xs
xsm
sm
md
lg

แจงเพิ่มเงินสมทบประกันสังคมเป็น 1,000 บาท ได้สิทธิประโยชน์เพิ่ม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


สปส. เผย 80% คนเห็นด้วยเพิ่มเงินสมทบประกันสังคม สูงสุดเป็น 1,000 บาท ชี้ ได้สิทธิประโยชน์เพิ่มด้วย แจงเงินออมชราภาพ จ่ายสมทบไม่ถึง 15 ปี หากเกษียณได้เงินออมคืนทั้งหมด หากเสียชีวิตก็คืนให้ทายาท ด้าน คปค. ยันทายาทควรได้รับเงินออมคืนทุกกรณี

นพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวการเพิ่มเงินสมทบของผู้ประกันตนเป็น 1,000 บาท จากเดิมสูงสุด 750 บาท ว่า ปัจจุบันฐานการคำนวณเงินสมทบขั้นต่ำอยู่ที่ 1,650 บาท และสูงสุดที่ 15,000 บาท ซึ่งอัตราจ่ายเงินสมทบอยู่ที่ 5% ดังนั้น อัตราจ่ายเงินสมทบสูงสุดในปัจจุบันคือ 750 บาท ซึ่งการปรับเพดานการเก็บเงินสมทบนั้น มีการศึกษามานาน และขณะนี้ผ่านการประชาพิจารณ์ทั้ง 4 ภาคแล้ว โดยร้อยละ 80 เห็นด้วยกับการปรับเพดานเงินสมทบ ซึ่งปรับเพิ่มทั้งขั้นต่ำและสูงสุด โดยขั้นต่ำเพิ่มจาก 1,650 บาท เป็น 3,600 บาท และสูงสุดจาก 15,000 บาท เป็น 20,000 บาท โดยคิดที่อัตรา 5% ตามเดิม ดังนั้น การจ่ายเงินสมทบสูงสุดจะเพิ่มเป็น 1,000 บาทต่อเดือน ผู้ประกันตนที่มีเงินเดือนขั้นต่ำอยู่ที่ 3,600 บาท ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นลูกจ้างรายวันจะต้องจ่ายสมทบเพิ่มประมาณ 110 บาทต่อเดือนจากเดิม 83 บาท

“การปรับเพิ่มเงินสมทบจะมีการเพิ่มสิทธิประโยชน์ทดแทนต่างๆ เพิ่มด้วยกว่าครึ่ง ทั้งเงินช่วยเหลือการว่างงาน การสงเคราะห์การคลอด สงเคราะห์บุตร หรือการเพิ่มเงินบำนาญชราภาพรายเดือน หรือแม้แต่กรณีเจ็บป่วย ซึ่งเดิมได้รับสิทธิอยู่แล้ว แต่เมื่อเพิ่มจ่ายเงินสมทบ สิทธิต่างๆ ก็เพิ่มขึ้น” เลขาธิการ สปส.กล่าว

นพ.สุรเดช กล่าวถึงกรณีมีข้อท้วงติง ว่า เก็บเงินสมทบเพิ่ม แต่เมื่อเกษียณแล้วเสียชีวิต ลูกหลานก็ไม่ได้รับเงินบำนาญต่อ ว่า เงินออมบำนาญชราภาพที่อยู่ในกองทุนเป็นการเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุขให้แก่ผู้สูงวัยในระบบทั้งหมด แต่ไม่ใช่ว่าผู้ประกันตนที่ออมเงินไว้กับกองทุนจะไม่ได้อะไรเลย เพราะข้อเท็จจริงแล้ว หากผู้ประกันตนทำงานมาและเก็บเงินออมไม่ถึง 15 ปี ตามกฎหมายก็จะได้เงินคืนเมื่ออายุถึง 55 ปี หรือเกษียณอายุทำงาน หมายความว่า หากผู้ประกันตนอายุ 55 ปี ทาง สปส. จะมีหนังสือแจ้งก่อนเกษียณ 3 เดือนอยู่แล้ว เพื่อให้มารับเงินก้อนนี้ได้ หรือหากเสียชีวิตก่อนเกษียณ หรือหลังเกษียณแล้วก็ตาม ในส่วน 15 ปีที่ออมเราคืนให้ทั้งผู้ประกันตน และทายาท

นายมนัส โกศล ประธานเครือข่ายประกันสังคมคนทำงาน (คปค.) กล่าวว่า เครือข่ายเห็นด้วยเรื่องการเพิ่มเพดานเงินสมทบ เพราะลูกจ้างจะมีเงินออมชราภาพเพิ่มขึ้น จาก 900 บาท เป็น 1,200 บาทต่อเดือน แต่ถ้าเพิ่มเงินสมทบสิทธิต่างๆ ก็ต้องดีขึ้นด้วย รวมทั้งเรื่องช่องโหว่อื่นๆ อีก อย่างปัญหาสำคัญ คือ กองทุนบำนาญชราภาพ เพราะหากผู้ประกันตนเกษียณอายุ 55 ปี ปกติจะได้รับเงินบำนาญรายเดือน ถ้าเสียชีวิตภายใน 60 เดือน หรือประมาณ 5 ปี จะได้รับเงินเป็น 10 เท่า คูณด้วยเงินชราภาพ แต่ถ้ามีเงินออมประมาณ 200,000 บาท เงินที่เหลือ 170,000 บาท ทายาทจะไม่ได้ จะตกอยู่กับประกันสังคมทั้งหมด

“ส่วนที่ สปส. ระบุว่า ได้รับเป็นเงินก้อน อันนั้นคือเงินบำเหน็จที่ผู้ประกันตนออมไว้ 15 ปี แต่หากเสียชีวิตและทาง สปส. ส่งหนังสือไปยังทายาท และหากทายาทไม่มาติดต่อภายใน 2 ปี เงินจะเข้ากองทุนทันที รวมทั้งกรณีเงินทดแทนการเสียชีวิตที่จะให้เป็น 10 เท่านั้น มีเงื่อนไขคือ ถ้าเกษียณแล้วต้องเสียชีวิตภายใน 6 เดือน ถึงจะได้รับ ซึ่งเรื่องพวกนี้ ถามว่า ผู้ประกันตนทราบเรื่องนี้สักกี่คน เรื่องนี้ต้องคุยยาวๆ เพราะคนไม่เข้าใจเยอะ และกรณีการจะปรับแก้กฎหมายให้ทายาทรับเงินออมบำนาญได้แต่เฉพาะกรณีจำเป็น ต้องถามว่าจะแยกอย่างไร คนไหนจน คนไหนจำเป็น ก็ไม่ต่างจากบัตรคนจน ทั้งที่ควรให้เสมอภาคทุกคน ซึ่งทางเครือข่ายฯ จะเตรียมเข้าพบทางสปส.เพื่อหารือช่วงต้น พ.ย. นี้" นายมนัส กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น