ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค. มอบองค์การค้าฯ ทำแผนลดถ่ายโอนกำลังคน ลดภาระจ่ายเงินพนักงาน จ่อปลดล็อกเปิดทางร้านค้าเล็ก-ใหญ่ แข่งขันเสรี หลังร้านค้ากว่า 90 ร้านขอยกเลิกสัญญา ชี้ ในทางกฎหมายทำได้ พร้อมสั่งสำรวจทรัพย์สิน ชี้ จำเป็นต้องขาย กำชับแจ้งทุกหน่วยงาน หลังกรมบัญชีกลางไฟเขียวองค์การค้าฯเป็นส่วนราชการจัดจ้างพิเศษได้
วันนี้ (17 ต.ค.) นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับผู้บริหารองค์การค้าของ สกสค. ว่า ที่ประชุมได้มอบการบ้านให้ทั้ง สกสค.และองค์การค้าฯ ไป ดำเนินการจัดทำแผนเพื่อนำมาเสนอในที่ประชุมอีกรอบในวันที่ 29 ต.ค.นี้ เบื้องต้นให้ไปคิดแก้ปัญหาอัตรากำลังคน เพราะขณะนี้องค์การค้าฯ มีภาระหนักในเรื่องการจ่ายเงินเดือน 40 กว่าล้านบาทต่อเนื่อง จึงให้ไปศึกษาข้อกฎหมายเพื่อทำแผนถ่ายโอนกำลังคน เพื่อลดภาระในเรื่องการจ่ายเงินเดือนขององค์การค้าฯ
นอกจากนี้ องค์การค้าฯ ยังแจ้งผลกระทบที่เกิดขึ้นจากกรณีที่ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ตัดโควตาการจัดพิมพ์หนังสือเรียนขององค์การค้าฯ เหลือ 70% ทำให้ร้านค้าตัวแทนขององค์การค้าฯ กว่า 90 ร้านจากทั้งหมดกว่า 100 ร้าน เกิดความกังวลและอยากจะยกเลิกสัญญา อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมให้มองวิกฤตเป็นโอกาส โดยจะมีการยกเลิกสัญญาที่ทำไว้กับร้านค้าตัวแทนองค์การค้าฯ ทั้งหมดและเปิดให้มีการซื้อขายได้อย่างเสรี อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา การทำสัญญาระหว่างองค์การค้าฯและร้านค้าตัวแทนนั้น กำหนดว่า ต้องวางเงินมัดจำค่าหนังสือเรียน ร้านละ 10 ล้านบาท และไม่ให้มีการขายข้ามเขต ตรงนี้ทำให้ผู้ค้ารายย่อยไม่สามารถเข้าถึงสินค้าขององค์การค้าฯได้
“ผมได้มอบให้ไปดูข้อกฎหมายว่าการยกเลิกสัญญากับร้านค้าตัวแทนทั้งหมดทำได้หรือไม่ เบื้องต้นฝ่ายกฎหมาย พิจารณาแล้วบอกว่าสามารถยกเลิกได้ เราก็จะใช้วิกฤตครั้งนี้ให้เป็นโอกาส ปลดล็อกให้มีการค้าขายอย่างเสรี รวมถึงจะมีการพิจารณาส่วนลดแก่ร้านค้าตัวแทน ที่เดิมทุกแห่งจะได้ส่วนลด 27% เท่ากันทั้งหมด แต่จากนี้การให้ส่วนลด จะพิจารณาจากระยะเวลา ถ้าใครมาเร็ว วางเงินมัดจำมากกว่าก็สมควรที่จะได้ส่วนลดมากกว่ารายอื่น ส่วนจะให้ส่วนลดสูงสุดเท่าไรนั้น ยังไม่มีการกำหนดเพดานที่แน่นนอน รวมถึงให้องค์การค้าฯไปพัฒนาและให้ความสำคัญกับสินค้าอื่นๆ ที่ผลิตอยู่แล้วนอกจากหนังสือเรียน เช่น อุปกรณ์สะเต็มศึกษา อุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ ฯลฯ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มขึ้น” นายอรรถพล กล่าว
นายอรรถพล กล่าวต่อไปว่า ขณะเดียวกัน ยังให้องค์การค้าฯไปสำรวจทรัพย์สินและที่ดิน ว่ามีเท่าไร และที่ใดที่ยังไม่เป็นโฉนด ให้เร่งดำเนินการจัดการเอกสารสิทธิ หากจำเป็นต้องขาย เพื่อลดดอกเบี้ยก็ให้เสนอขึ้นมา โดยตอนนี้องค์การค้าฯ มีหนี้เร่งด่วนที่ต้องชำระ คือ ค่ากระดาษและค่าจ้างพิมพ์ประมาณ 1,300 ล้านบาท เฉลี่ย 5 ล้านบาทต่อเดือน ที่ประชุมได้มอบหมายให้องค์การค้าฯ ไปทำแผน และไปหาแหล่งเงินกู้ ในสถาบันการเงินที่ต่างๆ โดยเห็นชอบให้สามารถนำที่ดินและทรัพย์สินขององค์การค้าฯ ไปใช้ในการค้ำประกันเงินกู้ได้ และขอย้ำว่า จะไม่มีการยืมเงินของ สกสค. หรือเงินโครงการสวัสดิการเงินกู้การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) และเงินโครงการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเหลือเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษาในกรณีที่คู่สมรสถึงแก่กรรม (ช.พ.ส.) ซึ่งเป็นเงินของครูมาใช้อย่างเด็ดขาด
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมอบให้องค์การค้าฯ เร่งทำการประชาสัมพันธ์ไปยังหน่วยงานราชการต่างๆ ว่า องค์การค้าฯได้ทำข้อตกลงกับกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ให้องค์การค้าฯเป็นผู้รับจ้างที่ส่วนราชการสามารถใช้วิธีการจ้างแบบพิเศษได้ โดยไม่ต้องผ่านวิธีการจัดซื้อจัดจ้างด้วยการประกวดราคาแบบปกติ ดังนั้น หากใครต้องการจ้างแบบกรณีพิเศษสามารถจ้างองค์การค้าฯ ดำเนินการได้ รวมให้ประชาสัมพันธ์ไปยังโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศที่ได้รับงบจัดซื้อหนังสือเรียน 5 แสนบาทขึ้นไป สามารถซื้อหนังสือเรียนผ่านร้านค้าตัวแทนขององค์การค้าฯ ได้เป็นโดยไม่ต้องใช้วิธีการเสนอราคาด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) นอกจากนี้ ยังให้องค์การค้าฯ ไปสำรวจร้านศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ทั่วประเทศ หากร้านใดขาดทุน ก็ให้ยุบและเหลือไว้เฉพาะร้านที่ทำกำไร เพื่อไม่ให้เป็นภาระ