ส่งเสริมการเรียนรู้ที่เป็นอิสระ แตกต่างจากรูปแบบเดิม ๆ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันในระดับโลก โดยมีพื้นที่ด้านการกีฬา 28,706 ตารางเมตร เช่น สระว่ายน้ำในร่ม 50 เมตรมาตรฐานโอลิมปิกที่ควบคุมอุณหภูมิได้ตลอดทั้งปี อาคารยิมเนเซียมขนาดใหญ่ 1,278 ที่นั่ง สนามกีฬาที่จุผู้ชม 1,000 ที่นั่ง มีพื้นที่เรียนรู้เฉพาะทาง 2,654 ตารางเมตร เช่น สตูดิโอผลิตงานมัลติมีเดียและบันทึกเสียงขนาดใหญ่ 3 สตูดิโอ ห้องซ้อมเต้ม ห้องซ้อมดนตรี 3 ห้อง หอศิลป์ ห้องทดลองวิทยาศาสตร์ 4 ห้อง เป็นต้น

สำหรับการร่วมทุนระหว่างบริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ฟอร์จูน แฮนด์ เวนเจอร์ จำกัดจากฮ่องกงนั้น นางปิยพร ระบุว่า ในส่วนของยู ซิตี้ ที่มาลงทุนด้านโรงเรียนและการศึกษา จะทำให้ยู ซิตี้ ได้รับโอกาสในการลงทุนที่ครอบคลุมมากขึ้น และการร่วมกับฟอร์จูนฯ เพราะครอบครัวเหลียงเป็นครอบครัวผู้บริหารโรงเรียนนานาชาติที่เป็นที่เคารพนับถือในแวดวงการศึกษาในฮ่องกง มีประสบการณ์ในการบริหารโรงเรียนนานาชาติในฮ่องกงมานานกว่า 60 ปี หรือกว่าสามชั่วอายุคน และมองเห็นถึงวิสัยทัศน์ของคุณคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ที่มีแนวคิดมองอนาคต ทำในสิ่งที่ไม่มีคนทำมาก่อน อย่างเรื่องรถไฟฟ้าในประเทศไทย เป็นต้น

นายฮาร์เวิร์ด เหลียง กรรมการบริษัท ฟอร์จูน แฮนด์ เวนเจอร์ จำกัด กล่าวว่า การลงทุนในโรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ แสดงถึงความมั่นใจของเราและความเชื่อมั่น เพราะไทยถือเป็นฐานศูนย์กลางระดับโลกด้านนวัตกรรมการศึกษา และเรามีความตื่นเต้นที่จะนำเอาประสบการณ์ 3-4 รุ่นด้านการศึกษามาสู่ไทย และกำหนดทิศทางการศึกษาในโรงเรียนนานาชาติ ซึ่งเป้าประสงค์หลักของเรา คือ ทำให้นักเรียนและครอบครัว มีประสบการณ์เรื่องการศึกษาระบบนานาชาติที่เป็นเลิศ ทำให้มีความพร้อม มีทักษะที่มั่นใจว่าต้องใช้ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย ในฐานะนักการศึกษาที่มีหน้าที่รับผิดชอบสร้างพรสวรรค์ทักษะของคนรุ่นใหม่ ซึ่งโรงเรียนนานาชาติเวอร์โซจะทำให้เห็นว่า วิสัยทัศน์การเรียนรู้สำหรับอนาคตเป็นอย่างไร และมุ่งหวังทำให้โรงเรียนแห่งนี้เป็นนานาชาติระดับชั้นนำโลกอีกแห่ง

ขณะที่นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวภายในงานแถลงข่าวถึงโรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ ว่า โรงเรียนนานาชาติเวอร์โซทำให้ความฝันเรื่องการสร้างเมืองที่สมบูรณ์ของตนเป็นจริงขึ้นมา ซึ่งต้องใช้เวลากว่า 30 ปี จึงจะมีวันนี้ เพราะเมื่อ 30 ปีก่อนที่เริ่มทำธนาซิตี้ เพื่อความสุขของลูกบ้านนั้น เรามีการวางเรื่องของโครงสร้าง สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ จนกลายเป็นเมือง ๆ หนึ่งขึ้นมา ที่มีความสงบ เป็นเมืองสีเขียว สมบูรณ์ด้วยกีฬา แต่สิ่งที่คาดหวังไว้ตอนนั้น คือ เมื่อเป็นเมืองก็ควรจะต้องมีโรงเรียน 1 โรงเรียน วันนี้ได้มีความร่วมมือกับทางบริษัทฟอร์จูนฯ จนมีการสร้างโรงเรียนนานาชาติเวอร์โซขึ้นในพื้นที่ติดกับธนาซิตี้ ทำให้สิ่งที่หวังไว้กว่า 30 ปีประสบความสำเร็จ และในอนาคตก็จะมีการเซ็นสัญญาเพื่อสร้างระบบขนส่งสาธารณะ LRT เพื่อให้เป็นเมืองที่สมบูรณ์รองรับประชาชนที่จะมาอยู่ที่นี่ด้วย และหวังว่าโรงเรียนนานาชาติเวอร์โซจะช่วยพัฒนาให้นักเรียนประสบความสำเร็จในการพัฒนาตนเองได้

โรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ จะจัดกิจกรรม VERSO - connect – Personalized, Passion-Driven, Limitless Learning งานสัมมนาเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนฯ กับผู้ปกครอง โดยผู้ร่วมงานจะได้รับทราบถึง เทรนด์ความเปลี่ยนแปลงของโลกและความท้าทายในอนาคตที่เด็กรุ่นใหม่จะต้องเผชิญ ตลอดจนแนวทางการเรียนการสอนของทางโรงเรียนนานาชาติเวอร์โซ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับลูก ๆ ในวันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2562 เวลา 13.00 – 15.00 น. ณ South East Asia Center (SEAC) อาคารเอฟวายไอ เซ็นเตอร์ ตึก 2 ชั้น 3 ถนนพระรามสี่ ผู้สนใจเข้าร่วมงานสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-130-6822 หรือ hello@verso.school ลงทะเบียนร่วมงานได้ที่ https://verso.openapply.com/tours/new

(พื้นที่ประชาสัมพันธ์)



กำลังโหลดความคิดเห็น