xs
xsm
sm
md
lg

“ปิยะสกล” แจง กม.กัญชาไม่ผูกขาดนายทุน สกัดต่างชาติกอบโกย ชี้ปลูกกัญชามีมาตรฐานหลายระดับ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


“ปิยะสกล” แจงออกกฎหมาย “กัญชา” ไม่ได้ผูกขาด เอื้อประโยชน์นายทุน ซ้ำช่วยป้องกันต่างชาติแห่เข้ามากอบโกย ชี้ 5 ปีนี้ไทยต้องช่วยกันพัฒนา ยันการปลูกกัญชามาตรฐานมีหลายระดับ แต่ต้องมีการกำกับควบคุม ส่วนของ อภ.เป็นระดับสูงสุดเมดิคัลเกรด ฝากคนเสนอแนะศึกษากฎหมาย เผยราคาน้ำมันกัญชา พร้อมรับฟังรอบด้านควรเป็นเท่าไร แต่ ปชช.ต้องเข้าถึง ราคาเหมาะสม ไม่มีขูดเลือด

วันนี้ (4 มี.ค.) นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ที่ยังมีข้อกังวลและเข้าใจไม่ตรงกันหลายเรื่อง ว่า เมื่อช่วงเช้าตนได้เชิญ นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัด สธ. นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และทีมงาน มาหารือกันว่า สถานการณ์เรื่องกัญชาขณะนี้เป็นเช่นไร ก็สรุปชัดเจนว่า สิ่งที่ประชาชนต้องรับทราบ คือ กัญชายังเป็นยาเสพติด ซึ่งในระดับโลกอย่างองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่มี 190 กว่าประเทศเป็นสมาชิกรวมถึงไทย ก็ถือว่ากัญชาเป็นยาเสพติด ซึ่ง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 ที่ออกมาใหม่ก็ถือว่ากัญชาเป็นยาเสพติด แต่ยกเว้นที่จะนำมาใช้เพื่อวิจัยและประโยชน์ทางการแพทย์ โดยประธานคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดระหว่างประเทศ (INCB) ของสหประชาชาติ ก็บอกว่าเราทำถูกต้องแล้ว สิ่งที่จะเดินหน้า คือ นำเอากัญชาที่คนไทยใช้มานานเอามาเป็นประโยชน์ทางการแพทย์ ซึ่งเราก็มีศักยภาพอยู่แล้ว

“พ.ร.บ.ยาเสพติดฉบับที่ออกมานี้ ผมยืนยันว่าหลักการคือ มุ่งหวังให้ประเทศไทยใช้ประโยชน์จากกัญชา ทั้งในแง่ของสังคม ประชาชน และเศรษฐกิจของประเทศ หลายอย่างอยากให้ประชาชนทำความเข้าใจกับ พ.ร.บ.นี้ให้ดี ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใครเลย แต่ทั้งหมดจะกลับมาสู่ประชาชน เศรษฐกิจ และสังคมประเทศ นี่คือข้อเท็จจริง ส่วน อย.มีหน้าที่กำกับ ไม่ได้มีหน้าที่ไปผลิตอะไร โดยทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งทุกอย่างก็เพื่อเอื้อประโยชน์ให้คนไทยทั้งสิ้น ไม่ได้เอื้อให้ต่างชาติเลย เพราะฉะนั้น ทุกคนควรไปศึกษา พ.ร.บ.นี้ให้ดี และทุกอย่างเราทำต้องร่วมมือกัน ไม่ใช่เพื่อประโยชน์คนใดคนหนึ่ง” นพ.ปิยะสกล กล่าว

เมื่อถามว่า มีคนตั้งข้อสงสัยว่าเป็นการผูกขาดให้นายทุนโดยภาครัฐ นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ถ้าเราไม่มีบทเฉพาะกาลกำหนดให้ทำโดยรัฐ 5 ปี ขณะนี้บริษัทต่างชาติที่ผลิตมาแล้ว เขาสามารถเทเข้ามาได้เลย ซึ่งแบบนี้ไม่ได้ การผลิตและจำหน่ายอะไรก็ตาม ต้องมีองค์กรราชการอยู่ด้วย เพื่อป้องกันเอาไว้ก่อน ดังนั้น 5 ปีนี้ต้องช่วยกัน ไม่ใช่ช่วยกันเพ่งโทษซึ่งกันและกัน ควรรวมกันและสู้กับต่างประเทศมากกว่า

