เครือข่ายต้านเหล้า จี้ สธ.เอาผิดร้านค้าทั่วประเทศจัดแข่งดื่มเบียร์ ฝาก สตช.บังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด สธ.แจงแข่งดื่มเบียร์จนดับ เป็นการจัดเลี้ยงของบริษัท ไม่เข้าข่ายผิด กม.ควบคุมเหล้า แต่อาจผิดทางอาญา ฐานประมาทเลินเล่อ คาดเสียชีวิตเพราะสำลักอุดหลอดลม และฤทธิ์แอลกอฮอล์กดการหายใจ
วันนี้ (3 ก.ค.) นายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจแอลกอฮอล์ พร้อมด้วย นายชูวิทย์ จันทรส ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ และเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ กว่า 30 คน ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อเรียกร้องให้ สธ.บังคับใช้กฎหมายกับสถานประกอบการ ร้านค้า ที่จัดกิจกรรมแข่งขันดื่มเบียร์ จนเป็นเหตุให้ผู้เข้าร่วมแข่งขันเสียชีวิต รวมถึงผับบาร์รายอื่นๆ ที่มีการจัดกิจกรรมลักษณะเดียวกัน เพราะเข้าข่ายผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 โดยได้นำหลักฐานการจัดกิจกรรมแข่งขันดื่มเบียร์ทางสื่อออนไลน์มามอบให้ สธ.เพื่อใช้เอาผิดด้วย โดยมี นพ.กิตติศักดิ์ กลับดี ที่ปรึกษา รมว.สธ.เป็นผู้รับเรื่อง
นายคำรณ กล่าวว่า การแข่งขันดื่มเบียร์กำลังเป็นที่นิยมในสถานบันเทิง สถานประกอบการเกี่ยวกับธุรกิจแอลกอฮอล์ หรือแม้แต่กิจกรรมงานเลี้ยงต่างๆ โดยผู้ที่ร่วมกิจกรรมอาจจะยังไม่รู้ถึงพิษภัย อาจจะด้วยความคึกคะนองหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จนเป็นอันตรายถึงชีวิต ประกอบกับกลุ่มธุรกิจสุราหรือสถานบันเทิง ได้ฉวยโอกาสในการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการขายและเชิญชวนให้ผู้บริโภคเข้าร้านเพื่อร่วมแข่งขันชิงรางวัล ซึ่งเข้าข่ายผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ในหลายมาตรา สธ.ซึ่งมีบทบาทหน้าที่โดยตรง เครือข่ายฯ จึงขอแสดงจุดยืนและข้อเรียกร้องดังนี้
1.เร่งติดตามตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าเข้าข่ายละเมิด พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 มาตรา 30(4) มาตรา 30(5) ว่าด้วยการห้ามส่งเสริมการขาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 29(2) ว่าด้วยการห้ามขายให้คนเมาครองสติไม่ได้ รวมทั้งอาจผิดมาตรา 32 เรื่องการโฆษณาตราสัญลักษณ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีปรับไม่เกิน 500,000 ปรับ รวมถึงปรับรายวันอีกวันละ 50,000 บาทจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง 2.สั่งการให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขตรวจสอบการจัดกิจกรรมลักษณะการส่งเสริมการขายโดยการแข่งขันดื่มเบียร์ สุรา หรือกิจกรรมรูปแบบอื่นๆ เช่น โปรโมชั่นเบียร์บุฟเฟ่ต์ในสถานประกอบการทั่วประเทศ และเร่งประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกฎหมาย
