ไทยร่วมประชุมเวทีสหประชาชาติ ด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน เสนอผลงานจัดตั้งกองทุน กสศ. ช่วยจัดสรรงบให้เด็กนักเรียนยากจนพิเศษ กว่า 6 แสนคน ลดการหลุดจากระบบการศึกษา ลดความเหลื่อมล้ำ ตามเป้าหมาย SDGs
วันนี้ (14 ก.ค.) น.ส.ธันว์ธิดา วงศ์ประสงค์ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมความร่วมมือนวัตกรรมและทุนการศึกษา กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่า ตนเป็นตัวแทน กสศ.เข้าร่วมกับคณะผู้แทนประเทศไทย เข้าประชุมในเวทีหารือทางการเมืองระดับสูง ว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน (HLPF 2019) ระหว่างวันที่ 9-18 ก.ค. 2562 ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก ซึ่งจัดขึ้นเพื่อให้ประเทศต่างๆ ร่วมทบทวนความคืบหน้าการดำเนินการตามวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน 2030 โดยปีนี้มีหัวข้อหลัก คือ การเสริมสร้างพลังประชากรทุกกลุ่มผ่านการพัฒนาที่ทั่วถึงและอย่างเสมอภาค และมีการทบทวนความคืบหน้าเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)
น.ส.ธันว์ธิดา กล่าวว่า ในเวทีประเทศไทยได้รายงานแก่ที่ประชุมว่า รัฐบาลไทยได้จัดตั้งกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ขึ้น จากข้อเสนอของคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา เพื่อช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์หรือด้อยโอกาส 20% ท้ายสุดของประเทศ และได้ส่งรายงานวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน 2030 ระดับชาติโดยสมัครใจ (VNR) โดยเป้าหมายที่ 4 ด้านการศึกษา ในการสร้างหลักประกันว่าทุกคนมีการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างครอบคลุมและเท่าเทียมและสนับสนุนโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิต ได้รายงานผลการดำเนินงานในปีแรกของ กสศ. 2 ประเด็น ได้แก่
1.การดำเนินการคัดกรองนักเรียนยากจนและจัดสรรงบประมาณด้วยหลักความเสมอภาคในปีการศึกษา 2561 โดยใช้ระบบProxy Means Tests: PMT พบนักเรียนยากจนระดับก่อนประถมศึกษา - มัธยมศึกษาตอนต้น ในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ประมาณ 2 ล้านคนทั่วประเทศ และได้จัดสรรเงินอุดหนุนแบบมีเงื่อนไข (CCT) ให้แก่นักเรียนยากจนพิเศษ 600,000 คน คิดเป็นร้อยละ 30 ของนักเรียนยากจนทั้งหมด เพื่อป้องกันการหลุดออกจากระบบการศึกษาของเด็กเยาวชนวัยเรียน ส่งเสริมโอกาสทางการศึกษาที่เสมอภาค และเพิ่มอัตราการเข้าเรียนสุทธิระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาของประชากรเด็กเยาวชนในประเทศไทย และใช้ระบบสารสนเทศเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (iSEE) ชี้เป้าและติดตามกลุ่มเป้าหมาย
2.การนำเด็กตกหล่นและเด็กออกกลางคันให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศทางการศึกษาเชื่อมกับฐานข้อมูลเลขประจำตัว 13 หลัก เพื่อให้สำรวจเด็กตกหล่นจากฐานข้อมูลผู้เรียนทั้งในและนอกระบบที่มีกว่า 15 ล้านคน และส่งข้อมูลให้หน่วยงานในพื้นที่ติดตามและนำเด็กตกหล่นกลับสู่ระบบการศึกษาในรูปแบบที่เหมาะสม การขยายผลการจัดสรรเงินอุดหนุนแบบมีเงื่อนไขเพิ่มเติมให้แก่นักเรียนยากจนพิเศษใน ร.ร.สังกัด อปท. ตชด. และโรงเรียนพระปริยัติธรรม รวมทั้งอยู่ระหว่างจัดทำต้นแบบการสนับสนุนทุนเพื่อสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา อาทิ ทุนนวัตกรรมสายอาชีพชั้นสูง ร่วมกับ 36 สถานศึกษาสายอาชีพใน 26 จังหวัด ให้เยาวชนจากครัวเรือนที่ยากจนได้เรียนต่อประกาศนียบัตรสายอาชีพชั้นสูงมากกว่า 2,000 คน ระบบต้นแบบการพัฒนาทักษะแรงงานด้อยโอกาส ให้เป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่และแรงงานฝีมือโดยใช้ชุมชนเป็นฐานนำร่องใน 50 พื้นที่ทั่วประเทศ และทุนครูรุ่นใหม่สำหรับนักเรียนในพื้นที่ห่างไกล เพื่อพัฒนาคุณภาพโรงเรียนของชุมชน ปีละ 300 คน ต่อเนื่อง 5 ปี