กรมอนามัย ชี้ ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 มีผลทำคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักตัวน้อยได้ ห่วง กทม.ก่อสร้างมาก หวังรถไฟฟ้าสร้างเสร็จ ลดการใช้รถยนต์ ช่วยลดฝุ่นละออง แต่ต้องมีมาตรการจูงใจให้คนใช้ขนส่งสาธารณะ
วันนี้ (11 ม.ค.) นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ว่า เดิมประเทศไทยจะมีฝุ่นละอองขนาด PM10 ซึ่งถือว่าขนาดไม่เล็กมาก เมื่อสูดดมเข้าไปก็จะถูกดักจับที่คอหอย หลอดลม แต่สำหรับฝุ่นละอองขนาด PM 2.5 เล็กมาก เมื่อเข้าสู่ร่างกายสามารถลงไปได้ลึกถึงปอดและกระแสเลือดได้ อาจมีผลกระทบทำให้เกิดเส้นเลือดในสมองแตก เส้นเลือดตีบตันได้ อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นทุกพื้นที่ ไม่ได้เกิดขึ้นตลอดเวลา แต่ก็ขอให้ประชาชนเพิ่มการดูแล ป้องกันตัวเองโดยสวมหน้ากากอนามัย หรือผ้าชุบน้ำปิดจมูก ส่วนกลุ่มนักวิ่งมาราธอนที่มีความเป็นห่วง เพราะการวิ่งทำให้เกิดการสูดหายใจแรงๆ คงไม่ถึงกับต้องมีคำแนะนำว่าควรงดกิจกรรมอะไร เพราะเป็นการวิ่งช่วงเช้าตรู่ที่ปริมาณรถยังไม่มาก เนื่องจากตอนนี้มีความชัดเจนระดับหนึ่งว่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กนั้นเกิดจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ค่อนข้างสูง
ด้าน พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า เรื่องผลกระทบทางสุขภาพก็มีการเก็บข้อมูลกันอยู่ ซึ่งฝุ่นละอองอาจจะมีผลกระทบกับหญิงตั้งครรภ์ด้วย เช่น ทำให้คลอดก่อนกำหนด น้ำหนักตัวน้อย เป็นต้น ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างก็มีการเฝ้าระวังเรื่องฝุ่นละอองอยู่ โดยเมื่อพบว่าตรงจุดไหนมีค่าฝุ่นละอองเยอะเกินค่ามาตรฐานก็จะมีการประกาศแจ้งเตือน ส่วนเรื่องการแก้ไขปัญหาที่ทำอยู่ก็เห็นมีหลายเรื่อง อย่างการก่อสร้างก็มีกฎหมายว่าต้องมีการปิดกั้นพื้นที่อย่างชัดเจนเพื่อไม่ให้ฝุ่นฟุ้งกระจาย อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันทำความสะอาดบ้านอย่างสม่ำเสมอ ไม่ให้มีฝุ่นสะสม พยายามปลูกต้นไม้ หรือพืชถือว่าเป็นการช่วยอีกทางหนึ่ง
พญ.พรรณพิมล กว่าวว่า ตอนนี้ใน กทม.เองมีการก่อสร้างกันค่อนข้างมาก รวมถึงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้าต่างๆ ซึ่งคาดว่าเมื่อทยอยเปิดแล้วน่าจะช่วยลดปัญหาการจราจรที่หนาแน่น ก็จะช่วยลดการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ส่วนหนึ่งด้วย สิ่งสำคัญ คือ ต้องมีแรงจูงใจให้คนอยากจะมาใช้บริการขนส่งสาธารณะให้มากด้วย อย่างไรก็ตาม เมื่อดูจากแผนที่โลกสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กในไทยยังไม่ถึงขั้นสูงมากเหมือนหลายๆ ประเทศ