ผู้สื่อข่าวถามว่าราคาขายน้ำมันกัญชาควรเป็นเท่าไร นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าราคาขายควรจะเป็นเท่าไร เพราะยังไม่มีคนบอกว่าควรราคาเท่าไร จะเป็น 100 บาท 200 บาท ก็ต้องมาดูก่อน หลายคนที่หวังดีก็กำลังไปสืบ เราก็พร้อมรับฟัง แต่กว่าจะออกมาได้ก็อีกหลายเดือน เพราะฉะนั้นก็ฟังตามข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปลงไปได้เรื่อยๆ อย่างการผลิต ถ้าผลิตได้จำนวนมาก ราคาก็ถูกลง แต่แน่ๆ คือ ทั้งหมดที่ทำเพื่อประโยชน์ของคนไทย ของผู้ป่วยโดยแท้ อย่าได้ห่วงกังวลเลย ไม่ได้มาขูดเลือดกัน แต่ภายใน 5 ปีที่มีบทเฉพาะกาลไว้ เพื่อประโยชน์ที่ทำให้ประเทศไทยสามารถผลิต ทั้งยา สารกัญชาประโยชน์ทางการแพทย์ได้ทัน ทันต่างประเทศที่เขาจะเทตลาดเข้ามาในประเทศไทย

เมื่อถามว่า การกำหนดราคากลางคล้ายกำหนดราคากลางยาทั่วไปหรือไม่ นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า คงต้องให้ส่วนที่พิจารณาเรื่องนี้ไปดูในรายละเอียด เราจะไปกำหนดให้เขาไม่ได้ แต่บอกแล้วนโยบายที่ชัด คือ ต้องเกิดประโยชน์ ทำให้ประชาชนเข้าถึงได้ในราคาที่เหมาะสม ต้องเชื่อกันบ้าง เมื่อไรที่เรามีความเชื่อศรัทธาซึ่งกันและกัน หลายอย่างในประเทศนี้จะไปได้ดี

เมื่อถามว่าการกำหนดหลายอย่างทำให้คนอยากปลูกกัญชาเข้าไม่ถึง  นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ต้องไปศึกษา พ.ร.บ. ซึ่งกัญชาเป็นยาเสพติด การปลูกจะทำต้องมีการควบคุมที่ชัดเจน ทุกประเทศก็ทำเหมือนกัน เพราะฉะนั้นท่านที่จะเสนออะไรก็ตาม ขอให้ไปศึกษากฎหมายนี้ด้วย เพราะกฎหมายออกมาแล้ว เราอยู่ในประเทศที่ต้องทำตามกฎหมาย กฎหมายไม่ได้เอื้อประโชยน์ให้ผู้ใดผู้หนึ่ง แต่ออกเพื่อกำกับดูแลให้การใช้กัญชาเป็นไปโดยถูกต้องมากกว่า อย่างการปลูกโดยทำในรูปแบบของวิสาหกิจชุมชนก็ทำได้ ไม่ได้กีดกันเลย สิ่งที่องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ทำอยู่ เป็นมาตรฐานอันหนึ่ง ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับสูง คือ การผลิตตยาโดยมาตรฐานทางการแพทย์หรือเมดิคัล เกรด ซึ่งต่างชาติก็จะเห็นว่าเราทำในระดับนานาชาติจริงๆ แต่ขณะเดียวกัน การปลูกก็มีหลายระดับ ปลูกในโรงเรือนเหมือนกับกรีนเฮาส์ก็ได้ หรือปลูกในไร่ก็ได้ แต่ก็ต้องมีการกำกับที่ชัด ไม่ใช่ว่าปลูกที่ไหนก็ได้ ใครจะเด็ดเอาไปใช้ก็ได้ ใครจะดูแลอย่างไร ทุกอย่างต้องมีกฎเกณฑ์ ไม่ได้ทำเพื่อจะไม่ให้เกิดประโยชน์กับผู้ใดผู้หนึ่ง แต่เกิดกับประเทศชาติจริงๆ

ถามว่า ต้องมีการทำคู่มือเพื่อให้เข้าใจชัดเจนหรือไม่ นพ.ปิยะสกล กล่าวว่า ที่จริงกำลังทำอยู่เยอะเลย ทั้งผู้ที่จะใช้และปลูก เพราะฉะนั้น อย่ารีบร้อน  การที่ อภ.ทำก่อน เพราะเขาเตรียมมานาน ก็ทำก่อน ก็เป็นตัวอย่างที่ดีอันหนึ่ง ไม่ใช่ว่าจะให้ทุกอย่างออกมาก่อนแล้วเริ่มนับหนึ่งคงไม่ใช่ เหมือนการสร้างตึก สมมติเริ่มวันที่ 1 ต.ค. ค่อยมาเริ่มจัดซื้อจัดจ้าง ปีหนึ่งยังไม่ได้สัญญาเลย ถ้ารู้ว่าได้ 1 ต.ค.ก็ต้องเตรียมล่วงหน้า พอมีสัญญาวันที่ 1 ต.ค.ก็เดินได้เลย เป็นต้น มิเช่นนั้น ประเทศไทยก็ไปไม่ทันคนอื่น


กำลังโหลดความคิดเห็น