เหตุเครนถล่มใส่หลังคา ร.ร.อัสสัมชัญคอนแวนต์ มี นร.บาดเจ็บ 10 ราย ส่ง รพ.เลิดสิน และรพ.เซนต์หลุยส์แล้ว กลับบ้านได้แล้ว 9 ราย ส่วนอีกรายถูกเหล็กหล่นใส่หัว มีอาการกระโหลกร้าว สมองช้ำ แต่ไม่มีเลือดออกในสมอง ส่งเข้า ไอ.ซี.ยู. เฝ้าระวังอาการ 6-24 ชม. มีเลือดออกหรือไม่
ศูนย์เอราวัณ กรุงเทพมหานคร (กทม.) รายงานความคืบหน้าการรักษาพยาบาลของนักเรียน ร.ร.อัสสัมชัญคอนแวนต์ ที่ได้รับบาดเจ็บจากเครนก่อสร้างต่อเติมโรงแรมดังหล่นทับคาสนามบาสของโรงเรียน ว่า มีนักเรียนได้รับขาดเจ็บจำนวน 10 ราย เป็นบาดเจ็บเล็กน้อย 8 ราย และบาดเจ็บปานกลาง 8 ราย นำส่งรักษาที่ รพ.เลิดสิน 7 ราย และ รพ.เซนต์หลุยส์ 3 ราย โดยจากการติดตามผลการรักษาพบว่า รพ.เลิดสิน แพทย์อนุญาตให้ผู้ป่วยกลับบ้านแล้ว 6 ราย เหลืออีก 1 ราย แพทย์อยู่ระหว่างตรวจรักษา โดยมีบาดแผลที่ศีรษะ 10 เซนติเมตร และมีประวัติสลบ ส่วน รพ.เซนต์หลุยส์ แพทย์ให้กลับบ้านได้ทั้งหมด 3 ราย
ด้าน นพ.สมพงษ์ ตันจริยาภรณ์ ผู้อำนวยการ รพ.เลิดสิน กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดจากเหล็กที่หล่นลงมาทะลุหลังคาโรงยิมของ ร.ร.อัสสัมชัญคอนแวนต์ ลงมาถูกตัวเด็ก ซึ่ง รพ.เลิดสิน ได้รับตัวนักเรียนมารักษาจำนวน 7 คน โดย 5 คนแรกมีอาการเจ็บเล็กน้อย ปวดขา ฝุ่นเข้าตา ให้การรักษาและให้กลับบ้านแล้ว ส่วนอีกรายเป็น ด.ญ.อายุ 14-15 ปี เหล็กหล่นลงมาถูกขา จึงได้เอกซเรย์ขา ปรากฏว่าไม่พบการหักแต่อย่างใด จึงให้ยาแก้ปวดและให้กลับบ้านได้ แต่ ด.ญ.อีก 1 ราย ถูกเหล็กกระทบที่ศีรษะค่อนข้างรุนแรง โดยมีบาดแผลที่หนังศีรษะ คล้ายกับหมดสติไปชั่วขณะหนึ่ง แต่เมื่อมาถึงโรงพยาบาลก็รู้สึกตัว จึงได้ให้เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ พบว่า กระโหลกศีรษะ และกระโหลกศีรษะด้านหลังแตกร้าว สมองช้ำเล็กน้อย แต่ไม่มีเลือดออกในสมองเวลานี้
"สำหรับเด็กหญิงรายดังกล่าวทางโรงพยาบาลได้เย็บแผล และส่งเข้าดูอาการอย่างใกล้ชิดที่ห้องไอ.ซี.ยู. ซึ่งจะต้องเฝ้าระวังและตรวจเอกซ์เรย์คอมพิวเตอร์ซ้ำว่า มีเลือดออกหรือไม่ ซึ่งในช่วง 6-24 ชั่วโมงแรกเป้นช่งที่ต้องดูแลใกล้ชิดมาก คอยตรวจดูมีเลือดออกหรือไม่ แต่ตอนนี้น้องยังรู้สึกตัวดี โดยญาติก็รับทราบอาการและมาดูแลอยู่ ส่วนค่าใช้จ่ายในการรักษาก็ใช้สิทธิฉุกเฉินตามปกติได้" นพ.สมพงษ์ กล่าวและว่า สำหรับนักเรียนอีก 3 คน ส่งไปยัง รพ.เซนต์หลุยส์ จากการสอบถามพบว่า อาการไม่รุนแรง มีอาการเจ็บขาบ้างเหมือน 5 คนแรก ก็ได้ให้กลับบ้านทั้งหมดแล้ว สรุปจึงมีแค่คนเดียวที่ต้องนอนรักษาตัวใน รพ.และยังต้องเฝ้าระวังอาการ