xs
xsm
sm
md
lg

อภ.ลั่นไม่ผูกขาด “กัญชา” เหตุทำคนเดียวไม่ได้ ย้ำเป็นเพียงต้นแบบ “อภัยภูเบศร” ซัดคนเบี่ยงประเด็นปลูกแล้วรวย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


อภ.ลั่นผูกขาดปลูก “กัญชา” ไม่ได้ เหตุกำลังผลิตไม่สูง ไม่ถึง 2% ความต้องการประเทศ ย้ำทำคนเดียวไม่ได้ แต่เป็นเพียงต้นแบบในระดับเมดิคัล เกรด เท่านั้น ใครก็ปลูกได้หากทำตามมาตรฐานกฎหมาย ด้าน รพ.อภัยภูเบศร ชี้ กัญชาถูกเบี่ยงประเด็นว่าปลูกแล้วรวย สร้างภาพเกินจริงรักษาได้ทุกโรค ย้ำหากปลูกแต่ไม่มีคุณภาพ จะได้ผลอย่างไร หากปลูกเสรีไม่แน่ใจว่าคุมได้หรือไม่

วันนี้ (6 มี.ค.) นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) กล่าวถึงประเด็นกัญชาที่กำลังถูกหยิบยกเป็นเรื่องทางการเมือง ว่า การนำเอากัญชาที่จะนำไปใช้ทำยาเพื่อรักษาโรค กับการใช้เพื่อสันทนาการ เป็นคนละเรื่องกัน เพราะการทำยาต้องมีความคงตัว ที่เรียกว่า API และการจะได้สารสกัดตั้งต้นมาทำยา เป็นช่อแห้งต้องมีคุณภาพทุกล็อต หากไม่เหมือนกันไม่ใช่ยาแล้ว จึงจำเป็นต้องมีความคงตัว การปลูกจึงต้องชัดเจนตั้งแต่สายพันธุ์ เพื่อให้ได้ช่อแห้งคุณภาพ และหากใครจะบอกมาส่งเรา ก็ต้องมีการตรวจเพื่อให้ได้สารที่ต้องการและมีคุณภาพ โดยสิ่งเหล่านี้ก็ต้องสร้างความเข้าใจให้กับประชาชนมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม ในเรื่องการทำยาจากกัญชานั้นจะมีออกเป็นตำรับ ซึ่งอนาคตอาจแบ่งเป็น 3-5 ตำรับ ใช้ในโรคที่แตกต่างกันไป ขอย้ำว่า อภ.เป็นต้นแบบ เราไม่ได้ผูกขาด ดังนั้น ต้นแบบในการปลูกที่เป็นระดับเมดิคัล เกรด ใครก็ได้หากจะปลูกลักษณะนี้ก็สามารถนำเราไปเป็นต้นแบบได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า เกิดความเข้าใจว่า การปลูกกัญชาจะรวย และ อภ.ผูกขาด นพ.วิฑูรย์ กล่าวว่า กฎหมายไม่ได้เอื้อให้ทาง อภ.ทำได้ผู้เดียว ใครก็ทำได้หากมีมาตรฐานเป็นไปตามกฎหมาย และหากผูกขาดให้แค่ อภ.ย่อมไม่สามารถผลิตได้สูง เพราะกำลังผลิตเราได้ไม่ถึง 2% ของความต้องการทั้งประเทศ เพียงแต่เราทำเป็นต้นแบบ และการปลูกต้องมีมาตรฐานเพื่อทัดเทียมนานาประเทศ หากเราไม่ได้คุณภาพ มีสารปนเปื้อนใครจะรับ ในอนาคตทาง อภ.อาจมีการทำสัญญาทางการเกษตรเรื่องปลูกกัญชา (Contract Farming) ซึ่งก็ต้องคุยในอนาคต เพราะ อภ.ปลูกเองทำเองไม่ได้ทั้งหมด อย่างหากคนไข้ที่ใช้กัญชารักษาโรค หากมี 2-3 แสนคน อภ.ไม่สามารถผลิตได้ทัน ต้องเป็นความร่วมมือ

