xs
xsm
sm
md
lg

"อิทธิพล" ยึดพระโอวาท สมเด็จพระสังฆราช บริหารงาน วธ.

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


"อิทธิพล" ยึดพระโอวาท สมเด็จพระสังฆราช มาใช้ในการดำเนินชีวิต บริหารงานโดยไม่มีอคติ

นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) กล่าวว่า จากการที่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระโอวาทให้ คณะรัฐมนตรี ยึดมั่นในการปฏิบัติหน้าที่โดยใช้สติ สัมปชัญญะ มาใช้ในการบริหารงานและในอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ ทั้งนี้ จากการได้รับพรจากสมเด็จพระสังฆราช ปรถือเป็นพรสูงสุด ตนจะน้อมนำพระโอวาทมายึดถือปฏิบัติ ที่ผ่านมาตนก็ใช้หลักธรรมของศาสนามาเป็นหลักในการดำเนินชีวิต ทั้งเรื่องของการใช้สติบนพื้นฐานของการศึกษาข้อมูล สามารถเข้าใจผู้ร่วมงาน และกระบวนการทำงานต่างๆ การเตรียมร่างกายให้พร้อม ปรับตนเองให้เหมาะกับสถานการณ์ และองคาพยพโดยรอบ ขณะเดียวกันตนจะนำไปถ่ายทอดให้กับผู้ร่วมงาน เพราะจะส่งผลดีต่อการขับเคลื่อนงานของทุกหน่วยงานในสังกัดเนื่องจากเราต้องต้องทำงานใกล้ชิดกับทุกๆ ศาสนา

"การบริหารงาน วธ. นั้น จะต้องทำบนพื้นฐานของการทำงานร่วมกัน โดยไม่มีอคติ หรือ ให้ร้ายกับใคร ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตถึงข้อร้องเรียนต่างๆที่เกิดขึ้นนั้น อาจจะเชื่อมโยงประเด็นการเมืองภายใน ส่วนตัวถือว่าเป็นเรื่องปกติ ต้องพิจารณาสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนว่าจะมีผลอะไรกับปัจจุบันหรือไม่ และคงไม่ย้อนไปดูถึงอดีตว่าที่ผ่านมาเคยเกิดเรื่องอะไรขึ้นในกระทรวง และเกิดมาได้อย่างไร เพราะมันเกินกว่าที่ตนจะเข้าใจได้ การทำงานก็จะมีเรื่องของทัศนคติ และความคิดเห็นแตกต่างกัน ทุกคนไม่สามารถทำงานได้คะแนนเท่ากันหมด หากสิ่งที่เกิดขึ้นมากระทบกับการทำงานภาพรวมก็จะต้องหาวิธีจัดการให้ดีที่สุด" นายอิทธิพล กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าการให้ข่าวรายวันพุ่งเป้าหมายไปที่ ปลัด วธ.นั้น รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า ในส่วนของโครงสร้างระบบราชการ นั้น ปลัดกระทรวง ถือว่า เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของข้าราชการประจำ แต่ยืนยันว่า ตนจะเข้าไปดูเป็นรายกรณีเพื่อให้ความเป็นธรรม ซึ่งไม่ได้พุ่งเป้าจับผิดไปที่ปลัดกระทรวง แต่ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นมีผลกระทบเชิงนโยบายโดยรวมตนก็จะเข้าไปดำเนินการแก้ไข อย่างไรก็ตาม เรื่องการร้องเรียน ต่างๆ อาจจะเกิดขึ้นในช่วงนี้ ซึ่งใกล้เคียงกับ ช่วงเข้าสู่การเกษียณราชการที่จะมีผลต่อการแต่งตั้ง โยกย้ายผู้บริหารระดับสูง แต่ตนจะไม่เอามาเกี่ยวพันกัน ตนและ ปลัด วธ. ก็ยังประสานการทำงานกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างใดๆ ทั้งนี้ตนไม่ได้นิ่งนอนใจ จะตรวจสอบทุกทาง หากพบว่า มีการปล่อยข่าวเพื่อดิสเครดิต ก็ต้องขจัดอุปสรรค และระงับยับยั้ง เพราะถ้าทำให้ผลปฏิบัติราชการล่าช้าออกไป ก็ไม่เป็นผลดีต่อการทำงาน ซึ่งต้องดูเจตนาว่าตั้งใจปล่อยข่าวหรือไม่ หรือทำโดยการให้ร้ายกลั่นแกล้งหรือไม่ ซึ่งก็จะมีความคิดทั้งโทษทางวินัย และอาญา ถ้าเป็นเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณก็จะมีเรื่องของทางแพ่งเข้าเกี่ยวข้องด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น