xs
xsm
sm
md
lg

ม.แม่โจ้ ต้นแบบสถานศึกษา “เซฟหัว” ไม่กลัวผมเสียทรง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ชู ม.แม่โจ้ ต้นแบบสถานศึกษา “เซฟหัว” ไม่กลัวผมเสียทรง! หลังประสบความสำเร็จรณรงค์สวมหมวกกันน็อก 100% ลดเจ็บ-ตาย

นายสุกิจ ติดชัย ผู้อำนวยการกองกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เปิดเผยว่า การตายจากอุบัติเหตุทางถนน ของนักศึกษาและบุคลากรมหาวิทยาลัยแม่โจ้ มากกว่า 10 ราย/ปี อันมีสาเหตุสำคัญจากการไม่สวมหมวกกันน็อกและฝ่าฝืนกฎจราจร มหาวิทยาลัยจึงเล็งเห็นถึงความสำคัญ ในการป้องกันอุบัติเหตุและลดความสูญเสีย จึงได้เข้าร่วมประชุมกับคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดเชียงใหม่ และลงนามในบันทึกข้อตกลงเรื่องการป้องกันและแก้ไขอุบัติเหตุ สนับสนุนรณรงค์ให้นักศึกษา บุคลากร สวมหมวกนิรภัยทุกครั้งขณะขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ จากนั้นได้ดำเนินการสร้างความตระหนักรู้และจิตสำนึกที่ดี ผ่านการรณรงค์ประชาสัมพันธ์และกระจายข่าวสารในทุกช่องทาง ควบคู่กับการใช้มาตรการตรวจตรา กวดขัน ตักเตือน อย่างจริงจังผ่าน 4 มาตรการ ดังนี้

1. ห้ามทุกคนที่ขับขี่ หรือซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ที่ไม่สวมหมวกนิรภัยเข้าในมหาวิทยาลัยเด็ดขาด 2. ให้ทุกคนที่ขับขี่ หรือซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์สัญจรทุกเส้นทางในมหาวิทยาลัยต้องสวมหมวกนิรภัย 3. กรณีนักศึกษาไม่ปฎิบัติตามกฎข้อ 1 และ 2 หากถูกตรวจเจอจะถูกหักคะแนนวินัย ครั้งละ 10 คะแนน หากถูกหักคะแนนวินัยถึง 40 คะแนน จะถูกพักการเรียน และ 4. กรณีเป็นบุคคลากรที่ไม่ปฏิบัติตามข้อ 1 และ 2 หากถูกตรวจเจอจะส่งรายชื่อให้กับต้นสังกัด ดำเนินการทางวินัยหรือการพิจารณาความดีความชอบต่อไป ทำให้สถิติการสวมหมวกนิรภัยของนักศึกษา และบุคลากรมหาวิทยาลัยแม่โจ้เพิ่มสูงขึ้น สอดคล้องกับจำนวนผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง จากสวมหมวกไม่ถึง 30% มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุถึง 11 ราย บาดเจ็บ 694 คน ในปี 2555 เป็น 100% เสียชีวิตเพียง 3 ราย บาดเจ็บ 54 คน ในปี 2560 ผลสำเร็จดังกล่าวมหาวิทยาลัยเตรียมขยายผลไปสู่ชุมชนโดยรอบ เพื่อปรับเปลี่ยนและปลูกฝังพฤติกรรมผู้ใช้มอเตอร์ไซค์ต่อไป

ด้าน นายรุ่งรวิน เก่งกาจ และ นายธีรชัย เย็นใจ นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะผลิตกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่า มาตรการของมหาวิทยาลัย ที่กำหนดให้ทุกคนที่ใช้รถมอเตอร์ไซค์ ต้องสวมหมวกทั้งคนขับและซ้อนท้าย ช่วยให้ทุกคนปลอดภัยและลดการบาดเจ็บสูญเสียได้ ส่วนตัวไม่รู้สึกลำบาก หรือเป็นภาระทำให้ผมเสียทรงแต่อย่างใด เพราะเมื่อสวมหมวกจนเคยชินจะติดเป็นนิสัย ไม่เฉพาะเวลาขับรถในพื้นที่มหาวิทยาลัยเท่านั้น แต่ไม่ว่าจะขับรถไปที่ไหนก็จะใส่หมวกกันน็อกทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยของตนเอง





กำลังโหลดความคิดเห็น