"อนุทิน" เผยเตรียมมอบเครื่องเออีดีใช้กู้ชีพให้ รพ.สต.ทุกแห่งสิ้นปี เป็นของขวัญปีใหม่ ช่วยเหลือชีวิตปชช. บอกประชาชนต้องได้ก่อน ด้านปลัด สธ.เผยเหลือจัดหาให้อีก 7 พันกว่าแห่ง พร้อมระบุ 10 นโยบายเร่งรัดที่ต้องทำในปี 63 ส่งเสริมสุขภาพทุกกลุ่มวัย วัณโรค แบนสารเคมี พัฒนาระบบปฐมภูมิ ลดแออัด รพ. เพิ่มเข้าถึงกัญชาทางการแพทย์ ลุยนวัตกรรมสมุนไพร นวดไทย สร้าง ศก. ปรับปรุงรายได้ สวัสดิการ เวลาทำงานให้เหมาะสม 60 ชม.ต่อสัปดาห์
วันนี้ (27 ก.ย.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายในการประชุมมอบนโยบาย แผนงาน โครงการ ตัวชี้วัด กระทรวงสาธารณสุข ประจำปีงบประมาณ 2563 ว่า ก่อนสิ้นปี 2562 ท่านปลัดสธ.จะมอบเครื่องกระตุกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติหรือเครื่องเออีดี ให้แก่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ทุกแห่ง ยกเว้นที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งตนให้ไปแล้ว 7 เครื่องครบทุก รพ.สต.แล้ว ซึ่งการดำเนินการเรื่องนี้ถูกไม่ถูกไม่รู้ แต่เดินไปไหนยังไม่มีใครว่า เพราะแม้กระทั่งหน้าโถงห้องทำงาน รมว.สธ.ยังมีเครื่องเออีดี ซึ่งส่วนใหญ่เราก็สุขภาพดี แล้วจะมาไว้ทำตรงนี้ ต้องไปทุก รพ.สต. ทุกตำบล ต้องให้ประชาชนก่อน เรียกว่า People First Doctor Later เพราะเราดูแลตัวเองได้ นี่คือสิ่งที่พวกเราจะขอทุกท่านได้ช่วยทำ เป็นของขวัญปีใหม่ประชาชน
นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัด สธ. กล่าวว่า ในปี 2563 สธ.กำหนดนโยบายเร่งรัดผู้บริหารไว้ 10 เรื่อง คือ 1.การส่งเสริมสุขภาพทุกกลุ่มวัย โดยเฉพาะแม่และเด็ก และผู้สูงอายุ การเสริมสร้างความรอบรู้ทางสุขภาพ (Health Literacy) และการออกกำลังกาย 2.การควบคุมป้องกันวัณโรค ในการค้นหา เพิ่มอัตราความสำเร็จในการรักษา 3.การจัดการภัยคุกคามความมั่นคงทางสุขภาพ โดยเฉพาะสารเคมีทางการเกษตร และการใช้ยาสมเหตุผล 4.พัฒนาระบบสุขภาพปฐมภูมิ เช่น พัฒนาทักษะ อสม.เป็นหมอครอบครัว เพื่อให้ความรู้ประชาชนเรื่องการทำซีพีอาร์ เพื่อเข้าถึงการกู้ชีพ พัฒนาหมอครอบครัว รพ.สต.ติดดาว ซึ่งจะเน้นเรื่องการมีเครื่องเออีดีลงไปทุก รพ.สต.แห่งละ 1 เครื่อง ซึ่งจะเคลื่อนที่ไปช่วยคนในพื้นที่ได้ โดยตอนนี้มี รพ.สต. 2 พันแห่งแล้วที่มีเครื่องเออีดี เหลืออีกประมาณ 7 พันกว่าแห่ง ซึ่งจะมีการเสนอของบประมาณเพื่อจัดหาเครื่องเออีดีลงไปภายในสิ้นปีนี้ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ และให้ รพ.สต.สอนการใช้เครื่องแก่ประชาชนด้วย 5.การลดแออัด ลดรอคอยใน รพ. โดยเพิ่มบริการ PCC เขตเมือง รับยาร้านยา พัฒนาห้องแกเฉินคุณภาพ
6.การตัดการโรคหลอดเลือดสมองและโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ให้เข้าถึงการรักษาที่รวดเร็วขึ้น ลดการเกิดอัมพฤกษ์อัมพาต 7.กัญชาทางการแพทย์ เน้นประชาชนมีความรู้ เข้าถึงกัญชาทางการแพทย์ย่างทั่วถึง ปลอดภัย ตั้งสถาบันกัญชาเพื่อการวิจัย อบรมบุคลากรให้มีความรู้ความเข้าใจมากขึ้น 8.นวัตกรรมทางการแพทย์เพื่อเศรษฐกิจ เช่น สมุนไพรไทย นวดไทย การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เมดิคัล ฮับ 9.การพัฒนาองค์กรคุณภาพและความสุข ทั้งเรื่องของการปรับปรุงรายได้ให้เหมาะสม เรื่องสวัสดิการ เวลาการทำงานเหมาะสม 60 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แต่หากจะอยู่เวรเพิ่มก็ขึ้นกับความสมัครใจ และ 10.พัฒนานวัตกรรมการบริหารจัดการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการของเขตสุขภาพ