กทม.สั่งสำนักโยธา เร่งจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินตัดถนนเชื่อมกาญจนาภิเษก-พุทธมณฑลสาย 2 ประสาน กฟน.รื้อย้ายเสาไฟฟ้า เตรียมเทคอนกรีตเสริมเหล็กขยายถนนศาลาธรรมสพน์ มุ่งหน้าถนนทวีวัฒนา คาดฝั่งซ้ายเสร็จใน ต.ค.นี้
วันนี้ (7 ก.ค.) นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวภายหลังลงพื้นที่ติดตามการก่อสร้างปรับปรุงถนนพื้นที่ฝั่งธนบุรี ว่า โครงการต่อเชื่อมถนนกาญจนาภิเษก-ถนนพุทธมณฑลสาย 2 เพื่อรองรับและกระจายปริมาณการจราจร จากใจกลางเมืองฝั่งพระนคร สู่พื้นที่ชานเมืองฝั่งธนบุรี เป็นถนนคู่ขนานระหว่างถนนบรมราชชนนี กับถนนเพชรเกษม ขณะนี้คืบหน้า 29.77% ทั้งนี้ ตนได้มอบหมายให้สำนักการโยธาดำเนินการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินในแนวเขตทางก่อสร้างให้แล้วเสร็จโดยเร็ว พร้อมประสานการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เพื่อรื้อย้ายเสาไฟฟ้า
นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า สำหรับการก่อสร้างออกเป็น 7 โซน ทำงานควบคู่กันไป ขณะนี้ผู้รับจ้างได้ก่อสร้างเสาเข็มตอม่อสะพานต่างระดับข้ามถนนกาญจนาภิเษก พร้อมกรุยทางปรับระดับพื้นดินด้านถนนกาญจนาภิเษก-ถนนพุทธมณฑลสาย 3 แล้วเสร็จบางส่วน ทั้งนี้ โครงการมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ คาดว่า พื้นจราจรทางราบด้านถนนกาญจนาภิเษกเชื่อมต่อถนนพุทธมณฑลสาย 2 จะสามารถเปิดใช้งานได้ใน เม.ย. 2563 เมื่อโครงการแล้วเสร็จ จะช่วยเพิ่มโครงข่ายถนนสายหลักระหว่าง กทม.กับปริมณฑล แบ่งเบาปริมาณการจราจรถนนบรมราชชนนีกับถนนเพชรเกษม บรรเทาปัญหารถติดขัดในชั่วโมงเร่งด่วน เพิ่มประสิทธิภาพการจราจรบริเวณถนนจรัญสนิทวงศ์ ถนนกาญจนาภิเษก ถนนพุทธมณฑลสาย 2 อีกทั้งในอนาคตโครงการดังกล่าวจะเชื่อมต่อไปจนถึงถนนพุทธมณฑลสาย 3 และถนนพุทธมณฑลสาย 4
นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า ส่วนโครงการปรับปรุงถนนศาลาธรรมสพน์ จากถนนพุทธมณฑลสาย 2 ถึงถนนทวีวัฒนา เป็นเส้นทางลัดเชื่อมต่อพื้นที่ กทม. นนทบุรี และ นครปฐม ผลงานที่ทำได้ 12.39% แบ่งพื้นที่ทำงานเป็น 5 โซน ทำงานควบคู่กันไป ขณะนี้ผู้รับจ้างได้ก่อสร้างบ่อพักและวางท่อระบายน้ำฝั่งซ้ายทางช่วงจากถนนพุทธมณฑลสาย 2 ถึงถนนพุทธมณฑลสาย 3 แล้วเสร็จบางส่วน โดยจะเริ่มเทพื้นถนนคอนกรีตเสริมเหล็กประมาณปลาย ก.ค.นี้ คาดว่า ผิวจราจรฝั่งซ้ายทางช่วงจากถนนพุทธมณฑลสาย 2 ถึงถนนทวีวัฒนา ขนาด 2 ช่องจราจรจะแล้วเสร็จ เปิดใช้งานได้ใน ต.ค.นี้ ส่วนด้านฝั่งขวาทางจะแล้วเสร็จใน มี.ค. 2563 สำหรับการขยายสะพานข้ามคลอง ผู้รับจ้างจะทุบราวสะพานเดิมออก โดยขยายผิวจราจรออกไปฝั่งละ 1 ช่องจราจร
