"หมอหนู" สั่ง อย.เลิกทำงานแบบ ขรก.เป็นเจ้าคนนายคน ต้องบริการประชาชน ย้ำทำถูกต้องให้ขึ้นทะเบียน หากทำผิดต้องอธิบาย ชี้ทางสว่าง หาทางออก ช่วยแก้ไขให้ขึ้นทะเบียนได้ ด้านเลขาธิการ อย.เผยปรับระบบขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์แบบอัตโนมัติ ทั้งเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สมุนไพร 100 รายการ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อาหารความเสี่ยงต่ำ ต่อใบอนุญาตต่างๆ
วันนี้ (8 ต.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวระหว่างตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ว่า อย.ถือเป็นหน่วยงานที่สัมผัสกับประชาชนมากที่สุด ซึ่งตนอยากฝากว่า การทำงานของข้าราชการปัจจุบัน จะเป็นแบบเจ้าคนนายคนไม่ได้อีกต่อไป แต่ประชาชนเป็นผู้เสียภาษี และมองว่าข้าราชการคือลูกจ้าง เราจึงต้องให้บริการแก่ประชาชนอย่างดี เหมือนอย่างที่ประชาชนไปรับบริการที่อำเภอ หรือจังหวัด ถ้าทำให้เขาสามารถสัมฤทธิ์ผลในสิ่งที่หวัง เช่น ให้เขาขึ้นทะเบียนหรือจดแจ้งผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ถ้าเขาทำทุกอย่างถูกต้อง แต่หากเขาทำผิด ไม่สามารถขึ้นทะเบียนได้ ก็ต้องแนะนำแก้ปัญหา ชี้ทางออกให้เขา
"เรียกว่าผิดถูกว่ากันไปตามเนื้อผ้า หากทำถูกก็ขึ้นทะเบียนให้เขา เพราะการที่เราอำนวยความสะดวก ทำให้ด้วยความรวดเร็ว ก็จะส่งเสริมเศรษฐกิจ เพราะขอเขาขึ้นทะเบียนเพ่อนำสินค้าไปประกอบธุรกิจ เกิดการขายได้ มีการเสียภาษี เกิดการจ้างงาน และการซื้อวัตถุดิย ยิ่งซื้อในประเทศ ก็เกิดการมุนเวียนของเงินและเศรษฐกิจในประเทศ แต่หากเขาทำผิดไม่สามารถขึ้นทะเบียนได้ ต้องชี้ทางสว่างให้เขา อธิบายว่าขึ้นทะเบียนไม่ได้เพราะอะไร ไม่ใช่ปล่อยทิ้งไว้เฉยๆ จนเขาไม่รู้ว่าทำไมไม่ขึ้นทะเบียน และมาบ่นว่าขึ้นทะเบียนล่าช้า และขอว่า เมื่อแนะนำแล้ว ต้องแนะนำทั้งหมดทุกอย่าง ไม่ใช่บอกไปแล้ว แก้แล้ว ก็ต้องให้เขากลับไปแก้ไขอีก ซึ่งประชาชนเขาหวังเพียงเท่านี้ และการที่เราช่วยประชาชนหาทางออก อย.จะไม่ได้บแค่รางวัลเลิศรัฐ แต่จะได้รางวัลเลิศประชาด้วย" นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน กล่าวว่า ตนเคยพูดไปแล้วว่า การจะทำให้มีความรวดเร็วขึ้นนั้น ต้องให้มีการเช็กลิสต์ โดยผู้ประกอบการต้องรับประกันตนเอง ว่ามีคุณสมบัติ หรือทำตามข้อกำหนดที่ อย.วางไว้หรือไม่ เพราะสุดท้ายหากไม่ได้ทำตามที่รับประกันตนเองไว้ ทางผู้ประกอบการก็ต้องรับผิดชอบ เพราะถือว่าให้ข้อมูลผิด แจ้งข้อมูลที่เป็นเท็จ ซึ่ง อย.ก็ต้องลงไปสุ่มตรวจ และฝากให้ อย.ผลักดันช่วยสร้างแบรนด์ให้แก่ผู้ประกอบการที่นำของไทยมาสร้างมูลค่าเพิ่มไม่ว่าจะเป็น ยา อาหารเสริม เครื่องสำอาง
นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการ อย. กล่าวว่า อย.จะเดินหน้าเรื่องการส่งเสริมและยกระดับธุรกิจผลิตภัณฑ์สุขภาพให้ได้มาตรฐานสากล และคุ้มครองผู้บริโภคให้มีความปลอดภัยจากผลิตภัณฑ์สุขภาพ ซึ่งในส่วนของการลดขั้นตอนและระยะเวลาในการขึ้นทะเบียนหรือจดแจ้งผลิตภัณฑ์สุขภาพต่างๆ นั้น อย.วางแผนไว้ ดังนี้ 1.จดแจ้งเครื่องสำอาง จากเดิมใช้ระยะเวลาดำเนินการ 3 วัน จะปรับให้เป็นการจดแจ้งอัตโนมัติ เริ่มภายใน พ.ย. 2562 2.ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ในส่วนของยาตำรับ ยาสมุนไพรเดี่ยว ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อสุขภาพที่กำหนด 100 รายการ จากที่ใช้เวลา 150 วัน จะให้เป็นระบบอัตโนมัติใน ม.ค.2563 ส่วนยาสามัญประจำบ้านแผนโบราณ 15 ตำรับ เช่น ยาหอมนวโกฐ ยาหอมเทพจิตร ซึ่งเดิมใช้เวลา 80 วัน ตอนนี้ลดเหลือเพียง 1 วัน เพราะมีสูตรชัดเจนอยู่แล้ว โดยจะใน ต.ค.2562
3.ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีสมุนไพรตามรายชื่อพืชที่ใช้ได้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร จากเดิมใช้เวลา 20 วัน จะให้เป็นระบบอัตโนมัติ เริ่มวันที่ 27 ต.ค.นี้ 4.การเพิ่มฉลากอาหารเพื่อการว่งออก จาก 3 วันปรับเป็นอัตโนมัติใน 27 ต.ค. 2562 5.อาหารที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น น้ำดื่ม กาแฟ ครีม อาหารแช่แข็ง ชาสมุนไพร จากเดิมมากว่า 1 วัน เป็นอัตโนมัติ ใน พ.ย. 2562 6.ต่ออายุใบอนุญาตผลิตภัณฑ์ จาก 3-7 วัน เป้นอัตโนมัติหรือ1วัน ใน พ.ย.2562 7.ออกหนังสือรับรองการส่งออกทุกผลิตภัณฑ์ จาก 3-7 วัน เป็นอัตโนมัติหรือ 1 วัน ใน ม.ค.2563 8.แก้ไขรายละเอียด เช่น ฉลาก ชื่อสถานที่ ที่ตั้ง ขนาดบรรจุ ฯ,ฯ จาก 5-10 วัน เป็นอัตโนมัติหรือ 1 วัน ใน ม.ค.2563 และโฆษณายา อาหาร เครื่องมือแพทย์ จาก 7 วัน เป็นไม่เกิดน 3 วัน ใน ม.ค.2563
