xs
xsm
sm
md
lg

เร่งรวบรวมหลักฐาน “ตลาด” รอบบ้าน “ป้าทุบรถ” สาวใครละเว้นหน้าที่ ก่อนสรุปวันที่ 28 ก.พ.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ปธ. กรรมการสอบข้อเท็จจริงตลาดรอบบ้าน “ป้าทุบรถ” สั่งเขตประเวศรวบรวมเอกสารส่งในวันที่ 27 ก.พ. สาวที่มาที่ไปจัดตั้งตลาดเถื่อน ใครเกี่ยวข้อง ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ เผย เรียกเจ้าของบ้าน เจ้าของตลาด เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง หารือวันที่ 28 ก.พ. ก่อนสรุปผลส่ง ผู้ว่าฯ กทม.

วันนี้ (23 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุมสุทัศน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) มีการประชุมนัดแรกของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการจัดตั้งตลาดภายในซอยศรีนครินทร์ 55 เขตประเวศ หลังเกิดเหตุ น.ส.บุญศรี แสงหยกตระการ ก่อเหตุทุบรถจนกลายเป็นข่าวดัง โดยมี นายนิรันดร์ ประดิษฐกุล รองประธานสภา กทม. คนที่ 2 เป็นประธาน ซึ่งเป็นการประชุมภายใน โดยใช้เวลาในการประชุมราว 2 ชั่วโมง

เมื่อเวลา 15.00 น. นายนิรันดร์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ว่า คณะกรรมการจะหาข้อสรุปใน 3 ประเด็น คือ 1. การขออนุญาตจัดตั้งตลาด 2. กรณีศาลปกครองมีคำสั่งคุ้มครองตามวิธีการชั่วคราวผู้ร้อง คือ น.ส.บุญศรี และพวก 4 คน และ 3. การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการอนุญาตให้สร้างอาคารพาณิชย์ อาคารที่พักอาศัยรวม ตลาดนัดภายในหมู่บ้านเสรีวิลล่าและแก้ไขข้อบัญญัติ กทม. เอื้อประโยชน์ให้ตนเองและพวกพ้อง โดยจะให้สำนักงานเขตประเวศ รวบรวมเอกสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้องให้คณะกรรมการในวันที่ 27 ก.พ. นี้ และวันที่ 28 ก.พ. นี้ เวลา 14.00 น. คณะกรรมการจะเชิญผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด คือ เจ้าของบ้าน เจ้าของตลาด และเจ้าหน้าที่มาให้ข้อมูลเพิ่มเติมและทำการสรุปข้อเท็จจริง รวมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา จากนั้นจึงสรุปส่งผู้ว่าราชการ กทม. ต่อไป

นายนิรันดร์ กล่าวว่า ในส่วนของการขออนุญาตตลาดนั้น จะตรวจสอบว่าเป็นมาอย่างไร มีการกระทำผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องคือ พ.ร.บ. การสาธารณสุข พ.ร.บ. สิ่งแวดล้อม และ พ.ร.บ. อาคาร อย่างไร ตั้งแต่ปีไหน และเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีกี่ครั้ง โดยให้เจ้าหน้าที่รวบรวมข้อมูลมาตั้งแต่ปี 2545 และวันที่ 24 ก.พ. ทางคณะกรรมการจะลงพื้นที่ไปตรวจสอบตลาดจริงด้วย ส่วนผลการพิจารณาคดีของศาลปกครองนั้น ทางคณะกรรมการจะไม่เข้าไปก้าวล่วง

ผู้สื่อข่าวถามว่า เบื้องต้นทราบหรือไม่ว่ามีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกี่ราย นายนิรันดร์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบ และยังไม่สามารถระบุจำนวนได้ และคงระบุออกมาภายใน 6 - 7 วันไม่ได้ คงต้องรอดูข้อสรุปวันที่ 28 ก.พ. อีกครั้งว่าทำอะไรต่อได้แค่ไหน แต่เชื่อว่าหากเจ้าหน้าที่คนใดทำผิดและพบข้อมูลหรือข้อเท็จจริงได้ในเอกสารก็จะสืบกันต่อไป โดยการเอาผิดขึ้นกับการชี้มูลของ ป.ป.ช. ว่า เป็นกรณีใด หากเป็นความผิดทางวินัยต้องนึดเอาสำนวนของ ป.ป.ช. เป็นหลัก หากเป็นความผิดทางอาญาต้องส่งเรื่องไปที่อัยการ หากเป็นความรับผิดทางแพ่งหน่วยงานต้นสังกัดจะเป็นผู้ดำเนินการทางวินัยและความรับผิดทางแพ่งต่อไป



กำลังโหลดความคิดเห็น