3.เร่งประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อผลกระทบและอันตรายต่อการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก หรือการจัดแข่งขันการดื่ม เพราะอาจเกิดพฤติกรรมเลียนแบบ และ 4.ขอเรียกร้องผ่านไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ให้บังคับใช้กฎหมายกับผู้จัดงานขั้นเด็ดขาดเนื่องจากมีผลกระทบถึงขั้นเสียชีวิต ต้องมีผู้รับผิดชอบต่อความสูญเสียเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่าง เครือข่ายได้เตรียมความพร้อมให้ความช่วยเหลือในทางกฎหมายทั้งทางเพ่งและอาญากับครอบครัวผู้ที่สูญเสียหากได้รับการร้องขอ
ด้าน นายชูวิทย์ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมลักษณะนี้มีอันตรายและมีความเสี่ยงที่จะเจ็บป่วยรุนแรงหรือเสียชีวิตได้ ด้วยเป็นการดื่มในปริมาณมากหรือเข้มข้นเกินไป ในระยะเวลาอันจำกัด ที่น่าห่วง คือ หากพฤติกรรมการดื่มแข่งขันแบบนี้ระบาดลงไปในกลุ่มเด็กและเยาวชนจะอันตรายมาก ด้วยวัยที่คึกคะนอง จึงมีความจำเป็นที่ต้องป้องปราม เรามีกฎหมายอยู่แล้วแต่ต้องทำให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์ ไม่ใช่เสือกระดาษ เจ้าหน้าที่ต้องไม่เพิกเฉยจนลุกลามบานปลาย กระแสแบบนี้ผลประโยชน์จะตกกับผู้ผลิตและผู้จำหน่ายเพียงฝ่ายเดียว ด้วยการกระตุ้นโหมทำการตลาดที่ขาดความรับผิดชอบ แต่ผลกระทบทางสังคมและความสูญเสียจะเกิดกับผู้บริโภคอย่างแน่นอน เหตุการณ์นี้ไม่ว่าใครจะเป็นคนจัด ต้องมีผู้รับผิดชอบ ถึงเวลาแล้วที่สังคมไทยต้องเรียกร้องให้ผู้ผลิต ผู้จำหน่าย ร้านเหล้าผับบาร์ทั้งหลายรับผิดชอบให้มากกว่าที่เป็นอยู่ ไม่ใช่โทษแต่ผู้บริโภค ส่งผลให้คนผิดตัวจริงลอยนวล
นพ. กิตตศักดิ์ กล่าวว่า ปกติร่างกายจะมีการตอบสนองไม่เหมือนกัน โดยสามารถทนต่อฤทธิ์แอกอฮอล์ได้ประมาณ 300 มิลลิกรัม แต่กรณีที่เกิดขึ้นพบว่า มีปริมาณแอลกอฮอล์มากถึง 400 มิลลิกรัม และเป็นการดื่มอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะทำให้แอลกอฮอล์ไปกดการหายใจ ทำให้หยุดหายใจ ซึ่งเรื่องนี้ต้องมีการตรวจสอบแน่นอน และขอเตือนเยาวชน การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่มากก็น้อยล้วนมีผลต่อสุขภาพ ยิ่งช่วงนี้มีกิจกรรมรับน้องของสถานศึกษา ต้องระมัดระวัง และยิ่งใกล้เข้าเทศกาลเข้าพรรษา การไม่ดื่มแอลกอฮอล์ยิ่งดี
นพ.พงษ์ธร ชาติพิทักษ์ รองผอ.สำนักงานควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบในพื้นที่ พบว่า ผู้ตายเป็นพนักงานของบริษัทแห่งหนึ่ง และมีการจัดกิจกรรมจัดเลี้ยงสังสรรค์ในโรงแรม โดยเป็นการว่าจ้างบริษัทจัดเลี้ยงมาดำเนินการ และมีการจัดแข่งขันดื่มแอลกอฮล์ ซึ่งผู้ตายระหว่างดื่มไม่รู้สติ ตั้งแต่อยู่ที่เกิดเหตุ และได้นำตัวส่งโรงพยาบาล เพราะหายใจเองไม่ได้ ทางโรงพยาบาลได้ใส่ท่อช่วยหายใจ แต่ติดปัญหามีสิ่งกีดขวาง จึงได้ดูดเอาออกจากคอ พบทั้งเศษอาหารและเบียร์ ดังนั้น จึงมองว่า มีอยู่ 2 สาเหตุ คือ เกิดจากการสำลัก อุดหลอดลม และฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ส่งผลให้เสียชีวิต จึงต้องมีการพิสูจน์สาเหตุ คาดว่าใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน แต่แอลกอฮอล์ล้วนเกี่ยวข้องและเป็นสาเหตุทั้งสิ้น ทั้งนี้ต้องดูว่า บริษัทรับจัดเลี้ยงและบริษัทที่ทำงานของผู้เสียชีวิต อาจมีความผิดทางอาญาฐานประมาทเลินเล่อ แต่ไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์