xs
xsm
sm
md
lg

จัดทีมจิตอาสาควบคุมโรคช่วงพระราชพิธี ป้องกันแพร่ระบาด ดูแลประชาชน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


กรมควบคุมโรคจัดทีมจิตอาสาเฝ้าระวังโรค - สอบสวนควบคุมโรค ช่วงงานพระราชพิธี เหตุมีคนเข้าร่วมจำนวนมาก หวังป้องกันการแพร่ระบาดโรคติดต่อง่ายช่วงนี้ พร้อมขอให้ ปชช. ดูแลสุขภาพของตนเอง

วันนี้ (20 ต.ค.) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จะมีประชาชนเดินทางมาร่วมในพระราชพิธีจำนวนมาก ทั้งในบริเวณท้องสนามหลวง และส่วนภูมิภาคในแต่ละจังหวัด กรมควบคุมโรค จึงได้รับสมัครจิตอาสาทีมเฝ้าระวังสถานการณ์โรคและภัยสุขภาพผู้เข้าร่วมงานฯ (SAT) และทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรค (JIT) เมื่อมีเหตุโรคและภัยสุขภาพ เพื่อดำเนินการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรค รวมถึงการดูแลสุขภาพของประชาชนในท้องสนามหลวง ปฏิบัติงานที่บริเวณจุดถวายดอกไม้จันทน์โดยรอบและกรมควบคุมโรค เริ่มการประเมินความเสี่ยงการเกิดโรคตั้งแต่วันที่ 17 ตุลาคม 2560 ที่ผ่านมา และทำการเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคถึงวันที่ 30 ตุลาคม 2560

นอกจากนี้ กรมควบคุมโรค ยังได้สั่งการไปยังสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง และสำนักงานป้องกันควบคุมโรค (สคร.) ทั้ง 12 แห่งทั่วประเทศ ร่วมดำเนินการกับกรุงเทพมหานครและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ทั้งการให้ความรู้ แจกเอกสารความรู้ และคำแนะนำการปฏิบัติตัวแก่ประชาชนแต่ละจังหวัดเพื่อการป้องกันควบคุมโรคเมื่ออยู่ในสถานที่ที่มีคนรวมกันจำนวนมาก โดยเฉพาะจุดปล่อยรถโดยสารที่จะเดินทางมากรุงเทพฯ และร่วมกับจิตอาสาเฉพาะกิจด้านการแพทย์ในแต่ละพื้นที่ ดูแลสุขภาพประชาชนที่มาร่วมในงานพระราชพิธี

“ช่วงงานพระราชพิธีเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว ซึ่งสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง อาจทำให้มีฝนตกสลับอากาศร้อน กรมควบคุมโรค จึงขอแนะนําประชาชนในการดูแลสุขภาพในกิจกรรมที่มีการรวมตัวกันของคนจำนวนมากภายในพื้นที่จํากัด เพื่อลดการเจ็บป่วยและป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค โดยโรคติดต่อที่ควรระวังในช่วงนี้ ได้แก่ 1. โรคติดต่อระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคไข้หวัดใหญ่ ที่ติดต่อได้ง่ายในกลุ่มคนที่อยู่รวมกันแออัด 2. โรคติดต่อระบบทางเดินอาหาร ที่มากับอาหารและน้ำดื่มไม่สะอาด เช่น โรคอาหารเป็นพิษ และ 3. โรคที่มียุงลายเป็นพาหะ เช่น โรคไข้เลือดออกและโรคติดเชื้อไวรัสซิกา ไข้หวัดใหญ่ ติดต่อจากการไอ จามรดกัน หากมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก แม้จะมีอาการไม่มากก็ควรหยุดพักรักษาตัวจนกว่าจะหายเป็นปกติ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ แต่หากจําเป็นต้องเข้าร่วมงานที่มีคนจำนวนมากให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาและล้างมือบ่อยๆ” นพ.สุวรรณชัย กล่าว

นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า ส่วนโรคอาหารเป็นพิษ ในช่วงกลางวันที่มีสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวอาจทำให้อาหารบูดเสียได้ง่าย ประชาชนจึงมีความเสี่ยงจากโรคอาหารเป็นพิษ ประชาชนจึงควรเพิ่มความระมัดระวังในการรับประทานอาหารและน้ำดื่ม โดยเลือกรับประทานที่ปรุงสุกใหม่ หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารปรุงสุกๆ ดิบๆ นอกจากนี้ อาหารถุง อาหารกล่อง ควรแยกกับข้าวออกจากข้าว และควรรับประทานภายใน 2 ชั่วโมงหลังจากปรุงเสร็จ และหากมีกลิ่นผิดปกติไม่ควรรับประทาน รวมไปถึงต้องระวังโรคที่มียุงลายเป็นพาหะ การทิ้งภาชนะบรรจุอาหารในที่ที่ปิดไม่มิดชิดในช่วงที่ยังคงมีฝนตกชุก ทำให้ภาชนะเหล่านั้นเป็นที่ขังน้ำและกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายได้ ต้องหมั่นคว่ำ เทน้ำออก ส่วนประชาชนที่เดินทางมากรุงเทพฯ เพื่อมาร่วมงาน เดินทางโดยรถยนต์ รถโดยสาร พักในที่พักชั่วคราว อาจต้องระมัดระวังการถูกยุงลายกัดในเวลากลางวันด้วย เช่น ทายากันยุง สวมเสื้อผ้ามิดชิด อยู่ในที่โล่งโปร่ง เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น