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการพูดทำนองหนุนการปลูกกัญชาเสรี เพื่อสร้างรายได้ นพ.วิฑูรย์ กล่าวว่า กฎหมายปัจจุบันเอื้อเฉพาะทางการแพทย์ หากพูดตามกฎหมายระบุแค่นี้ ตอนนี้เราพูดแค่ทำยา อย่างอื่นอย่าพูดเลย จะหลงประเด็นกัน

ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า ปัจจุบันเรื่องกัญชากำลังถูกเบี่ยงเบนประเด็น เนื่องจากมีการนำเรื่องความรวยความโลภมาเป็นตัวล่อและสร้างความเข้าใจผิดว่า ปลูกกัญชาแล้วจะรวย ทั้งนี้ 1.ปลูกในจำนวนมากจะรวยได้อย่างไร หากปลูกไม่มีคุณภาพจะใช้ได้ผลได้อย่างไร 2.กัญชาถูกสร้างให้มีภาพเกินจริงว่า รักษาได้ทุกโรค ซึ่งกัญชามีประโยชน์แต่ก็มีคุณค่าทางธรรมชาติมีประโยชน์มากในเรื่องทางยา และ 3.กลไกต่างๆ ที่จะมาที่มีหลายมิติ เราจะเปิดว่าใครจะครอบครองก็ได้ เสรีก็ได้ แต่เรื่องของการอบรมการใช้ประโยชน์ ในการสร้างความรู้เพราะกัญชายังเป็นยาเสพติดที่สามารถหาผู้สกัด ดังนั้น ต้องรู้ปริมาณการปลูกว่าใครจะปลูกปลูกได้เท่าไร ใช้ประโยชน์อะไร ซึ่งหากมีหลักแบบนี้ก็สามารถเสรีได้ไม่ว่ากัน แต่ในทางการแพทย์เรามีตำรายาที่เข้าได้กับแพทย์มีกัญชายาที่ใช้กัญชาอยู่แล้วดังนั้นสมควรที่จะนำมาใช้ แต่การนำมาใช้ต้องกำกับปริมาณการใช้เพราะหากใช้ในปริมาณมากจะส่งผลให้เกิดอาการชักก็เคยพบ ดังนั้น คุณภาพของผลิตภัณฑ์เราจะต้องควบคุมอย่าให้เสียหาย

ภญ.สุภาภรณ์ กล่าวว่า การปลูกอย่างเสรี นั้นไม่แน่ใจว่าจะควบคุมได้จริงหรือไม่ เนื่องจากกระบวนการสกัดสารสามารถทำให้มีสารที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทได้มาก หากไม่ควบคุมจะพบปัญหาใหม่ และสังคมไทยปัจจุบันยังไม่เหมาะ ในอนาคตอาจถูกนำไปใช้ใส่เพื่อมอมเมาได้ เพราะกัญชาออกฤทธิ์ตั้งแต่ สบายใจ หลงลืมตัว และจำอะไรไม่ได้ ในขณะนี้รัฐทำถูกแล้วแต่ต้องค่อยๆ ผ่อนไป ต้องให้ประชาชนเข้าถึงโดยให้เป็นสหกรณ์ ที่รวมตัวกันปลูกไปพร้อมความรู้และเทคโนโลยีปลูกอย่างไรให้ได้คุณภาพ มีโรงพยาบาลรับซื้อไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์มีการควบคุมคุณภาพ เพราะกัญชาเป็นยา หากได้คุณภาพที่เหมาะสมจะเกิดประโยชน์ เพราะหากใช้มาก ไม่มีการควบคุมทำให้เสี่ยงเกิดอาการชักมีผลต่อจิตและประสาท การที่จะร่วมกับหน่วยงานรัฐก็อยากให้ยึดหลักว่าประชาชนได้ประโยชน์อะไร ผู้ป่วยได้ประโยชน์อะไร เพราะเมื่อการแพทย์ได้ประโยชน์ประชาชนก็ได้ประโยชน์ไปด้วย มียาเป็นของคนไทย อนาคตต้องไปเก็บข้อมูล การใช้ที่ถูกต้องเพื่อหาวิธีการควบคุมคุณภาพที่ถูกต้องต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น