xs
xsm
sm
md
lg

กสศ.เล็งช่วย “เด็กยากจนพิเศษ” 6.2 แสนคนก่อน ช่วง พ.ย.นี้ หลังได้รับงบลดลง 21%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


บอร์ด กสศ.เตรียมประชุม 24 ก.ย.นี้ ปรับแผนการบริหารกองทุนความเสมอภาคทางการศึกษา หลังได้รับจัดสรรงบน้อยกว่าแผน 21 และ 57% เล็งช่วยเด็กยากจนพิเศษ 6.2 แสนคนในสังกัด สพฐ.ก่อน คาดเริ่มดำเนินการ พ.ย.นี้

นายสุภกร  บัวสาย ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่า กสศ.ได้รับการจัดสรรงบประมาณลดลงจากที่คณะกรรมการบริหาร (บอร์ด) กสศ.เห็นชอบ โดยปีงบประมาณ 2561 ได้รับจัดสรรทุนประเดิมและเงินอุดหนุนประจำ 1,200 ล้านบาท ลดลง21% และปีงบประมาณ 2562 ได้รับการจัดสรรงบอุดหนุน 2,537 ล้านบาท ลดลงกว่า 57% อย่างไรก็ตาม ยังอยู่ในกรอบที่เะยงพอให้ กสศ.ใช้เริ่มดำเนินการช่วงต้นได้ ซึ่งทางรัฐบาลก็ยังเปิดช่องให้ กสศ. ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมได้อีก ในส่วนของงบกลางสำรองฉุกเฉินในปี 2562  รวมถึงขณะนี้กรมสรรพกรก็กำลังพิจารณาเรื่องการหักค่าลดหย่อนหรือรายจ่ายเพื่อการบริจาคเงินและทรัพย์สินแก่กองทุนตามมาตรา 7 ของ พ.ร.บ. กสศ. เพื่อให้ประชาชนและนิติบุคคลต่างๆ ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี จากการบริจาคเงินและทรัพย์สินเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของ กสศ. ได้ภายในปีภาษี 2561

นายสุภกร กล่าวว่า สำหรับทิศทางการบริหารจัดการคงต้องมีการปรับแผนการดำเนินงานให้สอดคล้องกับงบประมาณที่ได้รับ โดยจะมีการประชุมบอร์ด กสศ. วันที่ 24 ก.ย.นี้ เพื่อจัดลำดับความสำคัญของงาน ซึ่งคงต้องมุ่งทำงานกับกลุ่มเป้าหมายที่จำเป็นเร่งด่วน โดยกลุ่มที่คาดว่า กสศ.จะเริ่มช่วยเหลือได้เป็นลำดับแรก คือ นักเรียนยากจนพิเศษจำนวน 620,000 คน ในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่กระจายอยู่ทุกภูมิภาค ซึ่ง กสศ. และ สพฐ. ได้ร่วมกันคัดกรองในปีการศึกษา 1/2561 โดยช่วง ต.ค.นี้ กสศ. จะร่วมกับ สพฐ.จัดให้มีกระบวนการตรวจสอบข้อมูลกลุ่มเป้าหมายทั้ง 620,000 คนอีกครั้งด้วยระบบสารสนเทศเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (iSEE) เพื่อให้มั่นใจว่า สามารถช่วยเหลือและติดตามให้นักเรียนที่ยากจนที่สุดกลุ่มนี้ได้รับการสนับสนุนทั้งด้านค่าใช้จ่ายและการดูแลที่จำเป็นต่างๆ เพื่อป้องกันการหลุดออกจากระบบการศึกษา ไปจนสำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสามารถพัฒนาความรู้ความสามารถในการประกอบอาชีพได้ตามความถนัดและศักยภาพที่แตกต่างกัน

“เรื่องนี้เป็นประเด็นที่บอร์ด กสศ. เน้นย้ำมาตลอดในการประชุมทุกครั้ง ว่า ให้กองทุน กสศ.หลีกเลี่ยงการสนับสนุนงบประมาณที่ซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่นๆ เน้นความโปร่งใส คุ้มค่า โดยพิจารณาเป้าหมายตามวัตถุประสงค์ของกองทุนฯ ให้ถูกต้องครบถ้วน คำนึงถึงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ” นายสุภกร กล่าวและว่า สำหรับนักเรียนยากจนพิเศษที่ กสศ. จะให้การสนับสนุนเป็นลำดับแรก จะเป็นการสนับสนุนเพิ่มเติมจากที่ สพฐ. อุดหนุนอยู่วันละ 5-15 บาท ซึ่งไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในปัจจุบัน เช่น ค่าเดินทาง ค่าอาหารเช้า และค่าใช้จ่ายที่จำเป็นอื่นๆ ของนักเรียนยากจนพิเศษ เป็นต้น โดย กสศ.จะขอเข้าพบเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เร็วๆ นี้ เพื่อร่วมกำหนดแผนปฏิบัติการทำงานร่วมกัน คาดว่าจะเริ่มช่วยเหลือนักเรียนยากจนพิเศษผ่านโรงเรียนทั่วประเทศได้ราว พ.ย.นี้

นายสุภกร กล่าวว่า ส่วนนักเรียนในสถานศึกษาสังกัดอื่นๆ กสศ. จะเริ่มดำเนินงานประสานงานและเชื่อมโยงฐานข้อมูลเพื่อให้สามารถเริ่มดำเนินงานได้ในปีการศึกษา 2562 อย่างไรก็ตาม จากการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ เมื่อ ส.ค.ที่ผ่านมา กสศ.ได้เข้าไปประสานความช่วยเหลือกรณีเด็กยากจนพิเศษ เด็กพิการด้อยโอกาสและเด็กนอกระบบ ในเชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี และสุรินทร์ โดยได้รับการสนับสนุนทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ ท้องถิ่น และเอกชน รวมถึงสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และกระทรวงการคลัง ในการเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของกองทุน ทั้งเรื่องความขาดแคลนทุนทรัพย์และความด้อยโอกาสทางสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคม




กำลังโหลดความคิดเห็น